“เอกกี้” สุดทน ฉะกลับ “เต๋า ทีวีพูล” ซัดแก่แล้วหนักหัวใคร ถึงจะหน้าแย่ที่สุดใน UHT แต่ฉันก็สวยที่สุด ตอกด่ายังไงถึงไม่ดังซักที กร้าวถ้าไม่หยุดเจอดีแน่ ไม่จบจะแท็กหาตลอด แถมจะรวบรวมรายชื่อศิลปินไปยื่นกสทช ฉุนหนักถามมึงจะรู้อะไร มานอนใต้เตียงกูเหรอ
ดรามาร้อนๆ กำลังระอุ กรณีที่ “เอกกี้ เอื้อสังคมเศรษฐ” โดน “เต๋า ทีวีพูล” และ “วีเจต้าร์” พูดจาหมิ่นศักดิ์ศรีวิจารณ์เสียหายในรายการที่นี่มายา ทั้งหน้าแก่ หน้าแย่ จนเจ้าตัวถึงกับเข้าไปเมนต์ในไอจีอีกฝ่าย จนถูกบล็อกใส่ ดีเจเอกกี้ทนไม่ไหว โพสต์จัดหนักรัวๆ ติดกันถึง 4 ฉบับ ด้านฝ่ายเต๋าก็ตั้งไอจีไพรเวตไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งล่าสุด เอกกี้ก็ได้เปิดใจว่าอีกฝ่ายไม่มีสิทธิ์กระแนะกระแหนใคร แล้วจะด่าทำไม ด่าเพื่อดังเหรอ ปัจจุบันก็ไม่ดังนะ ว้าว แซบเวอร์
“สิ่งที่อยากโพสต์ คือสิ่งที่เราอยากจะพูดตรงๆ คือทุกๆ คำในไอจี ไม่ได้มีการมโนหรืออะไรก็ตาม มีแฟนคลับส่งมาให้เรา คือมีอะไรแฟนคลับก็จะส่งมาให้ดูอยู่แล้วเราก็เข้าไปดูตลอด เขาไม่เคยพูดถึงเราดีเลย มีจิกกัด กระแนะกระแหนหัวเราะ บอกไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็เรื่องของคุณแต่ไม่มีสิทธิ์มากระแนะกระแหนคนอื่น หรือว่าวิเคราะห์โดยใช้ความคิดของตัวเองเป็นหลัก บางครั้งเราเข้าไปดู คือแบบคุณทำงานคุณไม่มีข้อมูลที่จริงเลย ตัวเราเป็นคนรู้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง สิ่งที่เราพูดไปคือความจริงทั้งหมด”
“คำพีกสุดมันก็รวมๆ กันนี่แหละ แต่รอบนี้ดูเป็นการเมาท์กันสนุกสนาน ชะนีน้อยก็รับส่งกันดี๊ดี ก็ไม่เข้าใจว่าการทำรายการ หรือการทำรายการบันเทิงมันจะต้องด่าทุกคนไปทั่ว ด่าทำไม ด่าเพื่ออะไร ต้องการจะดัง แล้วไง ก็ไม่ดัง ถูกมั้ย ทำมาตั้งกี่ปีก็ไม่เห็นดังเลยก็ยังด่าอยู่ได้”
“มันมีหลายประโยคที่ทนไม่ได้ อย่างที่บอก เช่นพูดถึง UHT แล้วบอกว่าเราหน้าแย่ที่สุด อันนี้เรายอมรับในสมัยนั้น แต่ถ้าถามใครสวยที่สุดฉันสวยที่สุด (หัวเราะ) มันแล้วแต่มุมมองไง แต่คือหัวเราะกันคิกคักสนุกสนานบอกเดี๋ยวนี้นางแก่มากแล้วไง ก็แล้วไงฉัน 43 แล้ว ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันไม่ศัลยกรรม ฉันไม่ฉีดโบท็อกซ์แต่ฉันเล่นกีฬาอย่างบ้าคลั่ง ฉันจะแก่แล้วไปหนักหัวใครรึเปล่า เราก็ยังทำงานของเรา คือคนเราเวลาทำงานอยู่กันด้วยคุณภาพเหอะ ไม่ใช่มาอยู่ด้วยการต้องมาด่ากันเพื่อจะเอากระแส มันไม่มีประโยชน์ รายการของหนู 0.0001 เรตติ้งได้รึเปล่า”
ปัดปรี๊ดเพราะถูกวิจารณ์แต่งหญิง ทำผิดก็อยากให้รู้ตัว บอกทีมเอกกี้ผุดเพียบ
“ไม่เกี่ยวเลย ไม่รู้เขาเป็นอะไร ก็งงเหมือนกัน เราไม่เคยไปด่าอะไรเขาเลย ไม่เคยพูดถึงชื่อเขาด้วยซ้ำ แล้วเชื่อมั้ยพอเราลงแบบนี้ดาราหลายคนส่งข้อความส่วนตัวมาหาเรา สิ่งที่เราต้องการเราโฟกัสแค่ว่าคนที่เขาทำผิดเราอยากให้เขารู้ตัว อยากให้เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำไม่ถูกต้อง วงการบันเทิงเราถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน พูดในมุมน่ารักๆ พูดในมุมที่คุณเห็น ไม่ใช่วิเคราะห์เรื่องส่วนตัวเขา คุณจะไปวิเคราะห์ได้ยังไงในเมื่อคุณไม่ได้เห็น”
ตอกไม่มีมูล ไม่ทำการบ้าน และอยากให้เปลี่ยนทัศนคติในการทำงานซะใหม่
“ไม่เคยเจอแต่เคยคุยกันผ่านทางรายการ ตอนนั้นเรารู้เลยว่าคนๆ นี้ไม่มีข้อมูลในการทำการบ้านไม่มีอะไรเลย ล่าสุดเขาตั้งไอจีไพรเวต ดีใจที่เขาได้รู้ในสิ่งที่เราสื่อสาร เพราะเราเข้าไปหาเขาในไอจีเลยนะแล้วก็พิมพ์ข้อความไปอย่างที่เราอยากจะสื่อสาร เราโพสต์เสร็จแล้วเราก็แคปไว้ เขาก็ยังไม่ขอโทษนะ คุณไม่ขอโทษไม่เป็นไร ถ้าเขาต่อสายตรงเข้ามาคุยก็ยินดีรับฟัง ถ้าเขามาด้วยความจริงใจเราก็พร้อมที่จะรับฟัง แต่อยากให้คุณเปลี่ยนทัศนคติในการนำเสนอรายการไม่ใช่ว่าคุณอยากจะด่าใครก็ได้ จะมาทำแบบนั้นได้ยังไง เราทำรายการบันเทิงเรายังไม่เคยด่าใครเลย อย่างมากก็จิกกัด น่ารักๆ ไม่มีใครเขาว่าอะไรหรอก ไม่ต้องมาขอโทษเราหรอกมันไม่จำเป็นแต่จะดูว่าต่อจากนี้คุณจะปรับเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานรึเปล่า”
กร้าวถ้าไม่หยุดเจอกันแน่ จะรวบรวมรายชื่อดารา-ศิลปินไปยื่นที่กสทช
“ฉบับที่ 4 มีแน่นอน เราจะคอยตามดูรายการเขาในบางครั้งถ้ามีคนแชร์มา ถ้ายังไม่หยุดเจอกันแน่นอน เราจะรวบรวมรายชื่อของดารา ศิลปินที่เขาพร้อมแล้วเราจะไปยื่นที่ กสทช เลย ว่าคุณทำรายการแบบนี้ได้ยังไง ถ้ายังไม่จบก็จะแท็กหาตลอดด้วย พอเราโพสต์แล้วเพื่อนดารามาต่อข้อความเรามันทำให้เรามีกำลังใจที่จะสู้นะ มี #ทีมเอกกี้ คือสิ่งที่เราสื่อสารเราบอกตรงๆ เราไม่ได้บิดเบือน ใครอ่านก็รู้ว่ามันจริง คือนำเสนออะไรที่มันสร้างสรรค์ดีกว่า การจิกกัดดารามันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่ว่าจิกกัดยังไงไม่ให้เขาเสียหาย แล้วไม่ได้วิเคราะห์ด้วยความรู้สึกของตัวเอง คุณไม่รู้จริงแต่คุณพูด ตอนนี้เรารวมตัวเพื่อนดารา เราเป็นแกนนำแก๊งแยกลำสาลีค่ะ คนนี้จัดรายการยังไง ด่าแต่คนอื่นแล้วก็ไม่ดัง แปลกใจจัง อย่างนี้ต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงาน มันไม่สร้างสรรค์เลย ชีวิตจริงมันไม่ใช่ละครนะ”
ฉะมึงรู้อะไรมานอนใต้เตียงกูเหรอ
“คือมันไม่ใช่แค่ครั้งนี้ ถ้าย้อนไปดูเวลาเขาเมาท์ในรายการ คือเหมือนจะรู้ แต่มึงรู้อะไร มึงมานอนใต้เตียงกูเหรอ ที่ผ่านมาเราก็ทำเป็นไม่สนใจแต่มันสะสมมาเรื่อยๆ เลยแบบต้องจัดซะหน่อย ตอนนี้ใจร่มลงแล้ว แต่ถ้าโดนบิวต์ก็อาจจะขึ้นอีก(หัวเราะ) ก็อยากจะให้เขาได้อ่านสิ่งที่เขียนด้วย นี่คือสิ่งที่เราอยากจะบอกเขา”