น้ำตาท่วม คอนเสิร์ตเพื่อ “แหวน ฐิติมา” ลูกสาว “ปันปัน” กอดพ่อร่ำไห้ ด้าน “แอม - ตู่ - ตุ๊ก” กลั้นน้ำตาไม่ไหว ร้องไห้กันระงม เผย รายได้จากคอนเสิร์ตกว่า 1.6 ล้าน ส่วนหนึ่งมอบให้ รพ.ศิริราช ขนลุกร็อกเกอร์หญิงในตำนานมาร่วมงานด้วย
กรีดไปถึงใจ “ปันปัน” ครวญเพลง “แม่แหวน” กอด “พ่อปุ๊” ร่ำไห้ เหล่าคนดังสะเทือนใจน้ำตาไหลพราก คอนเสิร์ต “เรามีเรา”
จบไปด้วยรอยยิ้มและคราบน้ำตา สำหรับคอนเสิร์ต “เรามีเรา” บันทึกความทรงจำครั้งสุดท้ายเพื่อร็อกเกอร์สาวในตำนาน “แหวน ฐิติมา สุตสุนทร” ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลามกระดูก โดยมีคนในวงการบันเทิงมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานดังกล่าวกว่า 100 ชีวิต ซึ่งนับเป็นการรวมตัวที่มากที่สุดโดยไม่มีเงื่อนไข นอกจากความรักที่มีให้แหวนและครอบครัว ซึ่ง “ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนขึ้นเวทีร่วมร้องเพลงเมดเลย์กับ ตู่ นันทิดา, แอม เสาวลักษณ์, ตุ๊ก วิยะดา, แหม่ม พัชริดา และ โอ๋ บุปผา ทางฝ่ายของน้องปันปันถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ร้องไห้ออกมาจน แอม เสาวลักษณ์
ต้องเข้ามากอด ในขณะที่ ตู่ นันทิดา ก็สุดจะกลั้นเช่นเดียวกัน
ก่อนจะปิดท้ายช่วงไฮไลต์ด้วย ปันปัน เลือกเพลง Sometimes when we touch มาร้องให้ทุกคนฟัง เพราะเป็นเพลงที่แม่แหวนชอบมาก เนื่องจากเป็นเพลงที่ทำให้แม่ได้เป็นนักร้อง รวมถึงทำให้ได้พบกับพ่อ “ปุ๊ กรุงเกษม” หรือ “บรรเจิด กฤษณายุธ” ซึ่งระหว่างที่ร้องเพลงดังกล่าวปันปันได้ปล่อยโฮออกมาด้วยความคิดถึงแม่ โดยมีพ่อปุ๊เดินมาสวมกอดลูกสาว หลังจากร้องเพลงจบลงปันปันได้พูดว่า “ไอเลิฟยู หม่ามี๊” พร้อมกับยิ้มทั้งน้ำตา เรียกเสียงปรบมือจากทุกคนด้วยความประทับใจ ซึ่งรายได้จากคอนเสิร์ตกว่า 1.6 ล้านบาท ส่วนหนึ่งครอบครัวจะนำไปมอบให้ รพ.ศิริราช ตามที่ได้ตั้งใจไว้
อย่างไรก็ตาม “ตู่ นันทิดา” ก็ได้เผยความรู้สึกต่อสื่อมวลชนพร้อมกับนักร้องรุ่นใหญ่ “ตุ๊ก วิยะดา” โดยขอชื่นชมจากใจว่าเป็นแม่ที่ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบที่สุด เชื่อวันนี้ก็มาด้วย
ตู่ : “ต้องบอกว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เรานึกเพลงกันเอง ครีเอทงานกันเอง”
ตุ๊ก : “งานนี้ไม่มีใครเชิญใครนะ พอใครรู้ก็ขอมากันจนถึงร้อยกว่าคน”
ตู่ : “ตั้งแต่เราทำงานกันมาวันนี้ถือว่าเรารวมตัวกันได้มาก แล้วแต่ละคนมากันเอง มันเป็นพลังรัก”
ตุ๊ก : “เป็นพลังรักที่เรามีให้แหวน เราจัดงานวันนี้เพื่อที่จะให้เขานอนดูไลฟ์ถ่ายทอดที่โรงพยาบาลแล้วมีเขาจะได้มีกำลังใจ เขาจะได้ฟังอย่างมีความสุข”
ตู่ : “แต่ไม่ทันก็ไม่เป็นไร เชื่อว่าแหวนก็ได้ฟังแน่นอนค่ะ เราก็เป็นศิลปินรุ่นแรกของแกรมมี่กันเลยตั้งแต่ พ.ศ. 2527 มี เต๋อ ตู่ แหวน แล้วตามด้วย พี่เบิร์ด พี่ปุ๊ อัญชลี อัศนี-วสันต์”
ตุ๊ก : “ส่วนตุ๊กนี่มาทีหลัง”
ตู่ : “ต้องบอกว่าพี่กับแหวนเราโตมาในวันเดียวกัน ลูกเราก็อยู่ในวัยใกล้กัน ลูกเราเรียนบัลเลต์ด้วยกันตั้งแต่เด็ก พี่ตู่กับแหวนก็จะมีกิจกรรมร่วมกันคือไปนั่งเฝ้าลูกเรียนเป็น 10 กว่าปี เวลาทำงานเราก็เจอกันตลอด มันมีหลากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตกับเพื่อนคนนี้ ช่วงหนึ่งที่ครอบครัวพี่ตู่ลง ส.ส. แหวนก็ไปเป็นเพื่อน ไปเดินหาเสียงกับพี่ตู่ทั้ง 3 เดือน ไปเดินกันเป็นหมื่นๆ พันๆ หลังก็ไปด้วยกัน เรามีความรักความผูกพันกันมาก เหมือนคนในครอบครัวของพี่ตู่คนหนึ่งเลย ในวันนั้นที่ไป เขาก็ดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องอยู่ในความดูแลของหมอ แหวนเป็นคนที่มีกำลังใจที่สูงมาก”
ตุ๊ก : “ทุกครั้งที่เจอกันเราไม่เคยรู้อาการจากเพื่อนคนนี้เลยว่าตอนนี้เขาไม่ดีแล้วนะ ทั้งๆ ที่เขารู้ตัว เขาก็ยังไปพับดอกไม้จันทน์ยังทำอะไรเหมือนปกติ”
ตู่ : “เราเห็นภาพเพื่อนไปพับดอกไม้กับพี่เบิร์ดและน้องๆ ก็คิดว่าเพื่อนปกติดี ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเร็วเกินไปสำหรับพวกเรา ความรู้สึกมันเหมือนเรายังเพิ่งเจอกันใหม่ๆ เราเคยร้องเพลงประจำที่โรงแรมอยู่ด้วยกัน ในวันสุดท้ายที่ได้เจอ แหวนก็ยังคงมีรอยยิ้มให้ เขายังสนุก”
ชื่นชมทำหน้าที่แม่ได้สมบูรณ์แบบ รักลูกมากถึงขนาดปักชุดยิมนาสติกให้ลูกเอง ลั่นเป็นคนง่ายๆ จนทำให้ทุกคนลืมว่าเป็นคนสำคัญ
ตุ๊ก : “เขาเป็นคนที่รักลูกรักครอบครัวมาก ออกคอนเสิร์ตด้วยกัน พี่ตุ๊กจะต้องออกคู่กับพี่แหวนระหว่างรอที่จะเปิดม่าน เขายังคุยโทรศัพท์กับที่บ้านหากางเกง ชุดวอร์มให้ลูกอยู่เลย ก็บอกเขาว่าพี่แหวนจะออกคอนเสิร์ตแล้วนะที่บ้านทำอะไรกันไม่เป็นเลยเหรอ พี่แหวนก็จะบอกว่าไม่ได้เลย ต้องเขาคนเดียว อีกคอนเสิร์ตหนึ่งพี่แหวนก็นั่งปักชุดยิมนาสติกให้ลูกเอง เรื่องรับส่งลูกอันนี้ไม่ต้องพูดถึงเขาทำหน้าที่ตลอดเวลา เขาเป็นมารดาแห่งชาติจริงๆ”
ตู่ : “แหวนเป็นแม่ที่ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ นอกจากเป็นแม่แล้วเขายังทำหน้าที่ดูแลสามีได้ดีด้วย เพราะพี่ปุ๊ก็ไม่สบายเช่นเดียวกัน แหวนเป็นคนที่ใจ เขาเกินจริงๆ สำหรับผู้หญิงคนนี้ เราไม่เคยเห็นเขาเหนื่อย ไม่เคยเห็นเขาฟูมฟายเลย แม้กระทั้งที่เขาป่วยเขาก็ไม่เคยแสดงอาการว่าเขาไม่ไหว เขาจะมีแต่รอยยิ้มมาให้”
ตุ๊ก : “พี่ฉอด (สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา) ยังพูดเลยว่าตั้งแต่จัดคอนเสิร์ตมา พี่แหวนเป็นศิลปินที่อะไรก็ได้ ยังไงก็ได้จนบางทีเราลืมไปว่าเขาสำคัญกับพวกเรา เรายังคุยกันว่าเราดูแลกันน้อยไป เพราะต่างตนต่างก็มีภารกิจ เราก็เสียใจที่เราดูแลกันน้อยไป”
ลั่นป้าๆ ทุกคนจะดูแลหลานเอง
ตู่ : “ปันเองเป็นเด็กที่รักดีมาก หลานเรียนดี ตั้งใจเรียน ทำทุกอย่างได้ดีพ่อแม่ไม่ต้องกังวล เราป้าๆ ทุกคนพร้อมที่จะช่วยดูแลหลานกันตลอดไป”
ตุ๊ก : “ก็ยังบอกเขาว่าไม่ต้องหวงนะ มีอะไรก็ช่วยกันไป ในด้านจิตใจนะ อย่างอื่นเขาก็โตแล้ว”
ตู่ : “โชคดีที่หลานจบปริญญาตรีแล้ว เขาอยู่ในวุฒิภาวะที่เขาโตพอสมควรแล้ว แต่ยังไงเขาก็ยังเด็กสำหรับเรา เราทุกคนในวันนี้พร้อมที่จะช่วยกันดูแลเขา”
กอดคอร้องไห้ มั่นใจ “แหวน” มาอยู่ในคอนเสิร์ตด้วย
ตุ๊ก : “เมื่อวานเราไปถึงตึกเราก็พยายามคุยเล่นเพื่อให้กำลังใจพี่ปุ๊ แต่พอเราเข้าไปในห้องอัด หันมามองหน้ากันมี บุปผา วิยะดา นันทิดา แล้วฐิติมาอยู่ซ้ายสุด พอปันร้องก็เหมือนเห็นเขาร้อง ก็นึกถึงเขา”
ตู่ : “แหวนเขาสอนลูกมาว่าเพลงนี้ต้องร้องแบบไหน เราก็บอกว่าลูกไม่ต้องมาซ้อมก็ได้เพราะลูกต้องนอนกับคุณแม่ทุกวัน แต่ปันเขาก็บอกว่าไม่ได้ค่ะเพราะคุณแม่บอกว่าต้องไปซ้อม ปันบอกว่านี่คือวันสุดท้ายที่คุณแม่พูด”
ตุ๊ก : “เชื่อว่า วันนี้แหวนได้เห็น นี่มีหลายคนแล้วนะมาแอบบอกว่าพี่แหวนมา โบ สุนิตาเองก็บอกว่าเมื่อคืนเดี๋ยวไฟก็ติดเดี๋ยวไฟก็ดับ เราเชื่อว่าแหวนมาแน่นอน”
ตู่ : “แหวนไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้วเนอะ เราไม่อยากให้วันนี้เกิดขึ้น เราทำใจไว้แล้วแต่พอถึงเวลาจริงๆ เราก็ยอมรับว่าเราทำใจไม่ได้ แต่ชีวิตคนเราก็ต้องก้าวเดินต่อไป แหวนก็คงอยู่กับเรานี่แหละในวันนี้ ขอบคุณทุกคนในวันนี้ที่รักพี่แหวน”
ตุ๊ก : “เราไม่รู้จะพูดอะไรถึงเขาเพราะมันมีมากมายจริงๆ แต่ที่แน่ๆ เราไม่เคยเห็นเขาเหนื่อยล้า ไม่เคยเห็นเขาท้อ มีแต่การให้กำลังใจ ไม่เคยเห็นความเรื่องมาก คิดอะไรไม่ดีกับใคร (ร้องไห้ทั้งคู่)”