ปล่อยผลงานเพลงใหม่ออกมาให้ได้ฟังกันแล้วสำหรับนักร้องลูกทุ่งหมอลำซิ่งวัย 18 ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้อย่าง “ลำไย ไหทองคำ” (สุพรรณษา เวชกามา) กับเพลงจังหวะสนุกๆ ที่มีชื่อว่า “ผู้สาวขาเฟี้ยว”
โดยในส่วนท่าเต้นของสาวลำไยในครั้งนี้ ก็ต้องถือว่าแปลกตาไม่น้อย เพราะแม้จะยังคงไว้ซึ่งความเซ็กซี่ แต่ก็มีการลดท่าเต้นที่แสดงความยั่วยวนในเรื่องทางเพศ ทั้งท่าโยก ท่าเด้า อันเป็นเอกลักษณ์ลงไป ซึ่งผู้ที่ดูแลท่าเต้นให้กับนักร้องหญิงและแดนเซอร์ก็คือทายาทสาวราชินีหมอลำ “บานเย็น รากแก่น” อย่าง “แคนดี้ รากแก่น” นั่นเอง
ทั้งนี้ ทางด้านของ “แคนดี้ รากแก่น” ยังได้แสดงความเห็นผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวถึงการได้ร่วมงานกับนักร้องหญิงด้วยว่า อีกฝ่ายเป็นคนที่มีความสามารถมากกว่าการเต้นท่ายั่วยวนอย่างที่ใครหลายคนมองและวิจารณ์ และถึงแม้งานครั้งนี้จะมีเวลาเตรียมตัวน้อย แต่เจ้าตัวก็สามารถทำออกมาได้ในระดับที่น่าพอใจเป็นอย่างมากอีกด้วย
“เช้ามาตื่นมาด้วยอาการปวดเมื่อยทั้งตัว เพราะเมื่อวานไปคุมถ่าย MV เพลงใหม่ของลำไย ไหทองคำ สาวน้อยที่กำลังเป็นกระแสสังคมที่สุดในตอนนี้ แคนดี้รับงานนี้ เพราะ ลำไยและไหทองคำบอกไปยังโปรดิวเซอร์ว่าต้องการให้แคนดี้ออกแบบท่าเต้นและสอนเต้นให้ และก็พอดีกับที่คนทำเพลงนี้ คือคนที่เราเคารพรักทั้งคู่ เราจึงรับปากทำให้ทันทีโดยไม้คิดค่าใช้จ่ายอะไร..นอกจากทำท่าเต้น เลยได้ทำชุด concept ให้ด้วย..”
“บอกเลยว่างานนี้ไฟลนมาก มีเวลาทำทุกอย่าง 3วัน!!!!! แม้แต่ท่าเต้นยังต้องมาซ้อมให้ลำไยและ 2 สาวแดนซ์ของลำไยหน้างาน เมื่อถึงวันถ่าย MV แคนดี้ไปพร้อมกับ dancer4คนและครูสอน2คน..คิดว่าเวลาสั้นๆ คงเก็บท่าให้ดีไม่ทันแน่ๆ..แต่ แต่ แต่... แต่ที่ไปไหนได้ ลำไย คือลูกศิษย์ที่เก่งมาก..สมกับที่เรามองไปว่า นี่แหละการท้าทายความสามารถของเรา ที่จะดึงเอาความสามารถจริงๆ ของน้องออกมาโชว์ แทนท่าแหกขา อ้าเด้า ที่เราหรือหลายๆ คนไม่ชอบ!!!”
“ลำไย ทำได้ ทั้งเต้น ทั้งรำ!! เต้นสวยด้วย เต้นพลิ้ว จำง่าย สอนง่าย เป็นคนเดียวที่เต้นท่า Hook ได้อย่างที่แคนดี้ต้องการ (รอชมนะ) ส่วนท่ารำ..ก็ออกแบบท่ารำให้สมกับชื่อ ไหทองคำ..และน้องก็ทำได้ดี...เอาเซ้!!! ขอชมลูกศิษย์คนนี้จากใจเลยว่า ลำไยมีความสามารถมาก เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่มีคนนำทางที้ดี..สังคมที่รุมด่าน้องอยู่ นั่นคืออดีตที่เคยพังของน้อง..รอชมสิ่งใหม่ที่กำลังจะเกิดกับ ลำไย ไหทองคำนะ บอกเลยยะ สมแล้วที่น้องจะก้าวขึ่นมาเป็นซุปตาร์คนใหม่ของเมืองไทย...”
