xs
xsm
sm
md
lg

“ทอม Room39” เผยดรามา “มน” น้ำตาคลอโดนไล่ออกจากเฟรม ยันวงจะไม่แตก ถ้ารักกันมากพอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ทอม Room39” เผยดรามา “มน” น้ำตาคลอ โดนไล่ออกจากเฟรม ยันแค่ความเข้าใจผิดกัน ลั่นวงต้องมาก่อน บอกวงจะไม่แตก ถ้ารักกันมากพอ

มีเหตุดรามากับวง Room39 อีกแล้ว หลังจากที่หนุ่ม “ทอม อิศรา กิจนิตย์ชีว์” โด่งดังในฐานะ “หน้ากากทุเรียน” ทำให้มีการจ้างงานให้ฉายเดี่ยว จนเกิดกระแสว่าเริ่มมีปัญหากับสมาชิกในวง นี่ยังมีเหตุการณ์ตอกย้ำที่สมาชิกทั้ง 3 คนไปขึ้นคอนเสิร์ตให้กับคลื่นวิทยุคลื่นหนึ่ง ก่อนขึ้นเวทีก็มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อ และมีถ่ายรูปรวมกับผู้บริหาร แต่ปรากฏว่า ทีมงานกลับบอกให้สมาชิกอีกสองคน คือ “โอฬาร ชูใจ” และ “ชุติมน วิจิตรทฤษฎี” ถอยห่างออกมา แล้วให้ทอมถ่ายเดี่ยวกับผู้บริหาร ทำให้ทั้งสองคนออกอาการเหวอทันที และสาวมนก็ถึงขั้นน้ำตาซึมเลยทีเดียว

ล่าสุด เจอทั้ง 3 คนไปโชว์มินิคอนเสิร์ตที่บูธยูไนเต็ดฟูดส์ AA01 บริษัท ยูไนเต็ดฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ณ งาน Thaifex World of foods Asia 2017 ฮอลล์ 2 อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี สมาชิกทั้งหมดก็เผยถึงเหตุการณ์ดรามาที่ผ่านมา ว่า คงเป็นการเข้าใจผิดของทีมงาน เพราะไม่ได้มีการตกลงกันไว้ก่อน

ทอม : “จริงๆ เราก็รวมตัวกันเรื่อยๆ อยู่แล้วครับ คือ มันอาจจะมีงานบางอย่างที่เสริมขึ้นมาที่เป็นทอมเดี่ยว งานเช่นงานทุเรียนหรืองานอะไรที่มันค่อนข้างชัดเจนก็คงจะต้องเป็นเราไปออก แต่ว่าโดยมากก็จะเป็นแค่โชว์ตัว ร้องเพลงอยู่แล้วครับ”
โอ : “จริงๆ เราก็เล่นในผับด้วยกันเกือบทุกวันอยู่แล้ว ก็จะเป็นปกติที่เราได้เจอกัน ได้คุยกันบ่อยๆ อยู่แล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรครับ เพราะเราก็คุยกันตลอด เข้าใจกัน เคยคุยกันเรื่องพวกนี้บ่อยอยู่แล้ว คืออยู่ที่พื้นฐานของความเข้าใจกัน ก็จะทำให้เราคุยกันได้ง่าย”

ทอม : “คือ มองว่าถ้าเรารักและเข้าใจกัน มันไม่มีทางวงแตกหรอก อย่างที่โดนถามว่าทำงานเดี่ยวเยอะกว่างานวง หรืองานวงจะมีเยอะหรือมีน้อยมันไม่ได้เป็นตัวแปลที่จะทำให้วงอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ได้ มันอยู่ที่ความเข้าใจของเรามากกว่า”

รับออกงานเป็นวง แต่ทอมถูกจับถ่ายรูปกับผู้บริหารคนเดียวจนมีอารมณ์ แต่จับมือไปด้วยกัน เคลียร์เข้าใจ
มน : “เรื่องงานวันนั้นคือด้วยความที่วงของเราคุยกันแล้วว่าเราจะต้องแบ่งงานกันให้ถูกต้องว่าจะทำอะไรบ้าง โดยที่วงก็ต้องมาอันดับหนึ่ง ทอมก็ยืนยันแล้วว่ายังไงวงก็มาก่อนเสมอ เพราะฉะนั้นในวงเราเข้าใจกันดี แต่ทีนี้เมื่อวานมันอาจจะเกิดเรื่องนิดหนึ่ง อาจจะด้วยความที่เขาไม่ได้แจ้งก่อนหรือเราไม่รู้”

โอ : “ด้วยความที่เขาอาจจะไม่เข้าใจว่าจะต้องพรีเซนต์ในรูปแบบของวง เขาก็ไม่ได้แจ้งเราก่อนด้วย ก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าเราในฐานะศิลปินไม่ได้แยกกัน มันก็ทำให้กระทบความรู้สึกเหมือนกัน”

มน : “ตอนนั้นน้ำตาก็จะไม่ซึมหรอก แต่ต้องบอกตรงๆ ว่ามีพี่นักข่าวให้กำลังใจอยู่และพูดขึ้นมาว่าเขามาเป็นวงนะ จะแยกเขาได้ยังไง ซึ่งเป็นประโยคที่รู้สึกว่าเช้าวันนั้นเราก็ซึ้งกันมาอยู่ดีๆ มีแฟนมีตติ้งกัน แต่พอมาเจอช็อตนี้ทำให้เรารู้สึกว่าวงเรายังโอเคกันนะ เพียงแต่อาจจะไม่รู้ล่วงหน้าในงานเมื่อวาน จริงๆ ก็งงนิดหนึ่ง เพราะไปยืนเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ดีๆ ก็มาบอกว่าให้ถอยไปสองก้าว คือตอนแรกจัดเรียบร้อยแล้ว อยู่ในเฟรมแล้ว แต่มาบอกว่ารบกวนถอยสองก้าวออกมาก่อน ซึ่งตอนนั้นเราพร้อมที่จะถ่ายรูปแล้วไง”

ทอม : “ตอนนั้นผมยังหันไปกวักมือเรียกมนอยู่เลย แต่ก็เห็นว่ามนเริ่มมีนิดหนึ่งแล้วล่ะ เราก็จับมือเขาว่าไม่เป็นไรนะ เพราะเป็นสิ่งที่เราคุยกันเข้าใจแล้ว และเราควรจะเป็นคนเลือกเองมากกว่าว่าเราจะไปแบบวงหรือเราจะไปแบบไหน ไม่ใช่ว่าคนๆ หนึ่งจะมาบอกว่าฉันไม่เอาเธอ มันก็ต้องคุยกันตั้งแต่แรกว่างานนี้จะเป็นแบบไหน งานไหนจะเป็นแบบไหน ผมเชื่อว่าอาจจะเป็นการคุยไม่เข้าใจของคนหนึ่งคนก็ได้ ไม่มองเป็นภาพรวมของทีมนั้นดีกว่า เพราะตอนว่าจ้างงานเขาก็จ้างในรูปแบบวงอยู่แล้ว แต่คนๆ นั้นอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือเปล่าผมก็ไม่อาจทราบได้”

แอบคิดความดังกระทบคนอื่นหรือเปล่า บออกถ้าเรารักกันมากพอ วงไม่มีทางแตก
ทอม : “ถามว่าเพราะความดังของผมไปส่งผลกระทบกับเพื่อนๆ หรือเปล่า ก็คิดบ้าง แต่อย่างที่บอกถ้าเรารักกันพอ อะไรก็ไม่สามารถมาทำให้เราแตกกันได้เลย”

มน : “ทอมเขาจะกังวลเสมอ และเขาจะมาพูดกับเราว่าขอโทษนะ เข้มแข็งนะ เราเองไม่รู้หรอกว่าเราต้องเจอกับอะไร แต่เราต้องเตรียมพร้อมที่จะเจอมากกว่า”

ทอม : “บางทีเราอาจจะอ่อนไหวจากคำพูดที่คนคอยถาม แต่พอเราโอเคแล้วก็จะชิลๆ ไม่ได้อะไร”

ยืนยันพร้อมมีอัลบั้มใหม่ ต่อไปจะคุยกันให้เข้าใจมากกว่านี้
มน : “เราจะมีอัลบั้มต่อไปแน่นอนค่ะ (ยิ้ม)”

โอ : “คือ เราอยู่กันมาตั้งแต่ยังไม่มีอะไร ตั้งแต่อายุ 16 ร้องเพลงด้วยกันมา เราเป็นเหมือนพี่เหมือนน้อง เราเข้าใจกันหลายๆ อย่าง ไม่ว่าเราจะโตขึ้นหรืออะไรไปบ้าง แต่ถ้าเรายังรักกันอยู่ คุยกัน เข้าใจกัน แคร์กัน ก็จะมีความรู้สึกว่าเรายังมีครอบครัวอยู่ แต่เราเสียความรู้สึกแค่ว่าเชิญเรามา แต่อาจจะไม่ได้เทคแคร์เราแบบนั้น ก็มีนิดหน่อย”

ทอม. : “มันก็มีนิดหน่อย แต่มันไม่เกี่ยวกับผมครับ (หัวเราะ)”

โอ : “ถ้าต่อไปก็คงต้องคุยกันก่อนตั้งแต่หน้างาน เพราะยังไงคิดว่าทุกคนก็คงเข้าใจดี”

ทอม : “คือเรามีแต่จะส่งเสริมกันว่าพี่โอทำอะไรได้ดีพี่โอทำ มนทำอะไรได้ดีมนทำ ทอมทำอะไรได้ดีพี่โอกับมนก็ส่งเสริมทอม room39 ก็ยังเป็น room39 อยู่ครับ (ยิ้ม)”



กำลังโหลดความคิดเห็น