“โกะตี๋” เซอร์ไพรส์ “กวาง” ขอแต่งงานที่มัลดีฟส์ เผยปีหน้าวางแพลนทำงานหนักทั้งปี เพื่อสร้างรากฐานในอนาคต ไม่อยากให้เมียอายใคร เล็งเปิดบริษัทที่ญี่ปุ่นด้วย ไม่เสียดายฉีดยาเข็มละ 4 แสน ใน 1 สัปดาห์ ติดต่อกัน 1 ปี ฟิตจัดจะต้องมีลูกให้ได้ อยากให้แม่เห็นหน้าหลานก่อนตาย
ขอแต่งงานแฟนสาวไปเป็นที่เรียบร้อยในบรรยากาศสุดโรแมนติกที่เกาะมัลดีฟส์ สำหรับตลกร่างเล็ก “โก๊ะตี๋ อารามบอย” หลังคบหาดูใจกันมาได้ 2 ปี โดยหนุ่มโก๊ะตี๋ได้เผยถึงเรื่องนี้ในงานแถลงข่าวแอปพลิเคชันครัวคุณต๋อย ณ สตูดิโอกันตนา รัชดา ว่า งานนี้คนที่ตื่นเต้นคือตน ส่วนแฟนสาวดูจะไม่ค่อยตื่นเต้นสักเท่าไหร่
“มี ดีเจ ต้นหอม ศกุนตลา ด้วยครับ แล้วก็มีผู้ชายของเขาไปด้วยครับ (ยิ้ม) จริงๆ ทริปนี้ต้องบอกก่อนว่าหนูจองไว้ประมาณ 4 - 5 เดือน ตั้งแต่กลางปี เพราะตัดสินใจว่าอยากจะขอเขาแต่งงานที่นั่น และบังเอิญมาเกิดเรื่องราวการสูญเสียของแผ่นดินไทยก่อน ก็ไปกันเงียบๆ หลังจากนั้น เพียงแค่ 10 วันเอง คือจ่ายค่าตั๋วไปแล้ว จะไม่ไปก็กระไรอยู่ พิธีขอแต่งงานก็ไม่มีอะไรมากมาย แหวนวงเดียวกับดอกไม้ที่เขาหาให้ในมัลดีฟส์นั่นแหละ ช่อเล็กๆ ช่อหนึ่ง แต่แหวนเตรียมมาก่อนหน้านี้แล้วครับ”
“งานก็เล็กลงจากที่คิดไว้พอสมควร แทบจะไม่มีอะไรเลย เหมือนแค่คุยกันว่าแต่งงานกันนะแค่นั้น คำพูดไม่ได้มีอะไรมากมายเลย คือ หนูก็อยู่ในพะวังตัวเอง เราก็บอกกับเขาว่าบอกกับโกเขาแล้วนะ บอกกับพี่น้องเขาแล้วนะว่าจะมาขอกวางแต่งงานที่นี่ เขาก็ถามว่าใช่เหรอ เราก็บอกใช่บอกหมดแล้ว แต่ยังไม่ได้บอกแม่เพราะโกบอกว่าโกจะเป็นคนไปพูดกับแม่เอง ก็บอกกับเขาว่าพี่ก็โตแล้ว และอยู่ในวัยที่น่าจะมีครอบครัวได้แล้ว ก็คิดว่าไม่น่าจะมีใครแล้ว ก็เลยขอเขาไป”
“หนูตื่นเต้นนะ แต่มันเหมือนเซอร์ไพรส์ซ้อนเซอร์ไพรส์ คือ มันเป็นวันเกิดของพี่ต้นหอมพอดี แล้วไอ้พนักงานโรงแรมก็มาถามเป็นภาษาอังกฤษว่าตกลงใครจะขอใครแต่งงานเหรอครับ ซึ่งเราก็อยู่ตรงโต๊ะกินข้าวกัน 10 กว่าคน แล้วก็มีพี่คนหนึ่งบอกว่าไม่ใช่ เป็นเซอร์ไพรส์วันเกิด ก็กลายเป็นว่าพี่ต้นหอมรู้ว่าจะมีเซอร์ไพรส์วันเกิด แต่ของหนูน่ะเขายังไม่รู้ครับ”
“แต่ถึงแผนแตกก็ไม่เป็นไรครับ ชีวิตของคนสองคนมันไม่ได้อยู่ที่เรื่องแผนหรอกครับ แต่ตอนแรกที่วางแผนไว้คืออยากให้เขาประทับใจ แต่พอออกมาอย่างนี้กวางเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาก็โอเค เอาจริงๆ เลยคือเขายังรู้สึกน้อยกว่าวันเกิดของเขาที่หนูเอาดอกไม้ไปมอบให้อีกนะ ไม่รู้วันนั้นเขาอยู่กับเพื่อนมากหรือยังไงหนูก็ไม่รู้ มันมีอยู่ปีหนึ่งล่าสุดนี่แหละวันเกิดเขาแล้วเหมือนงอนๆ กัน เราก็บอกว่าจะไปทำงานต่างจังหวัด ก็โกหกเขา เขาก็บอกไม่เป็นไรเดี๋ยวไปกินข้าวกับพี่ๆ ที่ออฟฟิศ แต่เราน่ะรู้กับพี่ๆ ที่ออฟฟิศของเขาหมดแล้วล่ะ พอไปถึงเขาก็ร้องไห้ วันนั้นภาพวิดีโอก็ยังอยู่แต่หนูยังไม่ได้ลง แต่วันที่ขอแต่งงานเขาก็มีน้ำตาซึมๆ หรือเขาจะไม่เอาแล้วก็ไม่รู้ แต่เขาก็ตอบเซย์เยสครับ”
เผยปีหน้าวางแพลนทำงานหนักทั้งปีเพื่อสร้างรากฐานในอนาคต ไม่อยากให้เมียอายใคร
“หนูตั้งใจไว้ว่าปี 60 หนูจะตั้งใจทำงานทั้งปี พอปี 61 ต้นๆ ปีก็อยากจะแต่ง แต่ปี 60 จะเป็นปีหฤโหดของหนูครับ แต่ขอล่วงหน้าไว้ก่อนไม่เป็นไรครับ เพราะเดี๋ยวคนอื่นมาขอแซงครับ (ยิ้ม) แต่ปี 60 นี่ตั้งใจอย่างยิ่งเลยครับ เพราะเดี๋ยวปลายปีนี้หนูไปญี่ปุ่น ไม่ได้ไปเที่ยวอย่างเดียวนะ ไปคุยธุรกิจที่จะเปิดบริษัทที่ญี่ปุ่นด้วย ก็จะวางรากฐานการเงินไว้ก่อน ไม่อยากให้เขาอายใครน่ะ”
“อลังการมั้ยหนูไม่รู้ว่าเทียบกับใครล่ะ แต่มันก็คงเป็นความพึงพอใจของเราสองคนและญาติพี่น้องของเขาและญาติพี่น้องของเราแค่นั้นแหละ คือชีวิตของคู่รักบางทีไม่ได้เกี่ยวกับการแต่งงานหรอก บางคนได้น้ำสังข์พระราชทานก็เลิกกันเยอะแยะ บางคนจัดงานใหญ่โต 20 - 30 ล้านอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เยอะ เพราะฉะนั้นหนูคิดว่ามันเป็นความพึงพอใจของคนสองคน สถานที่หรือว่างานแต่งงานมันไม่ได้บ่งบอกหรอกว่าคุณจะอยู่กันยืดยาวมากแค่ไหน”
บอกลดน้ำหนักลงไปได้ 26 กิโลกรัม เพราะอยากแข็งแรงดูแลแม่ไปนานๆ
“หนูตั้งใจลดอยู่แล้ว ประเด็นแรกที่หนูลดน้ำหนัก คือ เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมปี 58 ไปหาหมอ หมอบอกว่าโก๊ะตี๋ถ้าไม่ลดน้ำหนักนี่ตายไวนะ เพราะว่าเบาหวาน ความดัน กรดยูริก ไขมันในเส้นเลือดทั้งหมด พร้อมที่จะสิ้นใจได้ตลอดเวลา เรากลับบ้านมานั่งกินข้าวกับแม่ มองหน้าแม่แล้วบอกกับตัวเองว่ากูตายก่อนแม่ไม่ได้ แค่นั้นเองนี่คือจุดเริ่มตัน ก่อนหน้านี้ หนูพยายามลดน้ำหนักมาหลายครั้ง แต่ทำไม่เคยสำเร็จ แต่ครั้งนี้แรงบันดาลใจก็คือแม่ มองหน้าแม่ทุกครั้งก็รู้สึกว่ากูต้องแข็งแรง ต้องอยู่ดูแลแม่ก่อน ถ้ากูตายไม่มีใครดูแลแม่ดีเท่ากูแน่นอน เวลาเหนื่อย ล้า ท้อ เวลาตบะแตกเวลากินหรือไม่มีระเบียบวินัยในการออกกำลังกายหนูจะนึกถึงหน้าแม่แล้วก็ออกไปเตะบอล เมื่อก่อนทานแต่คากิ เลาะหนังมาเลยมันล้วนๆ ตอนนี้ไม่เอาแล้ว”
“สุขภาพตอนนี้ดีทุกอย่าง ไม่มีโรคใดๆ ทั้งสิ้น ลงไป 26 กิโลครับ จาก 96 กิโล หนูตั้งเป้าไว้กับตัวเองว่าน่าจะเหลือสัก 65 และปี 60 นี้หนูจะฟิตแอนด์เฟิร์ม ก็ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีซิกแพ็กแหละ แต่จะมีหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่จะทำให้ตัวเองดีที่สุดครับ”
ไม่รู้อนาคตจะมีลูกได้หรือไม่แต่พร้อมสู้ค่ายาเข็มละ 4 แสน เพื่อที่จะมีลูกให้ได้ อยากให้แม่เห็นหลานก่อนจากไป
“เรื่องการมีลูกตอนนี้ยังมีไม่ได้ครับ และไม่รู้ว่าอนาคตจะมีได้หรือเปล่า ก็ทำกับมันอย่างเต็มที่ครับ หมายถึงรักษาตัว ดูแลตัวเอง จริงๆ เห็นครอบครัวคนอื่นรุ่นเดียวกันเขามีลูกไปหมดแล้ว กระแต ศุภักษร, เป้ย ปานวาด, พี่เบนซ์ พรชิตา คือ ลูกเขาจะโตหมดแล้ว เดี๋ยวนี้ดูไอจีกดไลก์แต่รูปลูกดารา แม่พ่อมันไม่ค่อยได้กดไลก์หรอก กดแต่รูปลูก ชีวิตตัวเองก็อยากมีสักคนหนึ่ง อยากมีให้แม่ก่อนที่แม่จะจากเราไปครับ แต่ถ้ามีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะหนูเคยเฟลไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อ 10 กว่าปีก่อนหนูเคยอยากมีลูก แล้วหมอบอกว่าหนูมีไม่ได้ หนูเคยเสียใจไปแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ธรรมดา ก็คงเสียใจ แต่ก็พยายามทำกับมันให้เต็มที่ มันจะมีได้หรือไม่ได้ก็ลองอีกตั้งหนึ่ง เพราะเมื่อก่อนกับตอนนี้มันก็แตกต่างกันครับ”
“กินฮอร์โมนทุกวันครับ 3 เดือนฉีดทีสำหรับฮอร์โมนเพศชาย และที่กินทุกวัน คือ ยาหมอที่ควบคุมร่างกาย แต่เขาก็บอกว่าโรงงานที่ผลิตน้ำอสุจิกับโรงงานที่ผลิตตัวอสุจิมันคนละโรงงานกัน ตอนนี้เราบำรุงตัวที่ผลิตน้ำอสุจิ แต่คุณหมอบอกว่ามันไม่มีตัวอสุจิแน่นอน ถ้าจะมีต้องให้ร่างกายแข็งแรงกว่านี้ แล้วต้องให้ยาอาทิตย์ละ 2 ชนิดๆ ละ 2 เข็ม อาทิตย์ละ 4 แสน เตรียมไว้เลย แต่ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือ ถ้าคิดจะมีลูก แล้วไม่รู้ว่าจะมีได้หรือเปล่า เราก็เลยตัดคำว่ามีลูกทิ้งไป ไม่เป็นไร มีไม่ได้ก็ไม่มี”
“กวางเขาเข้าใจครับ คุยกันมาตั้งแต่ปีแรกๆ ตอนแรกเขาก็ไม่อยากมีหรอกครับ ถามว่าจะไปรับเด็กมาอุปการะมั้ย คงไม่ครับ จะไปฝากท้องหรือเอาเชื้อคนอื่นมาก็คงไม่ครับ คือเอาลูกเขามาเลี้ยงเอาเมี่ยงเขามาอมหนูว่านิสัยพ่อนิสัยแม่เขาเป็นยังไงก็ไม่รู้ ถ้าจะมีลูกก็ขอให้เลือดเนื้อเชื้อไขมาจากเรา แต่ถามว่า 4 แสนนี่เราจะสู้มั้ย สู้ครับ หลังจากแต่งแล้วหนูสู้แน่นอน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า ต้องทำร่างกายให้พร้อมก่อน”
“ระยะเวลานานแค่ไหนอันนี้ยังไม่ได้ถามหมอ หมอบอกว่าอาจจะ 2 - 3 เดือน หรือ 1 ปี คือ ไม่รู้ว่าให้ไปแล้วโรงงานนี้มันปิดไปหรือยัง ถ้าโรงงานปิดไปแล้วต่อให้คุณให้เท่าไหร่มันก็ไม่มี เพราะว่าตอนเด็กๆ เราไม่ได้รับการพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องฮอร์โมนมาตั้งแต่เด็กๆ นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตั้งใจจะทำงานเก็บเงินด้วย แต่โดยส่วนตัวเราก็ต้องใช้ด้วย ครอบครัวเราก็ต้องดูแล ญาติพี่น้องเราก็ต้องดูแล อย่างที่ทุกคนรู้ว่าหนูดูแลครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้อะไรตัดได้บ้างก็ตัดไป แต่ก็จะพยายามให้เต็มที่”
“ถ้ามีได้ก็อยากมีสักคนหนึ่ง แต่ถ้ามีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ก็ไม่แน่บางทีอนาคตหนูอาจจะไปรับอุปการะใครมาสักคนหนึ่ง หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ ณ ตอนนี้หนูไม่อยากจะเอาน้ำเชื้อใครมาใส่ หรือไปเอาลูกใครมาเลี้ยง เพราะทุกวันนี้หลาน 3 คนก็เลี้ยงคนเดียวเหมือนลูก ตอนนี้ก็อายุ 20 แล้ว เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ”