“โยโกะ ทาคาโน่” รับความจำบางส่วนหายไป แต่ไม่ถึงกับอัลไซเมอร์ เผยไม่มีงานเลยต้องหันไปเป็นหมอดู ชีวิตไม่ได้ตกอับ เพราะมีบ้านมีรถที่ไม่ต้องผ่อน ไม่มีหนี้สิน แต่อยากได้งาน คิดว่าตัวเองพร้อมกลับมาทำงานในวงการบันเทิงเหมือนเดิมแล้ว หลังจากที่ไปพักรักษาตัวนานจากการป่วย ปัดซุกลูก เด็กที่เห็นเป็นหลาน ตอนนี้โสด ยินดีกลับมาถ่ายเซ็กซี
ชีวิตเฉียดความตายจากอาการไตวายเฉียบพลัน หลังป่วยสมองอักเสบ ภูมิคุ้มกันล้น ล่าสุด อดีตเซ็กซ์ซิมโบล “โยโกะ ทาคาโน่” กลับมาแข็งแรงขึ้น และผันตัวเป็นหมอดูหาเลี้ยงชีวิต เนื่องจากไม่มีงาน โดยยืนยันผ่านรายการปากโป้ง ช่อง 8 ว่า ความจำบางส่วนหายไป แต่ไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์ และไม่ได้ตกอับจนต้องเป็นหมอดู เพราะยังมีบ้านมีรถโดยไม่ต้องผ่อน
“อาการป่วยก็เหมือนเดิมแต่ต้องทานยาอยู่ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ป่วยเป็นโรคสมองอักเสบ เนื่องจากภูมิคุ้มกันของตัวเองผิดปกติ ส่วนโรคก่อนหน้านี้ที่เคยรักษามาก็ดีขึ้นหมดแล้ว หายหมดแล้วค่ะ จะเรียกว่าตอนนี้ปกติแล้วก็ได้เพราะมันดูไม่ออก ตอนนี้รักษาโรคสมองอักเสบ ไม่ใช่สมองไม่เสื่อมนะคะ คอนเฟิร์มว่าไม่ได้เป็นโรคสมองเสื่อม ความจำที่หายไปก็ให้หายไป จะกลับมาก็กลับมา ภาพรวมคือยังจำเรื่องหลักๆ ในชีวิต ตอนนี้ต้องทานยากันชัก ถ้าตัวเกร็ง ตะคริวกิน แต่ก็ไม่ได้หนักหนามาก”
“ความจำที่หายไป ก็ไม่พยายามจะไปนึกถึงมันด้วย ชีวิตเราอยู่กับปัจจุบัน รู้ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ รู้ว่าเราเคยทำอะไรได้ ไม่ถึงขนาดกลับไปดูภาพเก่าๆ จำผลงานไม่ได้ทุกอัน ก็มีบ้างที่จำได้ ไม่ค่อยอยากจะคุยเรื่องป่วยเนอะ ภูมิคุ้มกันตัวเองมันล้นแทนที่จะป้องกัน เหมือนป้องกันไม่ให้เราเป็นหวัดดันไปฆ่าตัวเองซะงั้น หมอก็ไม่ได้บอกว่าจะหายขาดมั้ย ก็ไปเรื่อยๆ แบบนี้ เอาตอนนี้ดีกว่า ตอนนี้ดีก็ขอให้ดีไปตลอด ไม่ได้แย่ลง ดีขึ้นเยอะมากเหมือนปกติ เห็นชัดคือ 2 ปีที่ผ่านมา พอแล้วมั้งเรื่องป่วย เครียดมั้ยมันเครียดไม่ได้ ถ้าเครียดก็ยิ่งหนัก ยิ้มสู้ค่ะ”
ยืนยันไม่ได้ความจำเสื่อม ส่วนอาการไตวายเฉียบพลัน เกิดจากการรักษาที่ผิดวิธี
“ขอพูดตรงนี้นะคะ ว่าเป็นสมองอักเสบ สมองอักเสบกับสมองเสื่อมไม่เหมือนกัน เนื้อเยื่อสมองอาจจะมีการติดเชื้อจากอะไรบางอย่าง โรคอัลไซเมอร์จะทำให้เราลืมว่ากินข้าวรึยัง แต่เรายังไม่ได้เป็นขั้นนั้น ยังปกติเหมือนคนปกติทั่วไป”
“ตอนแรกก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นโรคอะไร คิดว่าเป็นโรคที่เราเคยรักษาอยู่ก่อน เลยไปหาคุณหมอ มีอาการปวดตัว เหมือนชักแล้วคุณแม่เลยพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน นั่นคือ จุดเริ่มต้นเลย คิดว่าเป็นโรคเดิมหรือเปล่า ก็เจาะไขสันหลังดูที่โรงพยาบาลนั้นไม่พบ รักษาผิดวิธีไปหน่อย ให้ยาเกินขนาด เลยไตวายเฉียบพลัน แม่พาออกจากโรงพยาบาลนั้นทันเลยรอดตาย ไปรักษาอีกโรงพยาบาลหนึ่ง”
“เคยผ่านนาทีเฉียดตายมาแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนั้นอีก ทุกวันนี้เราอยู่กับความไม่แน่นอน เหมือนจะดีทุกอย่าง แต่กลายเป็นว่าวินาทีหนึ่งเราอาจจะโดนรถชนก็ได้ เพราะฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุด ค่าหมอไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ เป็นรัฐบาลเนอะ ค่ายาก็มีบ้าง ก็ยังโอเค ตราบใดที่ยังทำงานหมอดูไพ่ได้อยู่ ตราบใดที่ยังกลับไปรับงานแสดงได้ก็โอเค”
ยึดอาชีพหมอดูเลี้ยงชีพ ยอมรับรายได้ไม่เหมือนงานแสดง แต่ยืนยันไม่ได้ตกอับ
“ใช่ค่ะ หมอดูเป็นอาชีพหลักก็โอเคนะคะ คนเคยดูกับเราเขาก็มาดูกับเราอีก เพราะไพ่ก็โกหกไม่ได้ เราอาจจะไปเรียนเพิ่มเติมให้อาจารย์ชี้แนะ อาจจะทำอาชีพเสริมอย่างอื่นด้วย”
“ก็คงสร้างรายได้ไม่เท่ากับในวงการหรอกค่ะ การเป็นนักแสดงถ่ายละครย่อมได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่หมอดูก็เป็นอาชีพที่สุจริต ทุกคนต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟค่าเน็ต เราไม่เป็นต้องผ่อนบ้านผ่อนรถ เรายังจ่ายค่าเน็ตได้อยู่ แสดงว่าเราไม่ได้ตกอับ ส่วนจะเพียงพอมั้ยอันนี้แล้วแต่ว่าคนจะมองว่าเท่าไหร่ถึงจะพอมากกว่านะ ตอนนี้เรามีที่ซุกหัวนอน มีบ้านให้นอน มีรถให้ขับออกไปทำงาน เราว่ามันไม่ได้ตกอับนะ”
ยันไม่เคยเชื่อ หลังพระเคยทักอายุ 40 จะต้องเป็นหมอดู
“ปีกว่า จะสองปีแล้ว ดูไพ่ออราเคิล คนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นยิปซี แต่ไม่ใช่ยิปซี มันคนละอันกัน ตอนที่ออกมาใหม่ๆ จำอะไรไม่ค่อยได้จริงๆ ไม่รู้จะเริ่มยังไงไปทางไหน นึกอะไรไม่ค่อยออก มีแต่คนทักให้ไปดูหมอสิ พอลองไปดูหมอ เขาก็บอกว่าเป็นหมอดูได้นี่มาเรียนมั้ย ประจวบเหมาะกับคุณแม่และพระหลายรูปทักมาแบบนี้ อายุ 40 จะต้องเป็นหมอดู แต่เราเคยเถียงพระว่าเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็มีเหตุการณ์ทำให้เราต้องมาทางนี้ ก็เหมือนกับไปโรงพยาบาลล้างไต ความจำมีบ้างไม่มีบ้าง ลบเรื่องที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตไปเริ่มต้นใหม่ เหมือนอย่างนั้นเลย ทุกวันนี้เลิกบุหรี่เลิกเหล้าทุกอย่าง มันไม่ได้มีผลกระทบกับชีวิตประจำวันขนาดนั้น”
รักษาความสวยงามให้คงที่ อยากให้ตัวเองดูดี
“นอกจากดูหมอก็รักษาความสวยความงามให้คงที่ เช้าตื่นขึ้นมา อับดับแรกที่จะต้องเห็นคนไม่มีคู่ก็คือตัวเองในกระจก เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการดูแลตัวเองและสู้ เราเห็นตัวเองโอเคสู้ ไม่ใช่เห็นตัวเองป่วยแล้วต้องป่วยตาม เห็นตัวเองดูดีแล้วสู้ต่อ ต้องให้กำลังใจตัวเอง อาจจะไปขอจากเพื่อนๆ และอาจารย์บ้าง”
ไม่เกี่ยงงาน เซ็กซีก็รับถ้ามีคนอยากดู
“ยังอยากกลับเข้าวงการ แต่ยังไม่ได้มีทางไหนติดต่อ ตอนนี้คิดว่าตัวเองน่าจะพร้อมกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จะกลับไปถ่ายเซ็กซีอีกมั้ยก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้ามีบทที่คิดว่าน่าจะเล่นได้ ถ้าติดต่อมาก็ไม่เกี่ยงงาน ถ้าเซ็กซี่ติดต่อมาพอไหวมั้ยคะ จะมีคนดูเรามั้ย ก็ไม่มีติดต่อมา ส่วนใหญ่มาขอดูหมอ เปลี่ยนแนวไปเลยค่ะ ก็ต้องอยู่ในศีลธรรมพอสมควร เขากลัวผิดศีลมั้งคะ”
“ลูกค้าแล้วแต่บางวัน บางวันก็ไม่รับต้องไปทำบุญเลย รายได้ส่วนหนึ่งที่ได้มาอาจารย์กำชับมากว่าต้องไปทำบุญ และต้องรับค่าครูเพื่อไปทำบุญ งานเซ็กซี่ก็รับนะถ้ายังมีคนดูนะ เราก็ออกกำลังกาย อาจจะไม่ได้หนักเหมือนช่วงต้นที่ตอนนั้นพยายามลดทุกอย่างลง แต่ก่อนจะออกหนักๆ โดดเชือกทำอะไรหนักๆ ตอนนี้ก็ยืดเส้นยืดสายทั่วไปที่ทุกคนทำกัน”
โต้ซุกลูก บอกเป็นลูกของหลานสาว ส่วนตนยังโสด
“จริงๆ แล้วเป็นยายของเด็ก แต่เด็กเรียกหม่ามี๊ เรียกมาตั้งแต่เล็กๆ แล้ว คนก็เลยเข้าใจผิด จริงๆ เป็นลูกของหลานสาว เขาอยู่กับปู่ย่าที่อายุมากแล้วก็ลำบากมาก ก็เลยไม่ไหวเพราะพ่อแม่เด็กหายไป เราเลยต้องเอามาดูแล เราน่าจะมีกำลังเพื่อทำงานดูแลให้การศึกษาเขามากกว่า หลานผู้หญิงคนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็ก 6 ขวบเป็นผู้ชาย เคยเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่เอากลับไปบ้านนอกแล้ว แต่ทางโน้นเขาติดต่อมาว่าไม่ไหว เราเลยโอเค ทางเราน่าจะทำงานหารายได้เพื่อเลี้ยงเขา รอให้น้องสอบเสร็จก่อน น่าจะประมานมีนาเหมือนเด็กทั่วไปที่สอบปิดเทอมเดือนมีนา - เมษา ก็หน้าตาเป็นแบบนี้ไง ถึงไม่มีใครจีบ”
“คงจะไม่ได้เรียนหรูหราขนาดนั้น โรงเรียนธรรมดา อาจเป็นโรงเรียนวัดไปเลยก็ได้ ตอนนี้ต้องรักษาสภาพจิตใจของน้องก่อน เด็กเขาโดนย้ายไปโน่นนี่บ่อย สภาพจิตใจคงบอบช้ำอยู่ ให้เขาปรับตัวอ่านหนังสืออะไรได้ ยืนยันว่าไม่ใช่ลูกเรา ยังโสดค่ะ ตอนนี้ยังโสด หนุ่มๆ ไม่เห็นมีจีบเลย หรือจีบแล้วเราไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่มีใครจีบค่ะ หรือใครอาสาดูแลก็ยินดีค่ะ ตอนนี้ 40 กว่าแล้วค่ะ”
ไม่ตกอับแต่ไม่อู้ฟู่เหมือนเดิม เคยผ่านความตาย ไม่ใช้ชีวิตประมาท ของานเพราะต้องกินต้องใช้
“การที่เรามีบ้าน มีรถขับโดยไม่ต้องผ่อน คำว่าตกอับเขามองจากสมัยก่อนหรือเปล่า ที่อยู่ในวงการเล่นละคร คนเราเปลี่ยนแปลงทุกวันอยู่แล้ว เราต้องไปลองทำหลายสิ่งหลายอย่าง อาชีพอื่นบ้าง พอยิ่งป่วยมา เคยผ่านความเป็นความตายมา เราต้องหาว่าอะไรเหมาะกับเราที่สุด เราจะพลาดอีกไม่ได้ เราใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทแล้ว ไม่คิดว่านี่เป็นการตกอับ ไม่ได้มีหนี้สินจะให้บอกว่าตกอับก็ไม่ใช่ ขณะนี้เรายังเดินออกไปข้างนอกได้ เปิดไพ่ช่วยเหลือคนได้อยู่ ไม่ได้ตกอับค่ะ แต่ของานมั้ย ขอค่ะ ทุกคนต้องมีเงิน ต้องกิน ต้องจ่ายค่าเน็ตเพื่อดูทางเฟซไทม์ ฝากเลยค่ะ โยคิดว่าโยพร้อมแล้วค่ะ”