“แอน มิตรชัย” เชิดใส่ถูกเมาท์อยู่เมืองนอกแล้วเปรี้ยง แต่อยู่เมืองไทยแล้วแป้ก โวยเป็นสิ่งที่ไม่น่าเอามาพูด ซัดควรศึกษาก่อนวิจารณ์ ส่วนคดีความ “มิตร มิตรชัย” น้องชายใกล้จบ ลั่นตนไม่เกี่ยวอะไรด้วย โต้ซุกลูก โอดรับเลี้ยงเด็กกว่า 100 คน ค่าใช้จ่ายสูงครึ่งล้าน
เดินแฟชั่นอวดความแซ่บ กับชุดแหวกเต้า เผยสะโพกทอร์นาโดไม่ทิ้งลายสาวเซ็กซี่ระดับอินเตอร์ สำหรับ “แอน จริยา มิตรชัย” โดยเจ้าตัวขอเคลียร์ข้อหาซุกลูก โดยยอมรับว่าตอนนี้ครอบครัวมิตรชัยรับเลี้ยงดูเด็กกว่า 100 คน ซึ่งเป็นภาระใหญ่และมีค่าใช้จ่ายร่วมครึ่งล้าน
“ครั้งนี้มีโปรแกรมเดินสายทัวร์ มี.ค. - เม.ย. แอนมีสายทัวร์ลิเก ไปภาคเหนือ อีสานมาแล้ว แฟนๆ ให้การตอบรับอบอุ่นมาก หลังจากห่างหายจากลิเกไปซักพักหนึ่ง ไม่ได้เล่นตลอด แต่เขาก็ยังต้อนรับเสมอ ซึ่งต้องบอกว่าจริงๆ แอนแสดงภาคกลาง ไม่ค่อยได้ไปอีสานมากนัก แต่คนเยอะมาก ล้นหลามเลย ขอขอบคุณแฟน ๆทั่วประเทศไทยด้วยนะคะ แล้วมีผลงานล่าสุดที่กำลังจะออกเดือนพ.ค. นี้ จริงๆ ต้องออกมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ แต่มีการตัดต่อเพิ่มเติม ตอนนี้เสร็จแล้วรอที่จะออก จริงๆ จะออกมี.ค. แต่เผอิญวันเกิดแอนคือพ.ค. ต้นสังกัดเลยบอกว่างั้นให้รอเดือนเกิดแอนเลยแล้วกัน”
“ก็แซ่บเวอร์ค่ะ แตกต่างแน่นอน เอ็มวีที่แล้วเกี่ยวกับวัฒนธรรม มีความเป็นไทยใส่ไว้ เราเลยบอกว่าเราต้องเบรกความเซ็กซี่ไว้ระดับหนึ่ง เอาความสวยงามเข้าไปแทน แต่เพลงนี้เซ็กซี่เต็มที่เลย เอาไว้รอดูกัน เป็นเพลงสนุกๆ เป็นเพลงแดนซ์ มีแดนเซอร์ต่างประเทศมาเต้น มีหลายคนที่อยากเห็นแอนแนวนี้ ก็จัดมา คาดว่าจะถูกใจแฟนๆ”
บอกไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองไทยกับอินเดีย เพราะมีภาระรับเลี้ยงเด็กกว่า 100 คน ค่าใช้จ่ายเกินครึ่งล้าน
“ไปๆ มาๆ เพราะแอนต้องบอกว่าแอนเลี้ยงเด็กเอาไว้เกือบ 100 คน ที่ครอบครัวมิตรชัยเลี้ยงไว้ ตอนนี้ถือว่าพวกเขาเป็นภาระใหญ่ พวกเราร่วมกันรับผิดชอบ แอนกับพี่เอจะแบ่งกัน 50 คนอยู่กับคุณแม่ ซึ่งพี่เอดูแลตรงนั้น อีก 50 คนอยู่กับคุณพ่อซึ่งแอนดูแลตรงนั้น ส่งเรียน ส่งให้น้องๆ ได้มีโรงเรียน เพื่อให้มีสัมมาชีพ เพราะเด็กพวกนี้เป็นเด็กด้อยโอกาส เป็นเด็กอนาถา เป็นอนาคตของชาติที่เราทอดทิ้งไม่ได้ แอนต้องดูแลพวกเขาด้วยส่วนหนึ่ง ก็ไปๆ มาๆ เพราะน้องๆ เพิ่งตั้งคณะลิเก แอนต้องดูแลเพื่อให้เขายืนได้ด้วยตัวเอง”
“ค่าใช้จ่ายเยอะมาก บอกตรงๆ ครึ่งล้านค่ะ ทุกคนอาจรู้สึกว่าทำไมพี่เอรับงานเยอะมาก ซึ่งพี่เอทำได้ แต่เรามีลูกเยอะ แล้วเราเต็มใจเราไม่ได้รู้สึกว่าทำไปแล้วเหนื่อย เราทำมานานแล้วแต่ไม่เคยได้ออกมาพูดกับสื่อ แต่ตอนนี้ที่เราออกมาพูดเพราะน้องๆ ตั้งคณะ และเราอยากให้ตีแผ่ และให้ทุกคนรู้ว่าเด็กๆ เหล่านี้จะเป็นเสาหลักช่วยค้ำชูวัฒนธรรมไทย ซึ่งเราไม่ควรทอดทิ้งแต่ควรช่วยกันอุ้มชูเขา”
เผยจดทะเบียนรับเป็นลูกบุญธรรมมีแค่ 2 คน ป้องกันปัญหาในอนาคต
“ลูกบุญธรรมของแอน อายุจะ 4 ขวบแล้ว ฉายแววเป็นนักแสดงเต็มที่ คิดว่าน้องเบสท์น่าจะได้ลงละครด้วยเร็วๆ นี้ ก็ขอบคุณผู้จัดที่เมตตาน้อง และมีหมดค่ะ 4 ขวบ 8 ขวบ อายุ 12 อายุ 15”
“ข้อหาซุกลูก (หัวเราะ) ก็น้องเบสท์นี่แหละ ไม่ได้ซุกอะไรค่ะ คือน้องหน้าตาดีมาก จริงๆ น้องมีพี่สาวอีกคนชื่อน้องเบน อายุ 13 ก็มาอยู่กับแอนเหมือนกัน รับเป็นลูกบุญธรรมเหมือนกัน เนื่องจากครอบครัวไม่สามารถเลี้ยงดูน้องได้ เลยเอามาฝากไว้ เป็นลูกบุญธรรม จดเรียบร้อยค่ะ เป็นแม่บุญธรรม
“ถ้าน้องเบสท์จะมีงานต้องผ่านแอนในความเห็นเบื้องต้นค่ะ แต่ถ้าน้องเข้าวงการก็ต้องมีคนดูแลเพราะตัวแอนเองทำงานไม่ทั่วถึงจริงๆ เพราะเรามีเด็กที่ต้องดูแล และกำลังจะยืนได้ ตั้งไข่ได้ ทอดทิ้งไม่ได้ กำลังหัวเลี้ยวหัวต่อ เด็ก 14 - 15 กำลังวัยรุ่น ซึ่งบางคนเริ่มมีปัญหา เพราะเขารู้สึกว่าเขาขาด เขาอยากให้เราอยู่ใกล้ๆ เวลาเขามีปัญหาที่โรงเรียน เขาอยากให้เราไปโรงเรียนกับเขา ไปช่วย เราเลยรู้สึกว่าเราทำหลายอย่างไปพร้อมๆ กันไม่ได้”
“ที่จดทะเบียนรับเป็นลูกบุญธรรมมีแค่ 2 แต่ที่ครอบครัวมิตรชัยดูแลอยู่ ประมาณ 110 คน คือจริงๆ น้องมีคุณยายอีกคนหนึ่ง เรากำลังป้องกันว่าโอเคในเมื่อน้องไม่มีพ่อดูแล วันหนึ่งไม่สามารถกลับมามีบทบาทอะไรเพราะเราเลี้ยงน้องตั้งแต่ 5 เดือน เราต้องการแค่ตรงนี้ นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร ก็เคลียร์เลยไม่ได้ซุกลูก (หัวเราะ) ไม่ได้เลี้ยงเด็กเอ๊าะๆ”
ลั่นสัญญาที่อินเดียยังไม่หมด บอกทำซิงเกิลไม่ง่ายเพราะต้องใช้ถึง 3 ภาษา
“สัญญายังมีอยู่ สัญญา 5 ปี ยังไม่หมดง่ายๆ เพราะหนังแอน 2013, 2014 ตุลาคมเราเซ็นสัญญาแล้วออกเพลงเลย ดังนั้นก็นับไปยังไม่หมดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าช่วงที่หยุดไปเรายังไม่หยุดเลย ยังมีการซ้อมเพลงอัลบั้มชุดใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลานาน ไม่ใช่เดือนเดียวแล้วร้องกันได้ ทำความเข้าใจนิดหนึ่งว่าแอนทำภาษาต่างประเทศ แล้วภาษาอินดี้เป็นภาษาที่ยาก เวลาร้องเพลงต้องเตรียมพร้อมที่จะออกโปรโมตทั้งหมด คุณต้องใช้ภาษาทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องใช้ถึง 3 ภาษา แอนไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ ต้องใช้เวลาทุ่มเทหน่อยค่ะ”
โวยถูกครหาอยู่เมืองไทยแล้วแป้ก บอกเป็นสิ่งที่ไม่น่าเอามาพูด ฉะควรศึกษาให้ดีก่อนพูด
“มันเป็นมุมมองและเป็นสิ่งที่ไม่น่าเอามาพูด เพราะคนดีๆ ในสังคมจะหาสักคนหนึ่งก็ค่อนข้างใช้เวลาแล้ว แอนอยากจะถามว่าจริงๆ มันแป้กยังไง เพราะแอนทำงานตั้งแต่ 5 ขวบ แอนมิตรชัยไม่เคยหยุดงานสักวันเดียว 365 วันเรามีงานเต็มตลอด ทำมา 25 ปี เพิ่งได้หยุด 3 ปีแล้วไปอินเดีย”
“มันเป็นเพราะคนได้รู้อะไรแค่บางส่วนหรือเปล่า โซเชียลมีเดียยุคนี้ได้รับการเปิดเผย แต่แอนเป็นศิลปินคาบเกี่ยวระหว่างยุคเก่าและยุคใหม่ ดังนั้นแล้วศึกษาให้ดีก่อนที่จะพูดแบบนี้ ศิลปินหลายคนไปทำงานต่างประเทศต้องใช้แรงกายแรงใจเขาต้องการกำลังใจ มันไม่ได้ทำง่าย เราต้องใช้สองขา สองมือของเราเอง แอนอยากให้ทุกคนพูดแล้วหักมุม ไปตั้งหัวข้อในเรื่องดีๆ มากกว่า”
“ก็ไม่บั่นทอนค่ะ แอนคิดว่าแอนแข็งแรงพอ เพราะไม่มีอะไรหนักกว่าที่เราไปสมบุกสมบัน ไปลุยที่อินเดียแล้ว แอนคิดว่าตรงนั้นหนักที่สุดแล้ว อะไรที่ผ่านมาก็ผ่านมาได้หมดแล้ว สิ่งพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดา ดีที่มีคนพูดถึงเรา จะแง่ไหนก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวว่ากันอีกที ก็ไม่ใส่ใจนะ แอนรู้สิ่งที่แอนทำอยู่ แอนเชื่อว่ายังมีแฟนๆ อีกเยอะที่เวลาแอนไปเดินสายแสดง เชียงใหม่ หนองคาย และอีกหลายๆ จังหวัดที่ให้การต้อนรับ และอยากดูแอน อยากดูลิเก แฟนๆ ล้นหลาม รู้สึกดีใจเขาไม่ได้ลืมเรา ดีใจมากๆ และขอฝากผลงานแอนด้วย”
เผยคดีความใกล้จบแต่ไม่เกี่ยวอะไรกับตน โบ้ยเป็นเรื่องของน้องชายที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
“มันก็ใกล้จบแล้วนะ จริงๆ แล้วเราเคยบอกไปแล้ว มันเขียนต่อประเด็นไปเยอะ เรื่องรถตู้ก็เหมือนกัน รถแอนแจ้งไปแล้วว่าไม่ใช่ของแอน แอนไม่ได้ซื้อ เป็นรถคู่กรณีของน้องมิตรเอามาให้น้องใช้ ดังนั้นนอกเหนือจากนี้ไปสืบไปถามกันเอง แอนไม่มีหน้าที่ต้องมาพูดเรื่องนี้ แล้วคดีใกล้จบแล้วเหลือแค่รอให้ศาลเรียก เป็นไปตามขั้นตอน ส่วนศาลจะตัดสินยังไง แอนขอให้เป็นดุลยพินิจของศาล”
“ถามว่าจะไกล่เกลี่ยอีกมั้ย มันเลยขั้นนั้นไปแล้ว รอนัดขึ้นศาลกัน แอนไม่ได้ไป เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับแอน เป็นเรื่องของน้องที่ต้องไปกับทนาย ขึ้นศาลไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ได้มีการเบิกความอะไรยังไง เดี๋ยวต้องรอดูค่ะ แอนไม่รู้จะพูดต่อยังไง เพราะเราไม่รู้เรื่องจริงๆ แล้วแอนทำงานไม่ได้เอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยวตรงนั้น ก็ให้เป็นเรื่องทนายความไป”