“ปราง กัญญ์ณรัณ” เปิดใจไปปาร์ตี ดริงก์ๆ กับ “อาเล็ก ธีรเดช” แต่ไม่ได้ไปกันสองคน ยอมรับเจอกันถี่ขึ้น เพราะต้องไปตะลุยถ่ายละคร ตจว. ด้วยกัน บอกเหมือนได้ใช้ชีวิตด้วยกันแต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยังถูกจับตามองไม่น้อย ว่าจะเป็นมือที่สามแทรกกลางจนรักคู่จิ้นต่างวัยพัง สำหรับ “ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” ล่าสุด ยังมีตาดีแอบเห็นว่าสาวปราง ยังแอบไปดริงก์ๆ ดรังก์ๆ กับหนุ่ม “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” ซึ่งเจ้าตัวออกมาเผยถึงเรื่องดังกล่าวในงาน ๙ ตามพ่อ สานต่อพระราชปณิธาน ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ยอมรับพักนี้เจอกันถี่ขึ้น
“อาจจะไปกับทีมงาน ด้วยตอนนี้เราถ่ายละครอยู่ด้วยกัน คิดว่าที่คนเห็นอาจจะเป็นตอนเลิกกองแล้วไปกินข้าวกันมากกว่า ไปกันเยอะค่ะ ตอนนี้ก็ได้เจออาเล็กบ่อย อาทิตย์ละ 4 วัน เพราะถ่ายละครด้วยกัน แล้วถ่ายต่างจังหวัดตลอดเลยเหมือนเราได้ไปใช้ชีวิตด้วยกัน แต่มันก็ไม่มีอะไร”
“ถามว่าสนิทกันมากขึ้นมั้ย เราเองรู้จักกันมากอยู่แล้ว ไม่น่าจะมีอะไรให้รู้จักไปมากกว่านี้อีกแล้ว (หัวเราะ) ตอนนี้ทำงานกันอย่างเดียวเลยเราสองคน ไม่มีว่าไปไหนกันสองต่อสองแน่นอน เขาไม่ได้มาจีบเลย มีแต่ด่ากันมากกว่า อาเล็กนี่ตื่นเช้ามาก็ด่าแล้ว คงลุ้นไม่คิดหรอกค่ะแบบนี้”
เทเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น เตรียมพาครอบครัวบินไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น
“ตื่นเต้นมากที่จะได้พาครอบครัวไปเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตา ปกติชวนที่บ้านเขาก็จะบอกเราว่าให้เราพร้อมก่อน เพราะต้องใช้เงินเยอะในการพาครอบครัวไปเที่ยว เราก็บอกว่าตอนนี้พร้อมแล้วเพราะทำงานหนักมาก เพื่ออยากจะได้มีเวลาอย่างนี้กับครอบครัวบ้าง”
“เรียกว่าตอนนี้พร้อมมาก ทั้งเงิน ทั้งเคลียร์คิวงาน ที่ตัดสินใจไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตากันกับครอบครัว เพราะรู้สึกว่าช่วงที่ผ่านมาถ่ายละครหนักมาก ไม่มีเวลาเจอหน้าครอบครัวเลย เลยมีความรู้สึกว่าเราอยากใช้เวลากับคนในครอบครัว ซึ่งเราตื่นเต้นมากเพราะเราไม่เคยไปเที่ยวเมืองนอกกับครอบครัวเลย นี่ก็ตั้งใจว่าที่ไหนในญี่ปุ่นที่เราเคยไปแล้วชอบ สวยเราก็จะพาเขาไป อาหารที่ไหนที่เราเคยกินแล้วอร่อยก็จะพาเขาไปกิน”
“ทุกคนตื่นเต้นกันหมด พากันแห่ซื้อเสื้อกันหนาวกันเต็มไปหมดเลย ทุกคนดีใจกันหมด เราเห็นก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนตื่นเต้นกับทริปนี้ ทุกคนต่างก็นับวันรอว่าเมื่อไหร่จะถึงวันที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน”
โตขึ้นคิดเปลี่ยนไป การได้เที่ยวกับครอบครัวเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญ
“เมื่อก่อนไม่ได้รู้สึกขนาดนั้นเพราะเราเองก็อยู่บ้าน ไม่ได้แยกตัวเองมาอยู่ข้างนอกอย่างคอนโดเหมือนที่คนอื่นเขาทำกัน ตั้งแต่ทำงานหนักมากๆ เราความคิดเปลี่ยน รู้สึกว่าการได้ไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวมันจำเป็นและสำคัญมาก อย่างน้อยปีละครั้งให้เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันติดๆ กันสัก 5 - 6 วัน ได้พูดคุยกันว่าชีวิตที่ผ่านมาของเราเป็นยังไง ดีไม่ดี ได้มีเวลาอยู่ร่วมกัน แค่ได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้ยิ้มได้หัวเราะปรางว่ามันมีความสุขแล้ว”
สำนึกผิดไม่มีเวลาให้พ่อแม่
“อย่างที่ผ่านมาเราเองรู้สึกผิดว่าเราทำงานหนักแล้วไม่มีเวลาให้กับครอบครัว เดี๋ยวนี้พ่อแม่ไลน์มาถามตลอดว่ากลับบ้านวันไหน ยังไง พ่อบอกว่าคิดถึง ด้วยปรางไม่ค่อยได้อยู่ติดบ้านเพราะทำงานต่างจังหวัดตลอด ตอนแรกรู้สึกแปลกที่เขาเรียกร้องเวลาแต่ตอนนี้รู้สึกดีใจมาก ปกติแม้ครอบครัวเราจะสนิทกันแต่ก็จะไม่มีว่ามาพิมพ์หากันว่าคิดถึงอย่างนี้ กลายเป็นว่าเดี๋ยวนี้พ่อพิมพ์หาว่าเมื่อไหร่จะกลับ คิดถึง เป็นอะไรที่น่ารัก พอได้มีโอกาสพาครอบครัวไปเที่ยวพร้อมหน้าพร้อมตาเลยรู้สึกดีใจและภูมิใจมาก”