“พอลลี่ พรพรรณ” ควงเจ้าบ่าวเปิดใจวิวาห์ฟ้าแลบ บอกรู้จัก 3 ปี แต่เพิ่งคบกันเมื่อต้นปี 59 เจ้าบ่าวขอแต่งงานตั้งแต่คบกัน 3 เดือน “เบนซ์” เผยชีวิตคนเราไม่ยืนยาว เจอคนที่ใช่ไม่อยากเสียเวลา เป็นคนที่อยากใช้ชีวิตด้วยที่สุด จัดพิธีคริสต์เพราะอยากให้พระเจ้าอวยพรความรัก เล็งฮันนีมูนที่อียิปต์ 12 วัน ยันไม่รีบมีลูก แต่ถ้ามาก็ยินดี ด้าน “เจี๊ยบ ลลนา” ควงแฟนสาว “เดียร์ บุษรา” มาร่วมยินดีด้วย
เรียกว่า อยู่ดีๆ ก็ประกาศสละโสด สำหรับ “พอลลี่ พรพรรณ สิทธินววิธ” และแฟนหนุ่มนักธุรกิจ “เบนซ์ รัฐพงษ์ รัตนหิรัญญา” โดยทั้งคู่ทำพิธีหมั้นไปเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ ทับขวัญรีสอร์ทแอนด์สปา นนทบุรี และเมื่อเวลา 15.45 น. ของวันที่ 9 ธ.ค. ทั้งคู่ก็ได้เปิดใจถึงการแต่งงานแบบสายฟ้าแลบเป็นครั้งแรก ณ เบเนดิกต์สตูดิโอ ซ.โยธินพัฒนา 11 ท่ามกลางแขกเหรื่อเพื่อนสนิทที่มาร่วมยินดี หนึ่งในนั้นคือ อดีตคู่จิ้น “เจีี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์" ที่ควงแฟนสาว “เดียร์ บุษรา” มาร่วมงานด้วย โดยเจ้าสาวเผยคบ 3 เดือนเจ้าบ่าวก็ขอแต่งงานแล้ว
พอลลี่ : “วันที่ 29 พ.ย. เป็นงานหมั้นค่ะ ส่วนวันนี้เป็นงานฉลองสมรสค่ะ ซึ่งเงินที่มาจากการแต่งงานในวันนี้เราจะทำบุญ คนที่มางานสามารถเลือกตู้บริจาคที่อยากจะทำบุญและเอาเงินใส่ซองทำบุญได้เลยค่ะ ในนั้นจะมีการ์ดเรา ข้างหลังจะมีแสตมป์ ให้เขียนชื่อและที่อยู่ อยากทำบุญเท่าไหร่ก็ใส่ซองและเอาการ์ดใส่ไปด้วยค่ะ ซึ่งจะมีมูลนิธิเดอะวอยซ์ ของ พี่เก๋ ชลลดา และก็มีบ้านเด็กชายเด็กหญิงราชาวดี และก็สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งนนทบุรีค่ะ ส่วนธีมงานวันนี้ไม่มีสีอะไรค่ะ อะไรที่มีอยู่แล้วเราชอบก็ใส่มาเลยค่ะ”
รับรู้จัก 3 ปี แต่เพิ่งคบกันจริงจังเมื่อต้นปี แค่ 3 เดือนแรกที่คบกัน ฝ่ายชายก็ขอแต่งงานทันที
พอลลี่ : “พอลลี่กับพี่เบนซ์รู้จักกันมา 3 ปีแล้วค่ะ แต่ด้วยความที่ต่างคนต่างไม่ได้คุยกันมากเท่าไหร่ ก็เจอกัน มีการกินข้าวดูหนังบ้างแต่ไปในฐานะเพื่อนค่ะ”
เบนซ์ : “3 ปีที่แล้วเราก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันมาก แต่มีเจอกันบ้าง มีพูดคุยกัน”
พอลลี่ : “พอช่วงต้นปีเราเผอิญเจอกันอีกรอบหนึ่ง พอเราคุยครั้งนี้แล้วเหมือนเราโตขึ้นด้วย คุยแล้วรู้สึกดี รู้สึกคลิกมาก เหมือนอยู่ด้วยกันแล้วสบายใจค่ะ พี่เบนซ์เองเขาก็พูดเรื่องแต่งงานตั้งแต่ 3 เดือนแรกแล้วที่รู้จักกัน เราก็ยังรู้สึกว่าเร็วไปหน่อย ตอนนั้นยังไม่ได้ตกลงว่าจะแต่งงานกัน จนมาถึงจะสิ้นปีค่ะ”
เบนซ์ : “อย่างที่น้องพอลลี่ว่าเรารู้จักกัน 3 ปี มีการติดต่อกันบ้าง แต่พอมาเจออีกทีตอนต้นปี พอเราเริ่มคบกัน เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ครับ เราคบกันแล้วรู้สึกสบายใจ ส่วนตัวพอลลี่เป็นคนใจดีมากครับ มีนิสัยน่ารัก พอคบกับคุณพอลลี่แล้วรู้สึกว่าสบายใจดีเนอะ รู้สึกว่าเป็นตัวเรา ในขณะที่คุณพอลลี่ก็เป็นตัวพอลลี่ แต่เราก็มีความเป็นเราด้วย เราต่างปรับเข้าหากัน ซึ่งเราใช้เวลาไม่มากในการปรับเข้าหากัน”
เจ้าบ่าวบอกอายุไม่ได้ยาว เจอคนที่ใช่ไม่อยากเสียเวลา เป็นคนที่ต้องการใช้ชีวิตด้วย
เบนซ์ : “จริงๆ แล้วผมเคยคิดมาตลอดว่าการคบกันกี่เดือนกี่ปีแล้วค่อยแต่ง จริงๆ แล้วมันมีนิยามมั้ยว่าต้องกี่เดือนกี่ปี เราก็ลองมานั่งนึกดูและเข้าใจว่าชีวิตคนเราไม่ได้ยาวเนอะ เมื่อเราได้เจอคนที่เรารู้ว่าคนคนนี้แหละที่เราต้องการร่วมใช้ชีวิตด้วย เดินทางไปในเส้นทางของชีวิต ก็คิดว่าเราไม่ควรจะเสียเวลานั้นครับ เลยคุยกับน้องพอลลี่เกี่ยวกับการแต่งงานครับ”
พอลลี่ : “ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจริงๆ จังๆ เหมือนเขาก็พูดว่าอยากมีลูกกัน อยากมีครอบครัวด้วยกัน เราไม่ได้คิดว่าเป็นการขอแต่งงานจริงจัง แต่เราเริ่มรู้แล้วว่าเขาจริงจังและอยากมีครอบครัวกับเรา”
ขอแต่งงานระหว่างไปดูงานศิลปะ เจ้าสาวหูดับ ตาลอยถูกเซอร์ไพรส์
พอลลี่ : “ก็มีตอนที่มาขอหลังจากคุยกันแล้ว ตอนที่เขาขอเราก็หูดับ ฟังไม่รู้เรื่อง เขาก็ถามว่าได้ยินไหมที่พูดเพราะพอลลี่ตาลอย ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ”
เบนซ์ : “ถามว่าขอที่ไหน คือเมื่อ 3 ปีที่แล้วคุณพอลลี่ และผม เคยไปที่แกลเลอรีที่หนึ่งที่สุขุมวิท ไปดูงานศิลปะด้วยกัน เมื่อ 3 ปีที่แล้วจะมีงานที่ชื่อว่าแกลเลอรีไนท์ ผมก็คิดว่าตอนขอพอลลี่แต่งงานควรจะไปหาสถานที่ที่เรารู้สึกคุ้นเคย เป็นสถานที่ที่ผมกับน้องพอลลี่ได้พบกัน ได้มีความรู้สึกดีๆ แก่กันและกัน เลยเลือกสถานที่นั้นครับ”
อยากใช้ชีวิตคู่ให้เอนจอย บอกไม่รีบมีลูก แต่ถ้ามาก็ยินดี
เบนซ์ : “ชีวิตครอบครัวของผมและน้องพอลลี่เราวางแผนไว้ว่าเราอยากเอนจอยชีวิตคู่ก่อนเนอะ ในเรื่องการมีลูกมีครอบครัว เราตั้งใจไว้อยู่แล้ว”
พอลลี่ : “จริงๆ ไม่ได้รีบนะคะ แต่ถ้ามาเราก็ยินดีอยู่แล้ว เพราะพี่เบนซ์อายุก็ได้แล้ว ส่วนพอลลี่ยังไม่รีบขนาดนั้น ก็แพลนว่าเดี๋ยวจะไปเที่ยวกันก่อน”
เล็งจดทะเบียนสมรสปีหน้า
พอลลี่ : “เป็นพิธีหมั้นค่ะ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสค่ะ เพราะเรามีแพลนว่าสิ้นปีเราจะไปเที่ยวกัน ด้วยความที่เราทำวีซ่าไปหมดแล้ว ถ้าเราจดทะเบียน เอกสารทุกอย่างก็ต้องทำใหม่ค่ะ ก็จะไปจดทะเบียนปีหน้า”
ครอบครัวตกใจทำไมแต่งเร็ว
พอลลี่ : “จริงๆ คุณพ่อคุณแม่พอลลี่ท่านตกใจเล็กน้อยว่าจะแต่งแล้วเหรอ ทำไมเร็วจัง แต่คุณพ่อคุณแม่พี่เบนซ์เขาเห็นด้วยค่ะ ไปดูฤกษ์มาให้เรียบร้อยค่ะ ที่ได้ฤกษ์แต่งวันนี้เพราะคุณพ่อคุณแม่ดูมาให้ค่ะ”
อุบตอบสินสอด บอกเป็นเรื่องภายใน
พอลลี่ : เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คุยกันนะคะ เป็นเรื่องภายใน ไม่ค่อยทราบเท่าไหร่ ของพอลลี่จะได้เครื่องประดับค่ะ และทางพ่อแม่ของพอลลี่ไม่ได้ไปยุ่งในจุดนั้นค่ะ”
เบนซ์ : “ส่วนเรื่องแหวนเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่จัดให้ครับ ผมไม่ทราบครับ ส่วนเรือนหอเรามีคอนโดอยู่ครับ เป็นคอนโดผมเอง อยู่ย่านสาทรครับ”
ฮันนีมูน 12 วัน ที่อียิปต์ อยากได้ประสบการณ์ใหม่ๆ
เบนซ์ : “ไปฮันนีมูนที่อียิปต์ครับ ไปประมาณ 12 วันครับ ที่เลือกอียิปต์เพราะหลายเหตุผลครับ ประการแรกจริงๆ เราอยากไปยุโรปนะครับ แต่ช่วงสิ้นปียุโรปหนาว ข้อที่สองคือ เดย์ไลท์สั้น 4 โมงเย็น พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เลยคิดว่าจะไปไหนดีที่อากาศไม่หนาวเกินไป เดย์ไลท์ไม่สั้น เลยตัดสินใจว่าไปอียิปต์ดีกว่า เพราะตอนนี้เรายังแข็งแรงอยู่เนอะ เลยอยากไปเที่ยวอะไรที่ผจญภัยหน่อย ประการที่สอง อียิปต์เป็นสถานที่น่าตื่นเต้น เราก็หวังว่าการไปฮันนีมูนคราวนี้จะได้รับประสบการณ์ที่เราไม่คุ้นเคย และร่วมเดินทางไปด้วยกันในสถานที่ที่เราไม่เคยไปครับ”
พอลลี่ : “ส่วนตัวเราชอบอียิปต์อยู่แล้ว คิดว่าสักครั้งในชีวิตเราต้องลองไปสักครั้งหนึ่ง แต่ด้วยความที่ก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยไม่ได้แพลนว่าจะไป จนเหมือนเรานั่งคุยกันว่าถ้าเราไปฮันนีมูนจะไปที่ไหนดีที่เราอยากไปแล้วคิดว่าถ้าไปแล้วจะมีแรงไปเที่ยวอยู่ ก็เลยไปที่นี่ค่ะ ก็ไปช่วงเคาท์ดาวน์ค่ะ”
แต่งตามพิธีคริสต์ ยันเชื่อสองศาสนา แต่พิธีคริสต์เป็นพิธีเดียวที่พระเจ้าลงมาอวยพรให้
เบนซ์ : “เราจะมีพิธีคริสต์ครับ และจะเข้ามาที่ห้องนี้เพื่อถ่ายรูปกับแบ็กดร็อปข้างหลังครับ และมีงานเลี้ยงครับ”
พอลลี่ : “จริงๆ คุณแม่นับถือและเชื่อ ตัวพอลลี่รับทราบรับรู้ตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้รับเชื่อเพราะเรายังไหว้พระพุทธรูป และเรายังนับถือพระพุทธเจ้าอยู่ เราเลยมีความเชื่อทาง 2 ศาสนา แต่เราคุยกันว่าพิธีคริสต์เป็นพิธีที่เวลาเราแต่งงานเป็นพิธีเดียวที่พระเจ้าลงมาให้คำอวยพร เราก็รู้สึกว่าเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์ และรู้สึกว่าถ้าเราจะดำเนินชีวิตคู่แล้วเราเริ่มต้นสิ่งดีๆ ก็น่าจะเป็นพิธีนี้ค่ะ แล้วเราก็ชอบด้วย”
เบนซ์ : “และมีอีกส่วนคือทางเราสองคนปรึกษาคุยกันว่าเราจะอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวแล้ว การเป็นครอบครัวเราไม่มีโรงเรียนที่เราจะไปเรียน ประสบการณ์ที่เรารับทราบเกี่ยวกับครอบครัวก็มาจากการที่เราเห็นพ่อแม่เราเป็นตัวอย่าง เราก็มาดูว่ามีคำสอนอะไรมั้ยที่ช่วยให้เราเกิดสติปัญญาในเรื่องการใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน เราก็ลองหาดูว่ามีมั้ย ปรากฏว่าเราค้นพบในศาสนาคริสต์ว่ามีการพูดเรื่องการครองเรือน การเป็นครอบครัว การให้อภัยซึ่งกันและกัน การรักกันโดยปราศจากเงื่อนไข จึงได้เรียนเชิญทาง ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ให้มาช่วยทำพิธีให้ครับ และทางอาจารย์ได้ช่วยให้คำปรึกษาและสอนเราเรื่องการใช้ชีวิตคู่ครับ”
พอลลี่ : “ตัวพอลลี่ไม่ได้เชิงว่าเปลี่ยนซะทีเดียวเพราะเราเชื่อและศรัทธาอยู่แล้ว แต่เรายังไม่ได้รับ ต่อไปก็คงต้องดูว่าเราจะรับเชื่อมั้ย ถ้ารับเชื่อไปแล้วเราจะไม่สามารถไหว้พระพุทธรูปได้ค่ะ ซึ่งตัวพอลลี่เองอยากเคารพพระพุทธศาสนาอยู่ค่ะ เพราะเราดำเนินชีวิตตรงนี้มาตั้งแต่เด็กด้วยค่ะ”
ฟุ้งครอบครัวเจ้าบ่าวอยากอุ้มหลาน
พอลลี่ : “ยังไม่มีค่ะ แต่ถ้ามีก็ยินดีนะคะ เพราะจริงๆ การมีน้องเป็นเรื่องน่ายินดี ถ้ามีก็จะดีใจมากเพราะว่าจริงๆ บ้านพี่เบนซ์อยากได้หลานมากค่ะ แต่ตอนนี้ยังเพราะพอลลี่ยังถ่ายละครไม่จบค่ะ”
“จริงๆ ธุรกิจของพี่เบนซ์ให้พี่เบนซ์ทำไปดีกว่า ถ้ายังมีงานในวงการติดต่อมาก็ยังรับอยู่นะคะ แต่ก็มีแพลนว่าจะเป็นผู้จัดด้วย เรายังชอบเจอเพื่อนๆ เจอคนและมีความสุขอยู่”
เบนซ์ : ผมก็ยังสนับสนุนในสิ่งที่น้องพอลลี่ชอบ ผมเชื่อว่าชีวิตเราทุกคนมีเวลาไม่มากนัก เราควรจะใช้ชีวิตอย่างมีวัตถุประสงค์ในใจของเราครับ”
ชอบเจ้าบ่าวสายธรรมะ บอกเล็งบวชสิ้นปี แต่จากงานบวชกลายเป็นงานแต่ง
พอลลี่ : “จริงๆ ที่ชอบพี่เบนซ์อย่างหนึ่งคือพี่เบนซ์สายธรรมะมาก (หัวเราะ) คือ จริงๆ ก่อนที่เขาจะเจอพอลลี่ เขาจะไปบวช ถ้าเขาไปบวชแล้วไม่สึกไม่ต้องแปลกใจนะคะ แต่เขาเจอเราก่อนค่ะ”
เบนซ์ : ถ้าจะว่าไปจริงๆ จะบวชตอนสิ้นปีนี่แหละครับ จากงานบวชก็กลายเป็นงานแต่งงานครับ (ยิ้ม) ก็มีคุยกับคุณพอลลี่ว่าจะขออนุญาตบวชสัก 2 อาทิตย์ครับ”
สัญญาจะทำทุกวันให้เป็นวันที่ดีที่สุด เจ้าสาวเชื่อมั่นในความรัก สัญญาจะดูแลเจ้าบ่าวตลอดไป
เบนซ์ : “ประการแรก คือ เราจะทำทุกวันให้ดีที่สุด เราไม่มีทางรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันวาน เราแก้ไขมันไม่ได้ เราอยู่ ณ ปัจจุบันก็ทำให้ดีที่สุดของเรา ผมก็สัญญากับคุณพอลลี่ว่าจะทำทุกวันให้ดีที่สุดเพื่อเราสองคน ประการที่สองเราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่เปลี่ยนคือยังไงก็มีเราครับ”
พอลลี่ : “ส่วนตัวเชื่อในความรักนะคะ เคยมีความรักมั้ยก็เคยมี เคยผิดหวัง สมหวัง แต่ว่า ณ วันนี้เราเป็นครอบครัวแล้ว ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เราก็ต้องให้อภัยซึ่งกันและกัน ดูแลซึ่งกันและกัน พอลลี่ก็ให้คำมั่นสัญญากับพี่เบนซ์ว่าพอลลี่จะรักและดูแลพี่เบนซ์ไปตลอดค่ะ”