“คิมเบอร์ลี่” สภาพจิตใจดีขึ้น ยอมรับคาดไม่ถึง พ่อปวดหลังก่อนเส้นเลือดแดงใหญ่หัวใจแตกที่ช่องท้อง - ติดเชื้อในกระแสเลือด โอกาสรอด 10 เปอร์เซ็นต์ โชคร้ายวันนี้ไม่มีปาฏิหาริย์ บอกลาพ่อครั้งสุดท้าย ไม่ต้องห่วง พวกเราจะดูแลกันเอง ตื้นตันทุกกำลังใจ อยู่ได้เพราะกำลังใจจากทุกคน
เป็นข่าวร้ายส่งท้ายปีเลยทีเดียว สำหรับนางเอกช่อง 3 “คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ” ที่ต้องมาสูญเสียคุณพ่อ “ดร.ฮันส์ โยอาคิม ฟลีดาริช โวลเทมัส” อายุ 61 ปี จากอาการติดเชื้อในกระแสเลือด หลังจากมีอาการเส้นเลือดใหญ่หัวใจแตกที่ช่องท้อง ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วน โดยในวันนี้(2 ธ.ค.) มีการสวดพระอภิธรรมเป็นวันสุดท้าย และจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ (3 ธ.ค.) ที่ เมรุ 2 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ซึ่งเพื่อนชายคนสนิท “หมาก ปริญ สุภารัตน์” มาร่วมงานและให้กำลังใจ ด้าน “มาร์กี้ ราศรี บาเล็นซิเอก้า” ร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม โดยนางเอกดังเผยว่าสภาพจิตใจดีขึ้น โชคร้ายที่ไม่มีปาฏิหาริย์ในวันนี้
“ย้อนกลับไปวันที่ 7 พ.ย. นะคะ คืนวันที่ 7 คุณพ่อก็เริ่มเจ็บหลังและขาหนีบมากๆ ค่ะ จนตัวก็ซีดและก็เหงื่อแตกมาก เราก็พาไปส่งโรงพยาบาล ดูจากอาการแล้วก็น่าจะมีเลือดออกในช่องท้อง เช้าวันที่ 8 พ.ย. เลยต้องผ่าตัดด่วนเลยประมาณตี 4 ตี 5 ค่ะ เส้นเลือดแดงใหญ่ของหัวใจแตกในช่องท้อง ต้องผ่าตัดใหญ่มาก 12 ชม. ค่ะ จนอาการเริ่มดีขึ้น เริ่มคุยได้ แล้วก็ติดเชื้อในกระแสเลือด”
“จริงๆ แล้วคุณพ่อเป็นเบาหวานมาก่อนค่ะ ก็มีเส้นเลือดตีบมาก่อน แต่ก็รักษาจนหายค่ะ แต่อันนี้เป็นอีกโรคหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการปวดหลังมันเกี่ยวกับหัวใจตรงไหน ไม่ได้เกี่ยวกับหัวใจเลยค่ะ เขาปวดหลังอย่างเดียวเลย เราก็พาไปกายภาพบำบัดแล้วก็ไม่ได้เจอว่าเป็นอะไร พอติดเชื้อในกระแสเลือดก็ทรุดลง เช้าวันที่ 26 พ.ย. ก็รอให้ลูกๆ มาให้ครบ แล้วก็อยู่ เราก็จับมือเขาจนวินาทีสุดท้ายค่ะ”
ยอมรับหมอบอกว่าผ่าตัดโอกาสรอด 10 เปอร์เซ็นต์ โชคร้ายที่ไม่มีปาฏิหาริย์
“ตอนนั้นก็ไม่มีทางรักษาแล้ว เชื้อค่อนข้างที่จะเข้าไปในเลือดแล้วค่ะ จะหายก็ยากเพราะคุณพ่อมีแผลเยอะมากเลยค่ะจากการผ่าตัด บวกกับเป็นเบาหวาน ไตวาย ระบบภายในเริ่มล้มเหลวก็เลยค่อยๆ ไป จากไปอย่างสงบค่ะ ก่อนผ่าตัดหมอก็บอกว่า 90% คือ เสียชีวิต 10% คือ รอด เราไม่ทำใจค่ะ เพราะคิดว่าต้องมีปาฏิหาริย์ คุณพ่อรอดจากอาการป่วยในครั้งแรก ก็คิดว่า มีปาฏิหาริย์ที่สุดแล้ว ก็เลยคิดว่าแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว ก็โชคร้าย”
“ตอนตี 4 ครึ่ง พี่ชายโทร.มา เพราะว่าถึงเวรต้องเฝ้าคุณพ่อหน้าห้องซีซียู บอกให้รีบมาเพราะว่าคุณพ่อเริ่มมีไข้ขึ้นสูง ความดันเริ่มตก เริ่มทรุดก็เลยไป และรีบเข้าไปหาคุณพ่อเลย ก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง เจ็บมั้ย โอเคมั้ย พ่อก็ส่ายหน้า แค่นั้นก็รู้ว่าเขาไม่เจ็บ สักพักพี่ชายก็มาทีละคนก็มาอยู่กับเขา”
สภาพจิตใจดีขึ้นแต่ยังขึ้นๆ ลงๆ อยู่ได้เพราะกำลังใจที่มีค่าจากทุกคน
“ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็มีบางวันที่ขึ้นๆ ลงๆ คิดถึงมากค่ะ ที่อยู่ได้ก็เพราะว่าได้กำลังใจจากทุกคนนะคะ จากแฟนคลับจากคนรอบข้างเรา จากพี่น้องเรา จากคนที่มาให้กำลังใจเรา”
“ก็บอกพ่อครั้งสุดท้ายว่าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวดูแลกันและกัน ตอนนั้นต้องบอกว่าคุณพ่อพยักหน้ากับส่ายหน้าได้อย่างเดียว อยากบอกว่าขอขอบคุณกำลังใจจากทุกคน จากเพื่อนสนิท จากครอบครัวและคนที่รักคิม มันมีค่ามากมายเหลือเกิน เอาเป็นว่าทุกคนที่คิมรู้จักมากันหมด”
บอกจัดพิธีแบบพุทธ เพราะพ่ออยากให้ทำพิธีเรียบง่าย เตรียมทำพิธีลอยอังคารที่ทะเลสัตหีบ
“เรื่องที่คุณพ่อเป็นฝรั่ง แต่จัดพิธีแบบพุทธ คือ คุณลุงได้คุยกับคุณพ่อนานแล้ว คุณพ่อเคยพูดไว้ว่าอยากทำพิธีง่ายๆ แล้วพอเสร็จตรงนี้ไปลอยอังคารที่ทะเลสัตหีบ แล้วอีกส่วนหนึ่งก็ไปเก็บที่สุสานของตระกูลที่เยอรมัน ส่วนว่าจะไปทำเมื่อไหร่หลังจากเสร็จงานนี้เลยก็จะบินไป ส่วนเรื่องทำบุญก็ทำบุญให้กับเขา”