“บอย ถกลเกียรติ” โต้ขายหุ้นช่องวันให้กลุ่มปราสาททองโอสถ บอกแค่เพิ่มทุนเพิ่มความแข็งแรง ชี้ ช่องวันต้องแกร่งขึ้น ส่วนผู้ถือหุ้นรายใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับช่องพีพีทีวี แฮปปี้ วินวินทั้งสองฝ่าย เปิดใจเรตติ้งดีติดอันดันท็อป 5 ผลประกอบการได้ดีกว่าเป้า ด้านโฆษณาเข้าพรึ่บ เอื้อเฟื้อ “ไนกี้ - แป้ง” ให้เล่นละครช่อง 8 เพราะไม่ใช่คู่แข่งกัน
กลายเป็นข่าวฮือฮาเลยทีเดียว กรณีกลุ่มปราสาททองโอสถ เจ้าของช่อง PPTV เข้าไปซื้อหุ้น ช่อง ONE กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 50% ขณะที่แกรมมี่เหลือสัดส่วนถือหุ้นเพียง 25.50% และ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ถือหุ้น 24.50%
ล่าสุด “บอย ถกลเกียรติ” หัวเรือใหญ่ช่องวัน ตั้งโต๊ะแถลงให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวกลางกองกับดักพิศสวาท ย่านทองหล่อ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เผยเป็นแค่การเพิ่มทุน ไม่ใช่การขายหุ้น เพราะอยากให้ช่องวันแข็งแรง และมีสต๊อกละครมากขึ้น ยอมรับเป็นผลพวงจากละครพิษสวาท ที่สร้างปรากฏการณ์เรตติ้งสูงสุดจนทำให้ช่องวันติดอันดับท็อป 5 อีกด้วย
“การที่มีข่าวออกมาเมื่อวาน (1 ธ.ค.) จริงๆ แล้วมันเป็นการเพิ่มทุนให้กับทางช่องวัน เรามีความคิดว่าเราอยากจะเพิ่มทุนมาสักพักหนึ่งแล้ว ด้วยกิจการของเรามันดีขึ้นเรื่อยๆ เรตติ้งของเราอยู่ติดอันดับ top 5 แต่เราจะทำอย่างไรให้มันแข็งแรงยิ่งขึ้น เราจึงอยากจะเพิ่มทุน”
“ประกอบกับที่เราไปเจอบริษัท ประนันท์ภรณ์ จำกัด โดย คุณปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ซึ่งเป็นบริษัทที่จะมาร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ที่เห็นว่า มันจะมีกำไรและมีอนาคต เป็นโอกาสทางธุรกิจ พอได้มาเจอกันมันเลยลงตัว ก็เลยเป็นบริษัท ประนันท์ภรณ์ ที่เข้ามาร่วมลงทุนกันเรา โดยยืนยันว่า เราไม่ได้ขายหุ้นแต่เราเพิ่มทุน ถามว่ามีผลอะไรหรือไม่ พอมีข่าวออกไป ผมขอยืนยันตรงนี้นะครับ ว่า ไม่ได้เป็นการซื้อหุ้น นี่เป็นการเพิ่มทุนครับ ซึ่งจะทำให้ช่องของเราแข็งแรงขึ้น มันเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ”
ยันผู้ถือหุ้นรายใหม่ไม่เกี่ยวข้องกับช่องพีพีทีวี แฮปปี้วินวินทั้งสองฝ่าย
“บริษัทนี้เป็นบริษัทที่ชื่อว่า ประนันท์ภรณ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ คุณปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ ซึ่งไม่ได้มีการเกี่ยวข้องกับทางช่องพีพีทีวี เป็นคนละกลุ่มกัน ส่วนแง่การบริหารงาน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการบริหารใดๆ ทั้งสิ้น ที่เขาเข้ามาร่วมทุนกับเราครั้งนี้ เพราะเขาเชื่อมั่นในผู้บริหารเดิม เขาเชื่อมั่นในนโยบายเดิม เขาเชื่อมั่นในทางเดินของเรา เพราะที่ผ่านมา ของเรามันดี เขาเห็นมูลค่าทางธุรกิจที่มันจะเกิดขึ้น”
“ผมว่าใครจะมาลงทุนอะไร เขาต้องคาดหวังอยู่แล้วว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น มันไม่ใช่ 1+1 = 2 และมันจะเป็น 1+1 =10 อันนี้เป็นดีลที่วินวิน ผมแฮปปี้มากๆ”
ภาพรวมยังบริหารทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ต้องตกลงอำนาจในการตัดสินใจอีกครั้ง
“ไม่มีรายการหรือคอนเทนต์ของผุ้ถือหุ้นรายใหม่ เพราะเราใช้หลักการบริหารเดิม ถามว่า คุณปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ คนที่ถือหุ้นใหม่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพีพีทีวี เท่าที่ทราบไม่มีนะครับ แต่เขาเข้ามาถือหุ้นครึ่งหนึ่ง ส่วนเรื่องอำนาจในการตัดสินใจ เดี๋ยวต้องต้องมาตกลงกันอีกที เพราะมันจะมีในเรื่องของบอร์ดบริหาร และอีกหลายๆ อย่าง แล้วต้องดูอีกว่าหน้าที่ของแต่ละกลุ่มนั้น ต้องดูอะไรอีกบ้าง พูดเป็นภาพรวมแล้วกันว่าเรายังบริหารทุกอย่างเหมือนเดิม”
มั่นใจต่อไปจะแข็งแรง ชี้สต๊อกละครจะมีเยอะขึ้น มีตัวเลือกมากขึ้น
“คุยมาสักพักหนึ่งครับ ต่อไปเราจะแข็งแรงขึ้นครับ เราไม่ได้เพิ่มส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นหลัก ผมกลับมาในเรื่องของอิสรภาพในการทำงานใหญ่ๆ จะมีมากขึ้น อย่างเช่นว่า การดูแลเรื่องของการสต๊อกละครที่มีเยอะขึ้น ซึ่งการเป็นอย่างนั้นเราต้องมีการลงทุนเยอะขึ้น ในการลงทุนของเราโดยปกติอาจจะสต็อกอยู่ไม่กี่เรื่อง แต่มาตอนนี้พอเราเพิ่มทุน สต็อกละครเราทำเพิ่มได้มากขึ้น พอเวลาจะออนแอร์จริง เราสามารถมีตัวเลือกมากขึ้นว่าจะออนเรื่องไหนดีที่พร้อมที่สุด และเหมาะสมที่สุด ผังรายการของช่องเราจะเต็มมากขึ้น จากที่ผังรายการเราเต็มในช่วงไพรม์ไทม์ และซูเปอร์ไพรม์ไทม์แล้ว เราอาจจะไปเพิ่มตรงส่วนอื่น ที่ยังเป็นพวกนอน-ไพรม์ไทม์ ช่องเราจะแข็งแรงขึ้น ที่ผ่านมาสต๊อกละครของเรามีเพียงพอแต่บางทีเราเลือกไม่ได้ เพราะบางทีเรื่องนั้นยังถ่ายไม่เสร็จ อีกเรื่องก็ยังไม่เสร็จ แต่พอเรามีสต๊อกมากขึ้น เราก็มีตัวเลือกมากขึ้น”
ไม่มีผลต่อการจ่ายเงิน กสทช. งวดที่ 2 เพราะเตรียมไว้หมดแล้ว
“ไม่มี ตรงนั้นเราเตรียมเอาไว้หมดแล้ว พอเรามีเงินทุนแล้ว เราสามารถทำอะไรได้ง่ายขึ้น ถามว่าปีนี้ทางช่องประสบปัญหาอะไรบ้าง ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของความสะดวกสบายในการทำงานมากกว่า”
ยอมรับ “พิษสวาท” ทำให้ช่องวันได้รับความนิยมมากขึ้น คาดอันดับต้องขยับสูงขึ้นแน่นอน
“ผมว่าทุกอย่างมันช่วยกันหมด แน่นอนว่า พิษสวาทเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ก็เป็นอีกหนึ่งในส่วนที่ทำให้ช่องวันมีความนิยมมากขึ้น ในขณะเดียวกัน เรายังมีรายการหรือเรื่องอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย เป็นเรื่องของหลายสิ่งหลายอย่างรวมกัน ถามว่า คาดหวังว่าช่องวันจะไต่อันดับเพิ่มมากขึ้นมั้ย ไม่บอกครับ เพราะเราบอกไม่ได้ แต่มันต้องเพิ่มสูงขึ้นอีกแน่นอน (หัวเราะ) ส่วนเรื่องการเปิดรับผู้จัดนอกค่ายให้มาร่วมงานกับช่องวัน จริงๆ มีการพูดคุยกันเยอะอยู่แล้ว ทั้งคนนอก และคนใน เราพูดคุยกันอยู่เป็นประจำ”
“ด้านการปรับกลยุทธ์ เราจะมีอะไรให้ดูมากขึ้น ละครสนุกขึ้น แต่ที่ผ่านมาเรามีการปรับเรื่อยๆ อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้กระแสก็ดีมาก คอนเซปต์ใหม่ๆ ในปีหน้า ผมจะบอกได้ยังไง มันเป็นความลับในการดำเนินธุรกิจ เพราะเราก็มีแผนการที่คิดเอาไว้บ้าง รับรองรายการเด็ดๆ เพียบ ส่วนแนวทางของละครปีหน้า ผมคิดว่าละครมีความหลากหลายอยู่แล้ว การจะย่ำอยู่กับที่ด้วยละครแนวเดิม มันคงเป็นไปไม่ได้”
ไม่สนซีรีส์เกาหลี ชี้ไม่เหมาะ และตอนนี้แฮปปี้มาก โฆษณาพรึ่บ ผลประกอบการดีกว่าที่ตั้งเป้า
“ไม่สนใจครับ เพราะเคยซื้อมาแล้วไม่ได้รับการตอบรับที่ดี คงจะไม่เหมาะกับช่องเราเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ช่องวันแฮปปี้มาก (หัวเราะ) ส่วนสถานะตัวเลขผลประกอบการในอนาคตหลังจากเพิ่มทุน ตอบไม่ได้เลยครับ ลุ้นๆ อยู่ (หัวเราะ) จริงๆ ปีนี้ก็ได้ดีกว่าเป้า โฆษณาเข้ามามากขึ้น”
“ไม่กดดันเพราะกระแสละครพิษสวาททำเอาไว้ดี ผมว่ามันดีโดยภาพรวม การที่จะมีปรากฏการณ์ละครหนึ่ง มันเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ ในวงการนี้ทั้งประเทศไทยและทั่วโลก ละครที่บอกว่าเรื่องนี้มาแล้วจะเปรี้ยงที่สุด ผมคิดว่าเขาโกหก มันไม่มีใครคาดเดาได้หรอก เพราะมันไม่มีสูตรสำเร็จ ต้องขึ้นอยู่กับว่าพออกอากาศไปแล้วมีเสียงตอบรับจากผู้ชมว่าอย่างไรมากกว่า แต่เราทำให้ดีที่สุด ถ้าภาพรวมของมันจะดี มันก็ต้องออกมาดีอยู่แล้ว”
เอื้อเฟื้อนักแสดง อย่าง “แป้ง อรจิรา - ไนกี้ นิธิดล” ให้ช่อง 8 บอกไม่ใช่คู่แข่งกัน
“ตอนนี้อะไรที่มันเป็นโอกาส เราก็เอื้อเฟื้อได้ (หัวเราะ) มันเป็นโอกาสของตัวนักแสดงด้วย ถามว่า ทางช่อง 8 เหมือนจะเป็นคู่แข่งของเรา ผมมองว่ามันเป็นโอกาสของนักแสดงมากกว่า ก่อนที่เขาจะไปก็มีการพูดคุยกัน แต่ปีหน้าเขายังมีผลงานการแสดงกับเราอยู่ ส่วนจะเป็นนักแสดงในสังกัดเราอยู่หรือเปล่า ก็แล้วแต่คนครับ (หัวเราะ) การที่จะบอกว่าเราดองละคร จริงๆ มันเป็นเรื่องของความพร้อมในการออกอากาศแต่ละเรื่องมากกว่า เราต้องดูเวลาว่าจะเหมาะสมในการออกอากาศช่วงไหน”