“ปริม” เมีย “บอย ถกลเกียรติ” ภูมิใจ ลูกเทิดทูน “ในหลวง” โดยไม่ต้องสอน แต่ปลูกฝังลูกตลอดทำไมคนไทยถึงรักในหลวง เทิดทูนพระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ จัดหนักใครทำอะไรกับพระองค์ให้รอผลกรรม จวกพวกทำให้ประเทศแตกแยกไม่มีทางตายดี นรกยังไม่เอา
เป็นครอบครัวหนึ่งที่มีความจงรักภักดีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แม้แต่ลูกๆ ยังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงโดยที่ไม่ต้องสอน โดย “ปริม กณิการ์ วีรวรรณ” ภรรยาบอสเอ็กแซ็กท์ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” เผยเป็นเพราะลูกได้ดูพระราชกรณียกิจในหลวง และครอบครัวพาไปรับเสด็จฯ ทุกครั้งที่มีโอกาส
“เราไม่เคยบอกลูกให้รักพระเจ้าแผ่นดินนะ แต่ว่าให้เขาดูจากพระราชกรณียกิจ เวลาเห็นภาพข่าวพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมราษฎร ลงจากเฮลิคอปเตอร์ หรือขับรถลุยน้ำเข้าไป และครั้งแรกที่เขาเห็นภาพรถพระที่นั่งที่ท่านขับเอง ลูกก็จะบอกว่า โหย! น้ำสูงขนาดนี้เลยเหรอ เพราะเชื่อว่าหากเขาเห็นแล้ว เขารักเอง ซึ่งมันมาจากใจ แต่ถ้าเราบอกว่าต้องรัก มันไม่ใช่ ลูกๆ ก็จะซึมซับเอง แล้วอีกอย่างหนึ่งที่โชคดี การที่เขาอยู่ตรงนี้ แล้วพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) เขาทำละคร เขาจะเห็นและซึมซับ ตอนละครเรื่องสี่แผ่นดิน เขาก็จะเห็นตั้งแต่ต้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ เสด็จฯ ลูกๆ ก็ได้เข้าเฝ้าฯ เขาจะได้ซึมซับจากตัวเขาเอง”
“พ่อและแม่ก็ไม่เคยสอนให้เรารักในหลวงนะ ต้องย้อนกลับไปนะว่าตอนเราเด็กๆ เราก็ไม่เข้าใจนะว่าทำไมผู้ใหญ่ถึงชอบดูข่าวหัวค่ำ ส่วนเราตอนเป็นเด็ก เราก็จะรอดูการ์ตูนหัวค่ำ แล้วมีข่าวอยู่ข่าวหนึ่งที่เราตั้งตารอ คือ ข่าวพระราชสำนัก ตั้งตารอดู (น้ำตาคลอ) ซึ่งนั่นก็เป็นภาพจำเลย และเวลาหลับตาคือเห็นภาพเฮลิคอปเตอร์จอด ท่านเสด็จฯลงมา สมเด็จย่าก็เป็นเช่นนั้น ทั้งๆ ที่พระองค์มีพระชนมพรรษามากแล้ว เราเห็นภาพเหล่านั้นตั้งแต่เราเกิด จนเราจำความได้ เราเติบโตมากับสิ่งนั้น แต่เรารู้ว่าลูกไม่เห็นสิ่งนั้น สิ่งที่เราทำได้คือให้เขาดู ไม่เคยบอกเขาเลยนะ ไม่เคยไปใส่อะไรเขา”
เสียงสั่นเครือชวนสามีไปรับเสด็จที่ราชดำเนิน อยากจะโกน “ทรงพระเจริญ” ให้สุดเสียง แต่พอถึงเวลากลับพูดไม่ออก น้ำตาไหลริน
“และสมัยก่อนที่ปริมอยู่สาธิตจุฬาฯ เด็กประถม 1 - 2 ทางโรงเรียนจะให้เข้าแถวรับเสด็จฯพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากพระองค์จะเสด็จฯพระราชทานปริญญาบัตร จำได้ว่าเราก็เดินจากโรงเรียนสนุกสนานเฮฮา ข้ามถนนเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพอเข้าแถวรับเสด็จฯ คือ มันเงียบมาก คือ ต้องคิดอย่างหนึ่งนะว่า เด็ก ป.1 - ป.2 ที่ไม่สามารถคุมอะไรได้ แต่เมื่อพระองค์เสด็จฯมา ทุกอย่างกลับเงียบ ทุกคนนั่งลงก้มกราบแล้วพยายามแหงนหน้ามองว่าเห็นพระองค์ท่านมั้ย กลับจากรับเสด็จฯก็จะมานั่งคุยกันว่ามีใครเห็นพระองค์ท่านบ้าง นั้นคือ เป็นครั้งแรกที่รับเสด็จฯ ถือว่าเป็นความโชคดีของเด็กสาธิตจุฬาฯทุกคน”
“และพอโตขึ้นปริมไม่ได้มีโอกาสรับเสด็จฯนะ จนช่วงหลังๆ ปริมชวนพี่บอยไปรับเสด็จฯที่แถวๆ ราชดำเนิน ซึ่งพี่บอยเองเขาก็เป็นเด็กสาธิตจุฬาฯเหมือนกัน บ้านเราได้เรียนที่เดียวกัน ก็จะมีโอกาสแบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้นชวนพี่บอยไปรับเสด็จฯที่ราชดำเนิน (เสียงเครือ) รอรับเสด็จฯเป็นชั่วโมง สมัยนั้นคนยังไปรับเสด็จฯไม่มากนะ เราไปกันแบบว่าขึ้นแท็กซี่แล้วกระโดดลง หาที่ไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่ชั่วโมง มันไม่มีความเหนื่อย มันไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเลย ตั้งหน้าตั้งรอว่าเมื่อไหร่ท่านจะเสด็จฯ และคิดว่าถ้าพระองค์ท่านมา เราจะตะโกนคำว่าทรงพระเจริญให้สุดเสียง แต่พอถึงเวลาจริงๆ มันพูดไม่ออกเลยนะ มันอึกอยู่ในใจ แล้วได้แต่กระซิบอยู่เบาๆ และมีน้ำตาที่ไหลออกมา แล้วพอรถพระที่นั่งผ่านไป ทุกคนก็จะอึ้งๆ นิ่งๆ แล้วหันมายิ้มให้กัน บรรยากาศที่ไป ทุกคนก็ยิ้มแย้ม แจ่มใส อยู่กันมืดจนค่ำ และเสร็จแล้วเดินออกมา กว่าหารถได้ แต่ทุกคนก็เต็มใจ”
“ซึ่งตอนนั้นลูกก็ยังเล็ก ไม่ได้เอาลูกไปด้วย พอปีถัดมาปริมก็เอาลูกไปด้วย เอาไปทั้งคู่เลยนะ ยอมรับว่ามันลำบากนะ ห้องน้ำก็ไม่มีและด้วยความเป็นเด็กด้วย ซึ่งพอปีถัดมาปริมถามเขาอีกนะว่าไปมั้ย เขาบอกว่าไป เราก็ไปอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ ไปนั่งรออยู่ริมถนน แดดร้อน คุณยายที่นั่งข้างๆ เขาก็บอกว่าหนูๆ ขยับมานั่งตรงนี้ แล้วกางร่มให้เงาร่มทอดผ่านมาทางลูกๆ มันมีความเอื้ออาทรอยู่ตรงนั้น แล้วลูกเองก็ได้เรียนรู้ที่จะแบ่งปัน ศูนย์รวมจิตใจของคนไทยอยู่ตรงนี้”
ไม่เคยบังคับลูก แต่ปลูกฝังลูกเสมอ ทำไมคนไทยถึงรักในหลวง
“หลังจากที่ท่านสวรรคต ปริมมีโอกาสได้อ่านบทความบทความหนึ่ง เขาพูดถึงว่าเด็กประถม 6 ลงไป เขาไม่เข้าใจหรอกว่า ทำไมผู้ใหญ่ ถึงร้องไห้เสียใจขนาดนี้ เขาอาจจะไม่ทัน แต่เรากลับมาคิดว่ามันก็เป็นเรื่องจริงนะ แต่ว่าเราเนี่ยพาลูกไปอย่างนี้ตลอด ปลูกฝังตลอด ปริมเลยถามเขาว่าสงสัยมั้ยว่าทำไมแม่ถึงเสียใจขนาดนี้ เขาบอกว่าสงสัย เราเลยบอกว่าลองคิดดูว่า คนๆ หนึ่งที่ทำทุกอย่างขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ลุยน้ำ ตากฝน ทำเพื่อราษฎรทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นหนูๆ รักมั้ย เขาบอกว่าเขารัก และนี่ไงคือเหตุผลที่แม่รักท่านเหลือเกิน นี่คือสิ่งที่เราไม่ได้บังคับ แต่ให้เขารู้เองด้วยตัวเอง คนดีๆ อย่างนี้ ทำไมเราจะไม่รักล่ะ”
“และเดือนตุลาคมเป็นเดือนแห่งความสูญเสียมากๆ เด็ก 2 คนนี้ เขาเพิ่งเสียพี่เลี้ยงเขาไป เมื่อไม่นานมานี้ คนที่อยู่กับเขาตั้งแต่เกิด ความเสียใจและกำลังใจมันก็หายไปหมด ปาว (ปรวดา) บอกว่าไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว เราก็ได้แต่สอนเขาว่า พระเจ้าอยู่หัวท่านเคยตรัสไว้ว่าเราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ปาวคิดว่าหยุดอยู่บ้าน เพราะว่าเราหมดกำลังใจ กับไปโรงเรียนอันไหนมันน่าจะทำมากกว่ากัน เราบอกต่อว่าทำความดีมันยากกว่าการทำชั่วอยู่แล้ว ก็นี่ไง ปาวรู้ว่าอะไรที่มันควรทำมันยาก แต่เราก็ต้องทำใช่มั้ย สอนเขาจากสิ่งที่ท่านสอนเรา แล้วก็ลงมือปฏิบัติ”
“และในวันที่พระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต วันนั้นที่โรงละครในตอนแรกจะมีรอบกาลา เราก็ยกเลิกงานไป เด็กๆ เขามาถึงที่โรงละคร เขาคิดว่ามีงานอยู่ พี่บอยก็มาบอกเด็กๆ ว่าพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ประโยคแรกที่ปาวพูดคือว่าปาวยังไม่ได้ไปลงนามถวายพระพรท่านเลย เพราะว่าเดิมทีวันที่ 12 ต.ค. ตอนเช้าที่ไปส่งลูกที่โรงเรียน เราก็คุยกันว่า วันที่ 13 ตอนเช้าลาเรียนนะ แล้วเราไปลงนามถวายพระพรกัน แต่พอเย็นวันที่ 12 ต.ค. ปรางลูกสาวคนโตเขามาบอกว่า วันที่ 13 ต.ค. ตอนเช้า ปรางต้องไปลงนามกับทางโรงเรียน เพราะว่าปรางเป็นสภานักเรียนไปเป็นตัวแทน เราบอกว่าโอเคไม่เป็นไร งั้นวันที่ 14 ต.ค. เราค่อยไปกัน จะได้ไปพร้อมกันครอบครัว 4 คนพ่อแม่ลูก”
“แต่พอถึงเวลามันไม่ทัน พอพี่บอยบอกเด็กๆ ไปแล้ว ปาวถึงบอกอย่างนั้นว่าเขายังไม่ได้ไปลงนามเลย ปริมเลยบอกเขาว่าท่านสอนปาวแล้วนะ ว่ามันอาจจะไม่มีวันพรุ่งนี้เลยก็ได้ เราจะทำอะไร เราจะทำความดี ก็ต้องทำเลยทันที เพราะว่าเวลาจะผ่านไปเลย แต่ปริมก็บอกนะว่ามันไม่ใช่ความผิดของปาวนะ แต่ด้วยสถานการณ์ทำให้เราไม่ได้ทำ แล้วที่ผ่านมาปาวเคยไปลงนามถวายพระพร แต่เขาก็มีความรู้สึกว่าครั้งนั้นไปกับคนเยอะแยะ อยากไปแบบครอบครัว”
เทิดทูนในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ ใครทำอะไรกับพระองค์ให้รอผลกรรม ซัดพวกทำให้ประเทศชาติแตกแยกไม่มีทางตายดี
“ยังมีคนที่ไม่รักในหลวง (เงียบ) บางคนก็รู้ว่าเขาได้รับข้อมูลผิดๆ อืม (นึก) เราเคยได้ยินว่ามีคนพูดในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ตรงนั้นเราก็เข้าใจว่ามันเป็นข้อมูลที่ผิดและข้อมูลที่บิดเบือนไป ทำให้เขาเข้าใจแบบนั้น เราก็ไม่โทษเขา เขารับมาแบบนั้น แต่เรามีหน้าที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ทำได้คือการทำจากคนใกล้ชิดเราก่อน ส่วนนั้นเราให้อภัยได้ แต่คนที่เป็นคนที่เริ่มต้น อันนั้นเราไม่ให้อภัย ปริมเชื่อว่าพระเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ใครทำกับท่าน ก็รอรับผลของกรรม ไม่มีทางหนี ทำกับพระโพธิสัตว์ ทำกับประเทศชาติ กับศาสนา ทำให้ประเทศแตกแยก ศาสนาแตกแยก ไม่มีทางตายดี ซึ่งปริมได้คุยกับเพื่อนๆ แบบขำๆ ยังบอกว่านรกยังถุยเลย นรกยังไม่เอา”