ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะใช้ชีวิตแบบใด จะใช้จ่ายวัยเวลาอย่างไร จะทำอะไรอย่างที่ใจอยากจะทำแต่ไม่ได้ทำ ใช่หรือเปล่า? นี่คือหนึ่งในคำถามที่ใหญ่มากๆ ของหนังเรื่องใหม่ ซึ่งนำแสดงโดยคุณใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” ภาพยนตร์ที่รีเมกมาจากงานของประเทศเกาหลีเรื่อง “มิส แกรนนี่” (Mis Granny)
สำหรับคนที่ติดตามข่าวสารภาพยนตร์ คงจะพอทราบข่าวถึงการรวมตัวกันระหว่างสองค่ายหนังสองประเทศ คือบ้านเรากับเกาหลี โดยมีซีเจ เอนเตอร์เทนเมนท์ ของเกาหลี กับเมเจอร์ของไทย จับมือกันเป็นพันธมิตรเพื่อดำเนินการสร้างภาพยนตร์ และใช้ชื่อค่ายว่า “ซีเจเมเจอร์”
และสำหรับคนที่ติดตามภาพยนตร์เกาหลี ก็คงจะเคยรู้หรือกระทั่งเคยได้ดูหนังเกาหลีเรื่องหนึ่งซึ่งออกฉายในปี 2557 เรื่อง “มิส แกรนนี่” (Mis Granny) ผลงานของค่ายซีเจ เอนเตอร์เทนเมนท์ ซึ่งถือว่าเป็นหนังที่ทำเงินได้มากในประเทศบ้านเกิด และเมื่อซีเจฯ ร่วมหุ้นกับเมเจอร์ จึงเกิดการนำเอาหนังเรื่องนี้มารีเมกอีกครั้ง ซึ่งอันที่จริง หนังเรื่องนี้มีโครงการที่จะถูกปรับไปรีเมกในเวอร์ชั่นต่างๆ ทั้งเวียดนาม อินโดนีเซีย และอีกหลายประเทศที่ซีเจ เอนเตอร์เทนเมนท์ ไปเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้วย
ต้องบอกว่า นี่คือผลงานการเปิดตัวที่ดีเลยทีเดียวสำหรับซีเจเมเจอร์ อันนี้มองในมุมของตัวภาพยนตร์ก่อนนะครับ ถึงแม้จะเป็นการรีเมก แต่ก็เป็นการรีเมกที่ผมรู้สึกว่า ทำได้ค่อนข้างจะดีกว่าเวอร์ชั่นต้นฉบับด้วยซ้ำ แม้ดูแล้วจะเห็นว่าเป็นการรีเมกแบบที่แทบจะพูดได้ว่า ซีนต่อซีน ฉากต่อฉาก ซีเควนซ์ต่อซีเควนซ์ รวมไปจนถึงคาแร็กเตอร์ตัวละครก็แทบจะเป็นการก็อปปี้เพสต์ กระนั้นก็ตาม แม้อะไรจะดูเดิมๆ แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาและน่าชมเชยก็คือเรื่องของความซาบซึ้งกินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวแสดงคือคุณใหม่ ดาวิกา ก็สามารถถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ตัวละครหลักออกมาได้น่าประทับใจ
ในเรื่อง เธอคือ “ย่าปาน” ซึ่งอาศัยอยู่กับลูกชายคนเดียวที่เป็นถึงรองศาสตราจารย์ ลูกชายก็มีครอบครัว มีภรรยา รวมทั้งลูกสองคนที่กำลังเป็นวัยรุ่น แต่ดูเหมือนว่ายิ่งนานวันไป ย่าป่านที่สูงวัยก็ดูจะเป็นภาระของลูกหลานยิ่งขึ้นทุกที อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างย่ากับลูกสะใภ้ก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไรนักจากการเป็นคนปากร้ายของย่า ครอบครัวจึงคิดหาหนทางว่าจะทำอย่างไรกับย่าดี สุดท้ายก็ส่งย่าไปบ้านพักคนชรา แต่ไปอยู่ได้ไม่เท่าไร วันหนึ่ง คุณย่ากำลังรอรถเมล์ มองฝั่งตรงข้ามเห็นร้านถ่ายรูป “ฉายารำลึก” จึงนึกว่าน่าจะเป็นการดี ถ้าหากว่ามีภาพถ่ายสวยๆ เก็บไว้สักภาพ
อย่างที่ทุกท่านคงจะทราบนั่นล่ะครับว่า การเข้าไปถ่ายรูปในร้านดังกล่าว ทำให้ “ย่าปาน” เปลี่ยนสังขารจากคนชรา กลายเป็นสาวใสวัย 20 แล้วก็นำไปสู่สถานการณ์ต่างๆ ตามมา ที่มีทั้งความวุ่นวาย และความซาบซึ้งใจในขณะเดียวกัน
ผลงานชิ้นนี้มีความน่าประทับใจในหลายๆ ด้าน อันดับแรกคือเรื่องของเนื้อหาที่เกี่ยวพันกับเรื่องผู้สูงอายุ หนังกอดเกี่ยวประเด็นนี้ไว้แบบรอบทิศทาง ทุกๆ องค์ประกอบมีความ “สูงวัย” อยู่ในที ร้านถ่ายรูป (ฉายารำลึก) ก็แสดงความเก่าแก่อย่างเด่นชัด เช่นเดียวกับเพลงประกอบหลักๆ ที่เด่นๆ อย่างเช่นเพลง “ฉันจะฝันถึงเธอ” หรือเพลงของคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ก็ดูจะย้อนเวลาไปมาก และในมุมหนึ่งก็คือมีความสูงวัย
นอกไปจากนั้นคือเรื่องตัวละครซึ่งก็คือคุณย่าปาน ลูกชายของคุณย่าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ผู้สูงวัย ฉากตอนเปิดเรื่องในห้องเรียนนั้น ก็สามารถนับเป็นความน่าสะเทือนใจได้เช่นกันถึงสถานการณ์ของผู้สูงวัยที่ถูกมองจากมุมมองต่างๆ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร รวมๆ แล้วก็เหมือนกับว่าผู้สูงวัยนั้น “น่าระอาเหลือเกิน”
แต่เมื่อยิ่งหนังดำเนินไปข้างหน้า เราก็จะยิ่งได้พบว่า ผู้สูงวัยนั้น แม้หลายสิ่งหลายอย่างจะค่อนข้างดูน่ารำคาญ แต่ความรักความห่วงหาอาทรของพวกท่าน ยังคงมีมากเสมอ สำหรับลูกๆ หลานๆ ซึ่งตรงนี้ ผมคิดว่าหนังสื่อสารออกมาได้ดีมาก ผ่านตัวละครของย่าปานที่แม้จะกลับไปเป็นสาวใสวัย 20 แต่หัวใจของท่านก็ยังเพียบพูนไปด้วยเมตตาความรักต่อลูกหลาน และที่สำคัญ เหมือนจะยิ่งทำให้ลูกหลานได้สัมผัสกับหัวใจอันแท้จริงของหญิงชราคนดังกล่าวมากขึ้นด้วยซ้ำไป
พูดง่ายๆ งานชิ้นนี้เป็นหนังที่ส่งเสริมความรักความเข้าใจระหว่างกัน เสริมสร้างความผูกพันระหว่างคนต่างวัย ไม่ต้องมองอื่นไกล เอาเฉพาะคนใกล้ตัว อย่างครอบครัวที่มีผู้สูงวัยอยู่ในบ้าน เราอาจจะมีเรื่องให้ต้องรำคาญหงุดหงิดกันบ้างเป็นธรรมดา เฉกเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้ว แก่นแท้ของหัวใจ แก่นแท้ของความรู้สึก ก็เต็มไปด้วยความรักความปรารถนาดี
พูดอย่างนี้ หลายคนอาจจะนึกว่า อ้าว นี่มันหนังสำหรับคนแก่หรือเปล่า จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ เพราะถึงแม้ส่วนหนึ่งจะเกี่ยวกับคนแก่ และส่งเสริมการทำให้คนวัยรุ่นๆ เราอยู่ร่วมกับคนแก่อย่างสันติและเป็นสุข แต่อีกมุมหนึ่งซึ่งสำคัญมากๆ และหนังก็ถ่ายทอดออกมาได้ดีก็คือเรื่องของการใช้จ่ายวันเวลาในชีวิต
คือเราจะใช้จ่ายวันเวลาอย่างไรให้มีคุณค่า มีความหมายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หนังให้คุณย่าปานกลับไปเป็นวัยสาวอีกครั้ง พร้อมทั้งโยนคำถามให้กับคนดูว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เราจะใช้ชีวิตอย่างที่เคยทำหรือไม่ หรือเราจะใช้ชีวิตแบบอื่นๆ ซึ่งในหนังก็ตอบคำถามนี้ได้ดี อย่างไรก็ดี ในเนื้อหาส่วนนี้ หนังก็ยังมีตัวละครที่เป็นวัยรุ่นคนสำคัญอยู่อีกหนึ่งคน นั่นก็คือหลานของย่าปาน (แสดงโดย เจเจ กฤษณะภูมิ) เป็นคนที่ย่าปานรักมาก และเจ้าเด็กคนนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพายอะไรเท่าไหร่ในเรื่องการเรียน แต่เขามีความเพียรในด้านดนตรี และ ณ จุดนี้ หนังก็โยงไปถึงการใช้จ่ายวันเวลาในชีวิตอย่างมีความฝันและมีความมุ่งมั่น ซึ่งดูแล้วก็สัมพันธ์กันหมด เพราะถ้าผู้สูงวัย ย้อนเวลาไปได้และถามตัวเองว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร แท้จริงแล้วมันก็โจทย์เดียวกันกับที่วัยรุ่นหนุ่มสาวควรจะถามตนเองด้วยเช่นกันว่า เราได้ทำสิ่งที่คิดและเชื่อว่ามีคุณค่าต่อตัวเราเองแล้วหรือยัง
วันหนึ่งข้างหน้า วัยหนุ่มสาวของเราจะกลายเป็นความหลัง วันหนึ่งข้างหน้า วัยที่มีพลังพร้อมที่จะลุยความฝันทุกสิ่งอย่าง จะกลายเป็นความหลัง ผมคิดว่าหนังกระตุกกระตุ้นได้ดีมากครับสำหรับคนวัยรุ่นหนุ่มสาวในแง่ที่ว่า เมื่อยังมีเวลา มีพลัง และมีโอกาส เราจะเก็บกวาดเสกสร้างเส้นทางของเราอย่างไร
ด้วยเหตุนี้ “20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น” จึงไม่ใช่แค่หนังที่จะนำพาคนแก่ให้เพลิดเพลินเจริญใจไปกับการได้รีเทิร์นวัย กลับไปเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกคราวครั้ง เพราะมันยังพูดถึงคนที่ยังไปไม่ถึงวัยแก่ด้วยว่า เราจะสร้างสรรค์วันเวลาของเราอย่างไร
ดีต่อความคิด ดีต่อชีวิต ดีต่อจิตใจมากๆ ครับ หนังเรื่องนี้!
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม