xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) เกินจะยื้อไหว! “ตุ้ย” ถอดใจ ยอมรับความพ่ายแพ้ ปิดตำนานคลื่นซี้ด ด้าน MCOT หยอดเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะเข้าใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ตุ้ย ธีรภัทร์” ขอบคุณทุกคนด้วยหัวใจ ใจหายปิดตำนานคลื่นซี้ด พยายามปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค แต่ยอมรับในความพ่ายแพ้ ด้าน อสมท หยอดเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะเข้าใจ เชื่ออีกฝ่ายแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะยื้อต่อไป โอดแค่มีมือถือทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง กระทบกันเป็นลูกโซ่กระทบทั่วโลก เล็งปรับคลื่นซี้ดเป็นคลื่นสำหรับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม



จากกรณีที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT ออกประกาศแจ้งยกเลิกกิจการ “ซี้ดเอ็มคอท” ที่บริหารคลื่นวิทยุ FM 97.5 MHz บอกประสบปัญหาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจจากการลดลงของรายได้ต่อเนื่อง เป็นผลจากพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่มีศักยภาพเพียงพอในการดำเนินกิจการต่อไปได้ และจะนำคลื่นวิทยุ FM 97.5 MHz มาบริหารเอง

ล่าสุด “ตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล” กรรมการผู้จัดการบริษัท ซี้ดเอ็มคอท จำกัด ได้ออกมาเปิดใจถึงกรณีดังกล่าว พร้อมด้วย “นายพิเศษ จียาศักดิ์” กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อสมท ในระหว่างการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอ บทเพลง “สืบต่อไป” ณ อาคารปฏิบัติการฯ ยอมรับในความพ่ายแพ้ และนี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่เป็นเรื่องธุรกิจ

ตุ้ย : “คงเป็นประเด็นอย่างที่ทราบกันว่าในส่วนของบริษัท ซี้ดเอ็มคอท จำกัด ที่ดำเนินการในส่วนของการผลิตคอนเทนต์คลื่นซี้ด 97.5 ก็คงจะต้องปิดตัวลง ในส่วนของการสานต่อคลื่น 97.5 ณ ตอนนี้ก็คงจะอยู่ในกระบวนการของการออกแบบและปรับเปลี่ยน ในอนาคตก็คงจะมีรูปแบบที่จะสอดรับกับกลุ่มเป้าหมายของผู้ฟังผู้ชมมากขึ้น

“สาเหตุที่ทำให้บริษัทต้องปิดตัวลงเกิดจากทางส่วนของทีมงานซี้ดเองพยายามที่จะปรับตัวให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งฐานหลักของเราเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของสื่อ แต่ก็ต้องบอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วบางทีมันก็ไม่สอดคล้องกับทำงานที่พวกเราพยายามกัน ที่สุดแล้วพอมันไม่สอดคล้องกันในเชิงธุรกิจมันก็ไม่สามารถที่จะเดินต่อไปได้ ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นเรื่องของรายรับรายจ่ายที่ขาดทุนนั้น ผมว่าหลักๆ เป็นประเด็นเรื่องของธุรกิจด้วย”

รักษาการ : “อย่างที่ทางตุ้ยได้บอกไป มีเดีย แลนด์สเคป มันเปลี่ยนไป เช่นเดียวกันที่ทางอสมทก็ได้รับผลกระทบเนื่องจากสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลงไปโดยเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค เพราะฉะนั้นทางอสมท. เองก็มีการประเมินและพูดคุยกันกับตุ้ยในฐานะผู้บริหารซี้ดเอ็มคอทมาตลอด พอถึงเวลาก็ตัดสินใจว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไป เพราะว่าในส่วนของการทำธุรกิจก็ทราบดีกันอยู่แล้วว่ามันเป็นสัจธรรมที่มีขึ้นก็ต้องมีลง ซึ่งทางอสมทก็ต้องขอบคุณผู้บริหารซี้ดเอ็มคอทที่ดำเนินการกับทาง อสมท มาตลอดระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้ อสมท แม้กระทั่ง บ.ซี้ดเอ็มคอท เองเจริญรุ่งเรืองมาได้ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเปลี่ยนไป ในการทำธุรกิจแน่นอนต้องมีการวัดผลประกอบการและระยะเวลาที่กำหนดไว้ เมื่อมันไม่ได้เป็นไปตามระยะเวลา ตามแผนงาน หรือตามเป้าหมาย มันก็ต้องมีการพูดคุยตกลงกันด้วยดี”

อนาคตกลับมาร่วมงานกันได้ ชม “ตุ้ย” เป็นศิลปินที่น่ารัก ช่วยเหลือ อสมท ตลอด
รักษาการ : “ทาง อสมท ก็จะเป็นผู้ดำเนินการเอง แต่ว่าตอนนี้ขออุบไว้ก่อน โดยตอนนี้ก็มีการวางแผนว่าจะนำเสนอรูปแบบของคลื่นเป็นลักษณะไหนให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น แต่ว่าในส่วนของการร่วมงานกับทางตุ้ยก็คงไม่มีปัญหา เพราะตุ้ยก็เป็นศิลปินที่น่ารัก ช่วยเหลือทาง อสมท มาตลอดเวลา ในส่วนของพนักงานแน่นอนว่า อสมท ก็ทำตามกฎหมาย มีการให้ค่าชดเชย”

ตุ้ย :ส่วนดีเจก็คงจะมองเป็นในหลายๆ มิติ ถ้ามิติในส่วนของซี้ดก็คงจะต้องหยุดลง เพียงแต่ว่าโอกาสและจังหวะที่มันจะมีการดำเนินงานในอนาคตอย่างไรก็ต้องดูว่าผมสามารถจะนำเสนอโอกาสให้กับน้องๆ ได้ยังไง ตอนนี้ก็คงอยู่ในช่วงเวลาที่ทำการบ้านกันอยู่ จริงๆ กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ ก็ต้องบอกว่าในมุมของการสื่อสารก็คงจะต้องสื่อสารกับทีมงานและดีเจนั้น ต้องได้รับสัญญาณที่แน่ชัดจากบริษัทแม่คือ อสมท ก่อน หลังจากที่ทราบแล้วก็ได้มีการสื่อสารกับทีมงานและดีเจไปในเวลาที่ใกล้เคียงกัน”

ชี้ไม่มีอะไรที่รู้กะทันหัน
ตุ้ย : “ถามว่าทราบมานานแค่ไหนที่ซี้ดเอ็มคอทจะต้องปิดตัว อันนี้ต้องแยกเป็นประเด็นในมุมของมติก็คงจะเป็นการนำเสนอแนวทางเข้าไปในบอร์ดของอสมท. เพียงแต่ว่าในมุมของแนวคิดและหลักการก็มีการประชุมร่วมกันมาตลอดผ่านทางกรรมการของซี้ดเอ็มคอท ผู้ใหญ่ทุกท่านก็ทราบสถานการณ์ซึ่งก็ต้องบอกว่ามันไม่ได้มีอะไรที่กะทันหัน สถานการณ์ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับเปลี่ยนของผู้บริโภคพอดี เศรษฐกิจก็ดี ภาวะการแข่งขันก็ดี ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเรารับรู้กันมาอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และพยายามที่จะหาทางปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งในฝั่งของทางวิทยุก็ดีหรือทางสื่อออนไลน์ก็ดี แต่ก็ต้องเรียนตามตรงว่าในมุมของซี้ดเอ็มคอทที่เราดำเนินการในฐานะของซี้ดอย่างเดียว ผมคิดว่าในนาทีนี้มันไม่สอดคล้องกับภาวะของตลาดผู้บริโภค ส่วนในมุมของ อสมท ที่จะดำเนินการต่อไปมันน่าจะสอดคล้องมากกว่า”

ปัดถูกดิสเครดิต ไม่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่เพียงพอ ยันทำเต็มที่แต่ต้องยอมรับในความพ่ายแพ้
ตุ้ย : คำว่าประสิทธิภาพในการทำงานในที่นี้ คือ ประสิทธิภาพในการปรับตัวดำเนินงาน ไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ก็ต้องสอดคล้อง กับเงื่อนไงของธุรกิจด้วย ผมคิดว่าในสองประเด็นที่พูดไป เราดำเนินงานกันอย่างเต็มที่แล้ว ใช้คำว่าเราพยายามที่จะปรับปรุงแก้ไข อย่างสุดความสามารถมาโดยตลอด ทั้งเบื้องหน้าและเบื้อง หลัง แต่สิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถกำหนดได้คือปัจจัยทางเทคโนโลยี ตัวนี้คือสิ่งหลักเลย”

“ถามว่าคำนี้เหมือนดิสเครดิตเรามั้ย ผมรู้สึกว่าในที่สุดแล้วผมก็ทำอย่างเต็มที่ ถึงแม้พวกเราจะต้องแพ้เกม ผมก็รู้สึกว่าที่ผ่านมา เราได้ทำอย่างเต็มที่แล้ว แต่ที่สุดแล้วเราต้องยอมรับในความพ่ายแพ้ และพยายามที่จะเดินต่อไป ในทางที่เราจะปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เราจะเดินต่อไปได้อีก"

รักษาการ : “โอกาสร่วมงานกันก็ยินดี หากว่าจะใช้ความสามารถที่มี สอดคล้องตามนโยบายของ อสมท ได้”

ใจหาย รดน้ำพรวนดินจนเติบโตเข้าปีที่ 12 ขอเก็บเป็นความทรงจำดีๆ ร่วมกัน
ตุ้ย : “ถ้าพูดถึงความรู้สึกส่วนตัว ต้องมีแน่นอนเพราะเรารดน้ำพรวนดินมาตั้งแต่ยังเล็กๆ บังเอิญว่าต้นกล้าต้นนี้ก็เจอ อุปสรรคหลายด้าน เราก็พยายามจะรักษาไว้อย่างเต็มที่ เรามีความผูกพันทั้งทีมงานและผู้ฟังที่ติดตามกันมาโดยตลอด จนเข้าปีที่ 12 ผมคิดว่าทุกคนรู้สึกเหมือนกัน จากนี้เราคงต้องเก็บความทรงจำที่ดีๆ ร่วมกันในนามของคลื่นซี้ดแล้วเดินต่อไปข้างหน้า”

หมดยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก กังวลผู้บริโภคผันตัวเป็นสื่อผ่านมือถือ ได้รับผลกระทบกันเป็นลูกโซ่
รักษาการ : “จากภาพรวมที่เห็นจากตัวเลขสถานการณ์ก็ตกลงเรื่อยเรื่อยๆ แต่มันไม่ใช่วิธีดูอย่างเดียวมันมีทั้งสื่ออื่นแม้กระทั่งสื่อสิ่งพิมพ์เอง เจาะเทคโนโลยีเข้ามาแล้วทำให้พฤติกรรมการบริโภคอื่นๆ เปลี่ยนไป พฤติกรรมที่มาแรงมากคือ พฤติกรรมที่ผู้บริโภคมีพฤติกรรมใช้มือถือ และยังมีพฤติกรรมการไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กอันนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวล เพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคสามารถเป็นสื่อด้วยตัวเองไปในตัว ผมคิดว่าถ้ามันมาแรงขนาดนี้ทุกๆอุตสาหกรรมก็คงได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน เพราะแค่ถือโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียวมีความสามารถมีความรู้ในการใช้แอปพลิเคชันในด้านตัดต่อ ทำได้ก็สามารถทำได้แล้ว เปิดวงการอื่นๆ ที่ถูกผลกระทบไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นวงการเพลง วงการหนัง นิตยสาร หนังสือพิมพ์ ผลพวงมันกลายเป็นลูกโซ่ไปหมดเลย”

“อยากจะให้โอกาสนี้ในทุกๆ อุตสาหกรรมมีการพูดคุยถึงสิ่งที่เปลี่ยนไปว่าเราจะทำอย่างไรในฐานะที่เราเป็นเจ้าของคอนเทนต์ ผมเชื่อว่าอย่างไรคอนเทนต์ก็ยังเป็นที่สุดอยู่ดี เพียงแต่เราต้องหาทางออกในการที่จะปรับเปลี่ยนให้ทันกับเศรษฐกิจและภาวะเทคโนโลยีที่เข้ามาอย่างรวดเร็วมาก มีคำพูดหนึ่งที่ว่ายุคนี้ไม่ใช่ยุคปลาใหญ่กินปลาเล็กแล้ว แต่เป็นยุคที่ปลาเร็วกินปลาช้า ฉะนั้น อุตสาหกรรมทั้งหมดของเราที่เป็นอุตสาหกรรม คอนเทนต์ต้องมีการรับทราบภาวะ เศรษฐกิจ แลกการแข่งขันที่รุนแรง เราต้องพูดคุยและหาทางร่วมกัน ผมว่าเราต้องพูดคุย เพราะทุกอย่างมันกระทบหมดและไม่ใช่ในประเทศไทยเท่านั้น ทั่วโลกก็เกิดสภาวะเช่นนี้”

เชื่อตุ้ยแยกเรื่องส่วนตัวจากธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะยื้อต่อไป เล็งปรับคลื่นซี้ดใหม่เป็นคลื่นสำหรับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม
รักษาการ : “อาจจะเป็นกลุ่มคนที่เฉพาะที่ตอบโจทย์ในตลาดได้ดี อาจจะเป็นกลุ่มคนฟังที่สนใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเฉพาะทาง สมมติอาจจะเป็นแจ๊ส ก็ได้ หรือกลุ่มดนตรีคลาสสิก เพราะกลุ่มนี้ยังมีกลุ่มคนฟังอยู่ เพราะกลุ่มวัยรุ่น เขาฟังเพลง จาก วิทยุน้อยลง เพราะเขาไปเลือกฟังในโทรศัพท์มือถือกันหมดแล้วจะเห็นว่ามันเปลี่ยนไปมากเลยถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างในเชิงธุรกิจ ในเชิงของผู้บริหารในเชิงของการแข่งขัน มันก็จะไม่ใช่สิ่งที่ชาญฉลาดที่จะยื้อต่อไป ผมว่าทางตุ้ยเข้าใจทำธุรกิจมาต้องเข้าใจต้องแยกออกมาระหว่างเรื่องของความรู้สึกส่วนตัวและเรื่องของการทำธุรกิจ”

“แน่นอนการทำธุรกิจการแข่งขันมันค่อนข้างรุนแรงการถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะทำให้ธุรกิจมันเปลี่ยนแปลงไปในอย่างรวดเร็วคงไม่มีเวลามาพูดกัน โดยภาษา อ่อนน้อมอ่อนโยนการใช้ภาษาสุภาพอาจจะไม่ใช่ในเชิงธุรกิจ การทำธุรกิจต้องแยกออกมาอีกผมว่าทุกคนน่าจะเข้าใจตุ้ยเองก็เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะเข้าใจ มันก็เหมือนเกมกีฬาที่เราต้องยอมรับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้แล้วเราต้องเอาสิ่งนั้นมาปรับปรุงแก้ไข

ยังตอบไม่ได้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
ตุ้ย : “ผมว่าไม่มีใครตอบได้มันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ทุกคนเหมือนเดินไปในทางที่มืด เราเองก็มี เทียน อยู่เล่มเดียว ไม่รู้ว่าข้างหน้าจะเป็นอะไรในสิ่งที่ต้องทดลอง ประเทศเราก็อยู่ในช่วงนี้ ไทยแลนด์ 4.0 (แผนการพัฒนาปฏิรูปเศรษฐกิจ ของประเทศไทย) ทุกคนก็จะเห็นเหมือนกันเราจะต้องเตรียมความพร้อม และ คนที่เริ่มต้นใหม่เยอะแยะเลย ฉะนั้น มันก็ต้องมีการทดลอง เราทำสื่อเราก็รู้อยู่แล้วเพลงออกมา 10 เพลงก็ ก็ ขายไม่ได้ไป 9 เพลงภาพยนตร์สิบเรื่องก็ขายไปไม่ได้สัก 9 เรื่อง ในตอนนี้เป็นแบบนี้เพราะฉะนั้นเราตอบไม่ได้ เราทำได้เพียงแค่ใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่ผ่านมา จับกลุ่มให้ได้ชัดเจนดูให้ชัดเจนขึ้นในทางธุรกิจ”

รักษาการ : “เรื่องคนมารับตำแหน่งแทนตุ้ยอันนี้เป็นเรื่องของสำนักวิทยุที่กำลังมองหาอยู่”

ชี้ยังไม่หมดไฟ ยังหาอะไรทำสนุกๆ ต่อไป ขอบคุณจากหัวใจ ขอบคุณทุกคนที่รักซี้ด
ตุ้ย : “สำหรับบริษัทคงต้องหยุดดำเนินงานภายในสิ้นปีนี้ ถามว่าในปีต่อไปจะมีโปรเจกต์อะไรต่อไปอีกหรือไม่ผมคิดว่าคงไม่อยู่เฉยๆ หรอก ผมยังมีไฟอยู่คงต้องหาอะไรทำที่เรายังสนุกได้ ส่วนการร่วมงานกับ อสมท ในช่วงนี้คงต้องขึ้นอยู่กับจังหวะ และโอกาสเท่าที่สามารถจะทำให้สอดคล้องกันได้

“เราไม่ถึงกับแย่ขนาดนั้น อย่างที่บอกเราทำทุกอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาในส่วนของการปรับตัวเราจะต้องปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงมีเดีย แลนด์สเคป มันค่อนข้างยากมาก แล้วยังมีปัจจัยหลายๆ อย่างทั้งเรื่องเศรษฐกิจก็ดีการขับเคลื่อนธุรกิจ ช่วงนี้ก็ประสบภาวะลำบากกันพอสมควร การที่จะดำเนินงานต่อไปผมคิดว่ามันคงไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่แล้วแต่ทั้งนี้ในส่วนของการทำงานที่ผ่านมาเรารู้สึกภูมิใจที่อย่างน้อย คลื่นซี้ดได้ดำเนินงานมาถึง 12 ปี สามารถเข้าไปอยู่ในใจของคนรุ่นใหม่หลายๆ คน

“ผมขอบคุณทุกๆ การสนับสนุนตลอดมา โดยเฉพาะ อสมท ศิลปิน จากค่ายต่างๆ ที่ให้คอนเทนต์ดีๆ กับเรามาโดยตลอด ทั้งสปอนเซอร์ ท้ายที่สุดคือกลุ่มผู้ฟังที่สนับสนุนเรามาโดยตลอด ขอบคุณทุกๆ ท่าน ขอบคุณจากหัวใจจริงๆ เราเริ่มทำงานด้วยกันมาจากหัวใจ เราพยายามที่จะสร้างความสุขให้กับผู้ฟังชาวซี้ดตลอดมา ขอบคุณที่รักซี้ด มาโดยตลอด ขอบคุณที่รักกัน”



กำลังโหลดความคิดเห็น