“พีช พชร” ยอมรับกลัวกองถ่ายเละ ไม่จีบ “ออม สุชาร์” บอกแค่เพื่อนร่วมงาน ให้คิดเกินกว่านั้นคงทำไม่ได้ ฟุ้งหาคนใหม่ดีกว่า ไม่แคร์เป็นหนุ่มเพลย์บอย เปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำหน้า เผยสเปกเปลี่ยนหลังเลิก “นท”
ถูกจับตามองว่าจะมีอะไรในกอไผ่กับ “ออม สุชาร์ มานะยิ่ง” หรือเปล่า สำหรับ “พีช พชร จิราธิวัฒน์” เพราะล่าสุดมีงานด้วยกัน แถมยังมีคนเห็นควงกันไปกินข้าว โดยหนุ่มพีชขอเคลียร์เรื่องดังกล่าวในงาน Numero Thailand Seminar on Best Brand Products 2016-2017 ซึ่งจัดโดยนิตยสารแฟชั่นแนวอาร์ตสัญชาติฝรั่งเศล “นูเมโร ไทยแลนด์” ณ ร้านอาหาร heaven bangkok ชั้น 18 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ยันแค่เพื่อนร่วมงานและให้คิดเกินกว่านั้นตนคงทำไม่ได้
“วันนั้นมีประชุมหนัง เราได้เล่นหนังเรื่องเดียวกัน มันไม่มีอะไร คุยบทหนังแล้วก็กินข้าวกันธรรมดาทั่วไป ไม่ค่อยกลัวกระแสคนจับจิ้น เราทำตัวปกติ ผมรู้จักเขามา 3 ปีก่อนหน้านี้ มันก็ไม่มีอะไรเลย แฟนๆ ก็มีเชียร์ๆ บ้างแต่ผมไม่ได้มองว่ามันจะเกี่ยวข้องกับงานเราเท่าไหร่ หน้าที่เราตอนนี้คือทำเวิร์กช็อปให้เต็มที่ก่อน”
“ผมไม่คิดกับเพื่อนร่วมงานแบบนั้นอยู่แล้ว มันทำไม่ได้ นึกออกใช่มั้ย ถ้าทะเลาะกันขึ้นมาทำไงกองถ่ายเละ มันไม่ใช่เรื่อง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำอยู่แล้ว ส่วนตัวจริงก็พยายามคิดว่าอยากจะมีแต่มันยังไม่มี คนที่เป็นข่าวก็ยังไม่มี แต่ก็ยังพยายามใช้เวลาหาอยู่เรื่อยๆ พยายามหาคนใหม่ก่อนดีกว่า”
สเปกเปลี่ยนหลังเลิก “นท พนายางกูร” จริงจังมากขึ้น ไม่คบใครเล่นๆ
“เปลี่ยนไปเยอะ กับนท (นท พนายางกูร) เราก็คบมาตั้ง 3 ปี เราก็โตขึ้นเยอะ ตอนนั้นยัง 19 - 20 ปี ก็เปลี่ยนไปเยอะ เราจริงจังกับชีวิตมากขึ้น ก็คงจะเล่นๆ ไม่ได้แล้วเรามีอะไรที่อยากจะทำเยอะมาก รักใหม่มองไกลถึงอนาคตมั้ยก็ยังไม่รู้เหมือนกัน อาจจะใช่ก็ได้หรืออาจจะเดือนเดียวเลิกก็ได้”
ไม่แคร์เปลี่ยนสาวทุกเดือน แม่ไม่ต้องช่วยสแกน
“ผมไม่แคร์เรื่องนี่อยู่แล้ว ถ้ามีแล้วเลิกก็ไม่เป็นไรผมไม่แคร์อยู่แล้ว ชีวิตเราแฮปปี้ก็คือโอเค ถูกมองเป็นเพลย์บอยก็ไม่หรอกครับ สุดท้ายเราวัดกันที่ชีวิตเรามีความสุขแค่ไหน ถ้าเรามีความสุขและทำงานของเราออกมาได้ดีก็โอเค”
“ไม่ต้องปรึกษาคุณแม่เลย ปรึกษาไม่ได้เด็ดขาด แม่ไม่ต้องสแกนเลย เราเป็นคนที่มีมุมมองของตัวเอง เวลาที่คนอื่นพูดเราจะชอบเถียง จะไม่ค่อยชอบฟังคนอื่นก็เลยเลือกที่จะไม่ถามเลยแล้วกัน จบ ผมรู้ตัวเองดีว่าผมเป็นคนแบบนี้ ไม่ค่อยชอบให้คนอื่นมาพูดอะไรเยอะมาก งั้นก็ไม่ถามเลยแล้วกัน เวลาแม่จะคุยก็จะแบบ ไม่ต้องพูด(หัวเราะ) จบกันง่ายๆ แบบนี้เลย”
ลุยธุรกิจ หวังว่าจะทำเงิน ไม่เจ๊ง ไม่เป็นหนี้
“ผมว่ามันทำไปด้วยกันได้ เรื่องงานเราก็พิมพ์ในมือถือส่งไป ไม่ก็โทรศัพท์ไป มันไม่ได้ต้องเข้าออฟฟิศ ตัวผมเองไม่เคยเข้าออฟฟิศเลยด้วยซ้ำ ก็หวังว่าจะทำเงินได้ หวังว่าจะไม่ติดหนี้ เรื่องอายุยังน้อยเราเรียนรู้เสี่ยงก่อน ถ้าเราเจ๊งเรามีเวลาแก้ตัวเร็วกว่าคนอื่น ถ้าเราได้ดีเราก็ไปเร็วกว่าคนอื่นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ส่วนใหญ่ครอบครัวจะแค่บอกว่าจะทำต้องดูอะไรบ้าง เพราะเขาทำมาเยอะกว่าเรา เราเองเตรียมตัวกันมาดีด้วย เราใช้เวลาเตรียมตัวกัน 1 ปีครึ่งก็คิดว่าเราน่าจะแข็งแรงพอ นี่คือสิ่งที่เราทำได้ดี”
