แม่ “บอล กฤษณะ” ลั่นลูกชายนายทหารโวยวายหาเรื่องแถมสุดกร่างประกาศเป็นลูกนายพล จะพา ส.ห. มาปิดร้านก่อนโดนรุมยำ ยันลูกชายไม่ได้สั่งทำร้าย เผย เจ้าตัวเครียดกลัวโดนอุ้มต้องจ้างคนเฝ้า 24 ชั่วโมง รับหวั่นถูกยัดข้อหาเพิ่มหลังบังเอิญได้ยินผลสอบสวนห้องข้างๆ บอกถามคนในร้านแล้วลูกชายไม่ได้โวกูรวย กูมีเมียเป็นดารา
เรียกว่ากำลังเป็นข่าวดังไปทั่วเลยทีเดียวสำหรับ “บอล กฤษณะ อมิตรสูญ” แฟนหนุ่มของนักแสดงสาว “อุุ้ม ลักขณา” หลังถูกออกหมายจับในคดีกับพวกรุมทำร้ายร่างกาย นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือ “เจมส์บอนด์” วัย 23 บุตรชายของ พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ณ ร้านมาลิน สกาย จ.เชียงใหม่
โดยนอกจากจะถูกออกหมายจับแล้ว ทางโรงแรม The Core ที่มีข่าวออกมาว่าเจ้าตัวเป็นเจ้าของนั้น ล่าสุด ทางด้านตัวแทนของ นางพีรยา คุวานันท์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ “เดอะ เชียงใหม่ คอมเพล็กซ์” รวมถึงโรงแรมดังกล่าวและร้านมาลิน สกาย ที่เกิดเหตุก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วหนุ่มบอลไม่ได้มีหุ้นส่วน หรือเป็นเจ้าของโครงการนี้ แต่เป็นเพียงทีมผู้บริหารงานที่ดูแลในภาพรวมของโครงการ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องขึ้นทางโครงการก็ได้มีการยกเลิกสัญญาจ้างอีกฝ่ายไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 พ.ย.
สำหรับในส่วนของความเคลื่อนไหวเพิ่มเติ่มเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทาง “นางสาวิกา ณ ตะกั่วทุ่ง” มารดาของหนุ่ม “บอล กฤษณะ” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” โดยระบุว่า อยากร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย เพราะลูกชายถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว อีกทั้งตอนนี้ยังถูกคุกคาม แถมโทรศัพท์มือถือถูกตัดสัญญาณ ทำให้บอลเกิดกลัวถูกอุ้ม ไม่กล้าออกมาชี้แจงใดๆ ทั้งสิ้น
“ที่ผ่านมา ไม่มีโอกาสให้ความเป็นจริงกับสังคมได้รู้เรื่อง เพราะทนายบอกกับฝ่ายดิฉันเสมอว่าห้ามออกข่าว เกรงว่า จะเสียรูปคดี และไม่ต้องไปขอโทษ เพราะจะเหมือนว่าเป็นการยอมรับ ทีนี้เลยกลายเป็นว่าลูกชายดิฉันกลัวมาก เก็บตัวอยู่ในคอนโดตลอด และในช่วงระหว่างที่เก็บตัวจะมีรถมาซุ่มดูอยู่ตลอด”
“และส่วนตัวดิฉันอยู่ที่บ้านกับหลานสาว ก็มีรถเวียนดูอยู่ตลอดเลย เราถูกจับตามอง และโทรศัพท์มือถือก็ถูกดักฟัง และถูกตัดสัญญาณบ่อยมาก ไม่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ปกติ ต้องเปลี่ยนเบอร์ใหม่อยู่ตลอดเวลา ดิฉันไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวดิฉัน”
เผยลูกชายเรียนจบวิศวะ เข้ามาทำงานในฐานะผู้บริหารช่วยดูแลโครงการนี้ ทั้งบ้านจัดสรรที่ระยอง ประมาณ 40 - 50 หลัง รวมถึงคอนโดที่ภูเก็ตในหลักร้อยล้าน
“ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่า ทำไมเขาต้องคาดคั้นว่าลูกชายเป็นเจ้าของร้าน แต่จริงๆ มันไม่ใช่ มันเป็นหลักการบริหารของน้องบอลเขา หลักการที่ว่าอยากให้ทุกคนเป็นเจ้าของ โดยที่ว่าแบ่งส่วนแต่ละอย่างให้แต่ละคนบริหารเอง ให้ดำเนินงานเหมือนกับเป็นเจ้าของเอง ร่วมกันเป็นเจ้าของ แต่ลูกชายดิฉันเป็นผู้บริหารอยู่”
“ทีนี้อีกเรื่องหนึ่งก็คือในวันที่เกิดเหตุ จังหวะที่เกิดเหตุ น้องเขาไม่ค่อยพอใจที่เข้าห้องน้ำไม่ได้ ก็เลยไปเข้าห้องน้ำหญิง ก็เลยไม่ค่อยมีความสุข ไม่พอใจ มีการปิดประตูห้องน้ำหญิงเสียงดัง เมื่อขึ้นมาข้างบนก็พูดจาเสียงดังโวยวาย พูดทำนองว่า ผมหรือกูไม่ทราบนะคะ เป็นลูกของนายพล เดี๋ยวจะสั่งให้ ส.ห. มาปิดร้าน”
“ลูกชายดิฉันได้ยินก็เข้าไป คือ เขาก็มีอารมณ์โกรธ ก็พูดไปว่า มาปิดสิ ที่ร้านเนี่ยมันผิดอะไร ระหว่างนั้นก็มีคนมาดึงเขาออกไป บอกว่าดาราจะกลับ เขาก็หันหลังเดินออกมา พอเดินมาส่งดาราปั๊บ ด้านหลังเกิดเหตุตุ้บตั้บๆ ขึ้นมา มันเป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่ได้อยากให้เกิด แล้วไม่ได้สั่ง ไม่ทันที่จะสั่งใคร”
“เพราะว่าจริงๆ เขาโวยวายต่อ ระหว่างที่หันหลังมาแป๊บเดียวอะค่ะ มันเป็นเหตุการณ์ที่ห้ามไม่ทัน มันเป็นเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้เลย คือ น้องเขาเจ็บสาหัส แต่ดิฉันมีความรู้สึกว่า ลูกของดิฉัน จะต้องถูกข้อกล่าวหาว่า เป็นผู้สั่งการให้กระทำ โดยพยายามหาว่า หนึ่ง คุณเป็นเจ้าของร้าน สอง เด็กคนนี้เป็นคนของคุณ”
บอกมีรถมาซุ่มดูเพราะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้ง ลั่นลูกชายหวาดกลัวต้องจ้างคนมาเฝ้าตลอด 24 ชม. หวั่นถูกอุ้มไปฆ่า...“คือ เขาประสาทเสียมาก ไม่ที่จะออกไปไหนเลย ไม่กล้าแม้แต่จะออกมาชี้แจงอะไรทั้งสิ้น เพราะมีความรู้สึกว่า กลัวจะถูกอุ้มไปฆ่า”
“ส่วนเรื่องการดักฟังโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืน ลูกชายดิฉันถูกสอบสวนนาน 10 กว่าชั่วโมง ถูกปล่อยออกมาตี 1 แล้วช่วงนั้นเราก็พยายามสื่อสารกันทางโทรศัพท์ แต่ก็ติดต่อกันไม่ได้เลย ทำให้เข้าใจว่าอาจจะถูกดักฟังอยู่ แล้วในช่วงที่ถูกสอบสวนอยู่นั้น น้องบอลเขาเอนศีรษะไปพิงที่ผนังห้อง บังเอิญได้ยินเสียงห้องข้างๆ ที่เขาสัมภาษณ์เจ้าของร้านชื่อว่าออดี้ค่ะ”
“ปรากฏว่า ตำรวจตรวจฉี่แล้วเป็นสีม่วง ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยออกมาแถลงข่าวยืนยันว่าเป็นเจ้าของร้าน ลูกชายตนได้ยินว่า ออดี้พูดว่าจะให้ผมทำอย่างไรก็ได้ อย่าเอาเรื่องกับผมเลย ทีนี้ดิฉันรู้สึกว่าลูกชายดิฉันจะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มเติม เพราะไม่ทราบออดี้ไปให้การอย่างไร ดิฉันมั่นใจว่าบอลอาจจะโดนคดีนี้ด้วย ซึ่งบอลอาจจะต้องโดนเป็นผู้บงการเรื่องสารเสพติด ซึ่ง 10.30 น. วันนี้แหละค่ะ ที่จะมีการออกหมายจับบอลอีกครั้งหนึ่งค่ะ”
“และเรื่องที่ทางฝ่ายนู้นอยากเจอตัวดิฉัน ดิฉันเข้าไปประมาณ 2 ครั้ง และติดต่อไปอีกประมาณ 2 - 3 ครั้ง เมื่อวานนี้ก็ไปรอครึ่งวันไม่ยอมให้เจอ จะไปเยี่ยมทางฝั่งคนเจ็บ และพยายามให้คนติดต่อ และตัวดิฉันเองก็ไปนั่งรอหน้าห้อง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ดิฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ให้เข้าพบ ดิฉันก็พาลูกชายเข้าไปพบเพื่อขอขมา เขาผิดตรงที่ปล่อยให้เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นในฐานะผู้บริหาร แต่เขาไม่ได้ผิดในเรื่องของการสั่งการค่ะ”
“อีกเรื่องที่บอกว่าลูกชายดิฉันตะโกนออกมาว่า กูรวย กูมีเมียเป็นดารา ไม่จริงเลยค่ะ ไม่เป็นความจริงค่ะ ลูกชายดิฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ดิฉันขอปฏิเสธคำพูดเหล่านี้ด้วยค่ะ ดิฉันสอบถามคนในร้านแล้ว ลูกชายไม่ได้พูดเช่นนั้นค่ะ...”