(ชมคลิป) “ป๋อ” ขอสืบจากศพ! ยันไม่รู้จักคนตายนามสกุลเดียวกัน คาดเป็นญาติห่างๆ

“ป๋อ ณัฐวุฒิ” แสดงความเสียใจกับครอบครัวคนตายจากอุบัติเหตุ เผยนามสกุลเดียวกัน คาดเป็นญาติห่างๆ ยันตนไม่รู้จัก เล็งตามสืบหาที่อยู่เพื่อติดต่อ ขอบคุณทุกคนที่ห่วงใย เปิดใจโพสต์ไอจีช่วยชาวนาขายข้าวไม่หวั่นซ้ำรอย “จั๊กจั่น” ชี้ นางเอกดังเจตนาดี ดีใจเปิดพื้นที่ซื้อขายเป็นสื่อกลางช่วยเหลือชาวนา ด้านช่อง 3 แจมด้วย

ทำเอาแฟนคลับใจหายใจคว่ำอยู่ไม่น้อย กรณีที่มีข่าวระบุพี่ชายพระเอกดัง “ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ” ประสบอุบัติเหตุ ขี่รถจักรยานยนตร์สะดุดก้อนหินล้มกลางอุโมงค์ 5 แยกปากเกร็ด เป็นเหตุให้ศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิต ตรวจพบว่าผู้ตายนามสกุลเดียวกัน โดยหนุ่มป๋อขอเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว คาดเป็นญาติแต่ตนไม่เคยรู้จักกัน

“ขอแจ้งเลยครับว่าครอบครัวนี้ที่บ้านผมไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่นามสกุลสกิดใจเหมือนกันก็น่าจะเป็นญาติห่างๆ ของเรา แต่ผมไม่รู้จัก เพราะคุณปู่ห่างกัน แต่ก็ขอแสดงความเสียใจ และขอบคุณทุกท่านที่แสดงความเสียใจผ่านทางผมมา บางท่านก็เข้ามาถามด้วยความเป็นห่วงว่าผมเป็นอะไรมากไหม ผมสบายดีนะครับ ผู้ตายน่าจะเป็นญาติพี่น้องกัน เดี๋ยวกำลังจะสืบว่าอยู่ที่ไหนยังไง แต่ก็ขอแสดงความเสียใจด้วย”

ภูมิใจเปิดพื้นที่เป็นสื่อกลางช่วยชาวนาขายข้าว ช่อง 3 โดดแจมด้วย
“ตอนนี้ฝันเป็นจริงแล้วครับเมื่อเช้าก็ไปตลาดข้าวชาวนาไทย ซึ่งเป็นจุดเล็กๆ สิ่งที่เราทำแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง พอผู้ใหญ่ช่อง 3 มาเห็นแล้วต่อยอดก็กลายเป็นงานระดับ 50 เปอร์เซ็นต์ คนมาซื้อข้าวเยอะมาก ดีใจที่ช่วยชาวนาได้เยอะ”

“ก็ได้เข้าไปคุยครับ ได้ถ่ายรูป เขาก็เข้ามากอดแล้วบอกว่าเขาลำบากมาก เหนือสิ่งอื่นใดการซื้อขายไม่ใช่เรื่องหลัก แต่ในขณะที่เขาลำบาก ในฐานะคนไทยเราได้ทำสิ่งดีๆ ร่วมกันด้วยการเข้าไปช่วยซื้อข้าว ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว คนเดินเข้าไปซื้อข้าวกันเยอะมาก เหมาหมดไปเลยก็มี ขอบคุณทุกท่านที่เห็นความสำคัญของชาวนา”

“เขาก็เข้ามาขอบคุณเรา ง่ายๆ เลยครับ เขาไม่มีอะไรมาปั้นแต่ง บางคนอายุมากกว่าผมแต่เขาก็จะเดินเข้ามากอด มาไหว้ขอบคุณที่ช่วยเขา ถ้าไม่มีตรงนี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะหาเงิน 30,000 - 40,000 บาท มาจากไหน ต่อให้ขายได้ก็ไม่รู้จะได้กำไรหรือเปล่า แต่เงินหมุนเข้ามาในระบบบ้านเขา ระบายขายข้าวออกไป เขาก็จะได้มาเงินไปจ่ายค่าเทอม ไปซื้อชุดนักเรียนให้ลูก ก็เป็นเรื่องของความสุข”

ไม่หวั่นซ้ำรอย “จั๊กจั่น อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ชี้อีกฝ่ายเจตนาดี ยอมรับเฝ้าระวังแต่อย่าไปกลัวจนทำอะไรไม่ได้
“ของผมไม่ได้เข้าไปในลักษณะการติดต่อแบบนั้น สิ่งที่เราทำคือการสร้างพื้นที่ซื้อขายให้เขา สิ่งหนึ่งที่ขอเน้นย้ำคือให้มีความซื่อสัตย์ มีคนเข้ามาทุจริตหรือโกงก็จะทำให้พื้นที่ที่ผมมีอยู่ก็จะกลายเป็นพื้นที่สีเทาทันที คนเคลือบแคลงสงสัย แต่แน่นอนผมไม่มีผลประโยชน์ในเรื่องนี้ เป็นแค่สื่อกลางที่ทำให้ผู้ซื้อกับผู้ขายได้เจอ ได้คุยกันเท่านั้นเอง ถูกใจก็ซื้อ แต่ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่ต้องซื้อ”

“เราไม่กังวลนะครับ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เราต้องเฝ้าระวัง อย่าไปกลัวจนทำอะไรไม่ได้ น้องเขาเจตนาดี ในภาวะแบบนี้เราควรจะช่วยเหลือกัน อยากให้จิตสำนึกแห่งความดีที่เราจะทำให้พ่อหลวงช่วยกล่อมเกลาจิตใจเราให้อย่าไปหลอกใครดีกว่า”