ขำไม่ออก! เมื่อตัวตลกของชาวฮอลลีวูดกำลังจะเป็น ปธน.

“ทรัมป” ไม่ใช่คนแปลกหน้าของวงการบันเทิง … เขาทำรายการเรียลิตี, มีงานแสดงรับเชิญในหนังหลายเรื่อง และที่สำคัญ “ทรัมป์” ยังเป็น “ตัวตลก” ที่ถูกชาวบันเทิงล้อเลียนมานานหลายปี แต่วันนี้ “ตัวตลก” คนนี้กำลังจะขึ้นมาเป็นผู้นำของสหรัฐฯ

“โดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่า เขาจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในฐานะรีพับลิกัน ซึ่งผมแปลกใจนะครับ เพราะคิดว่าเขาจะลงชิงตำแหน่งในฐานะตัวตลกซะอีก” เซ็ธ เมเยอร์ ดาวตลกคนดัง กล่าวอย่างสนุกปากในงานเลี้ยงอาหารค่ำ งานใหญ่ประจำปีของทำเนียบขาวเมื่อ 5 ปีก่อน

งานวันนั้นกลายเป็นที่โจษจันกันไปทั่ว เพราะ เมเยอร์ แสดงออกอย่างชัดเจนว่าต้องการ “ฉีกหน้า” ทรัมป์ ที่มาเป็นแขกรับเชิญ และนั่งอยู่กลางผู้คนระดับชั้นนำของประเทศมากมาย แม้แต่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา เจ้าภาพของงาน ก็หัวเราะชอบใจกับมุกของ ไมเยอร์ ที่ “เล่น” ทรัมป์ อย่างหนักอยู่คนเดียว ด้วยเช่นกัน

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ชาวบันเทิงสหรัฐฯ แสดงออกอย่างชัดเจนว่า อยู่ข้างเดียวกับ ฮิลลารี คลินตัน และสาดโคลน โดนัลด์ ทรัปม์ อย่างเมามัน เขากลายเป็นวัตถุดิบของบรรดาดาวตลก และพิธีกรรายการภาคดึกที่ล้อเลียน ทรัมป์ กันอย่างสนุกสนาน

แต่เมื่อคะแนนของผู้สมัครทั้ง 2 คน เริ่มสูสีกันเรื่อยๆ “ความสนุก และตลก” ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นความเครียด จนกลายเป็นเรื่อง “ตลกไม่ออก” เมื่อ ทรัมป์ เอาชนะการเลือกตั้งได้จริงๆ

“ทรัมป์” กับวงการบันเทิง

มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ “โดนัลด์ ทรัมป์” ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ไม่ใช่คนหน้าใหม่สำหรับแวดวงบันเทิง เขามักจะหาโอกาสมาปรากฏตัวในภาพยนตร์ และซีรีส์ต่างๆ อยู่เสมอ ส่วนใหญ่รับบทเป็นตัวเอง หรือไม่ก็บทที่ “คล้ายๆ” กับชีวิตของของเขา คือ เป็นมหาเศรษฐีขี้โอ่ ที่มีภาพลักษณ์ภายนอก ทั้งผมสีส้ม และหน้าตาเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่หนัง Back to The Future ก็ยังมีตัวละครที่คล้ายๆ โดนัลด์ ทรัมป์ อยู่ด้วย ส่วนการ์ตูน The Simpson ถึงกับเคยทำนายว่า ทรัมป์ จะกลายเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ มาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า ส่วนใหญ่เป็นการล้อเลียน ทรัมป์ แต่ถ้าไม่ได้รุนแรงอะไรเกินขอบเขต เขาก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไร และพร้อมที่จะเล่นด้วย

ทรัมป์ ยังประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการสร้างสรรค์ และเป็นพิธีกรรายการเรียลิตีโชว์ The Apprentice ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ มาแข่งเกมทางธุรกิจ เพื่อชิงตำแหน่งเป็นผู้บริหารในบริษัทของเขา

แต่รายการกลับมี “เครื่องหมายการค้า” อยู่ที่ประโยคที่ว่า “คุณถูกไล่ออก” ของ ทรัมป์ ที่จะพูดกับคนที่ตกรอบ จนมีการล้อเลียนกันว่า ทรัมป์ ที่ดูจะสนุกกับการ “ไล่คนออกจากงาน” กลับมาเสนอตัวที่จะสร้างงานให้กับอเมริกันชน

ซึ่งเมื่อ ทรัมป์ ต้องหยุดงานจาก The Apprentice ไป คนที่เข้ามาทำหน้าที่แทน ก็คือ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ อดีต “ผู้ว่าคนเหล็ก” นั่นเอง โดย ซึ่งเชื่อกันว่า แม้ อาร์โนลด์ จะไม่ได้ออกตัวอย่างชัดเจน แต่ก็อยู่ฝั่งสนับสนุน ทรัมป์

“ทรัมป์” เจ้าพ่อนางงาม

อีกคนบาทที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยกันดีของ ทรัมป์ ก็คือ การเป็นเจ้าของกองประกวดมิสทีนยูเอสเอ, มิสยูเอสเอ และ มิสยูนิเวิร์ส ตั้งแต่ปี 1996 - 2015

แต่สำหรับสังคมอเมริกันแล้ว บทบาทดังกล่าวของ ทรัมป์ ทำให้เขาทั้งมีชื่อเสียงในวงกว้าง และกลายเป็นจุดด่างพร้อยไปด้วยเหมือนกัน เพราะ “การประกวดนางงาม” เริ่มจะไม่ได้รับการยอมรับขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมสหรัฐฯ นอกจากนั้น “พฤติกรรม” ของ ทรัมป์ ในกองประกวดนางงาม ก็กลับมาทำให้เขาถูกวิจารณ์อย่างหนัก เมื่อลงชิงตำแหน่งผู้นำประเทศ

โดย อลิเซีย มาชาโด มิสเวเนซุเอลา 1995 ที่คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส ในปีต่อมา ได้เปิดเผยกับรายการ Inside Edition ถึงเรื่องราวเมื่อ 20 ปีก่อน ที่เธอขึ้นเวทีประกวดของ โดนัลด์ ทรัมป์ แต่กลับโดนเขาดูหมิ่นด้วยคำพูด “ตลอดเวลา” โดยเฉพาะเกี่ยวกับปัญหาน้ำหนักตัวของเธอ เจ้าของตำแหน่ง “มิสยูนิเวิร์ส” เมื่อปี 1996 บอกว่า เธอโดน “โดนัลด์ ทรัมป์” เจ้าของงานประกวด พูดจาล้อเลียนแดกดันเธอเรื่องน้ำหนักตัว และเชื้อสายความเป็นละตินอยู่เสมอ จนเครียด และส่งผลต่อสุขภาพจิตอยู่นานหลายปี

ยังมีนางงามที่ออกมากล่าวหาว่า ทรัมป์ มักจะเข้ามา “ยุ่มย่าม” ในห้องแต่งตัวของพวกเธอ ด้วยการถืออภิสิทธิ์เป็นเจ้าของกองประกวดด้วย ซึ่งเชื่อกันว่า จะทำให้คะแนนของ ทรัมป์ ในกลุ่มผู้หญิงตกต่ำลง แต่สุดท้ายผลกลับปรากฏว่าผู้ลงคะแนนที่เป็นผู้หญิงผิวขาว ก็ยังเลือก ทรัมป์ กันมากกว่า 50%

“ทรัมป์” vs. “โรซี”

ทรัมป์ ไม่ได้เป็นที่รักของคนบันเทิง แต่คงไม่มีใคร “เกลียด” เขาเท่ากับ โรซี โอดอนเนลล์ อีกแล้ว

คนดังทั้งสองคนกลายเป็น “ศัตรู” กันอย่างชัดเจน ตั้งแต่เมื่อปี 2006 เมื่อ ทรัมป์ ตัดสินใจที่จะให้โอกาส มิสยูเอสเอ ทารา คอนเนอร์ ที่มีปัญหาการใช้ยาเสพติด ซึ่ง โรซี ที่เป็นพิธีกร The View ดูจะไม่ค่อยเห็นด้วยนัก และออกโรง “ฉะ” ทรัมป์ อย่างรุนแรง ทั้งบอกว่าเขาล้มละลาย, ไม่ได้ร่ำรวยขึ้นมาด้วยความสามารถ และยังโจมตีเรื่องส่วนตัว เกี่ยวกับการนอกใจภรรยา และแต่งงานใหม่หลายครั้ง

ส่วน ทรัมป์ ก็ไม่ได้นิ่งเฉย แต่ออกมาโต้ตอบแบบแรงๆ เช่นเดียวกัน และตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายก็ยังสาดโคลนกันอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันที่ ทรัมป์ จะกลายเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ

และคงไม่ใช่ โรซี โอดอนเนลล์ เท่านั้นที่คงจะช็อกกับผลการเลือกตั้ง แต่บรรดาดาวตลกที่ “กัด” ทรัมป์ กันอย่างสนุกมานานนับปี ก็ดูจะตลกไม่ออกด้วยเช่นเดียวกัน










ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม