xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “สิงโต เดอะสตาร์” ผูกพัน “ในหลวง ร.๙” เพราะเรื่องเล่าจากคุณยาย 3 แผ่นดิน! ตื้นตันวินาทีรับเสด็จฯตอนอายุ 7 ขวบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สิงโต เดอะสตาร์” ปลื้มปีติเคยรับเสด็จฯ “ในหลวง ร.๙” ตอนอายุ 7 ขวบ ชื่นชมพระบารมี ยกเป็นพระราชาเดินดิน ผูกพันพระองค์เพราะคุณยาย 3 แผ่นดิน ภูมิใจที่สุดในชีวิตเคยถวายงานร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ในหลวงทอดพระเนตร

เป็นคนบันเทิงอีกคนหนึ่งที่พอได้เล่าถึงเรื่องราวความประทับใจที่มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หน้าตาแห่งความปลื้มปีติของนักร้องหนุ่ม “สิงโต เดอะสตาร์" สหรัฐต์ หิรัญญ์ธนภูวดล เปล่งประกายออกมาได้ชัดทีเดียว ซึ่งหนุ่มสิงโตได้เปิดเผยว่า ตนได้ถูกปลูกฝังเรื่องในหลวงจากคุณยาย 3 แผ่นดินมาตั้งแต่เด็กๆ จนกลายเป็นความผูกพันและเป็นความรักโดยไม่รู้ตัว ปลื้มปีติได้มีโอกาสรับเสด็จฯตอนอายุ 7 ขวบ

“ย้อนกลับไปตอนอายุ 7 ขวบ ก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพระพักตร์ของพระองค์ท่านและเป็นการเห็นที่ได้ใกล้มากๆ ห่างเพียงแค่ 1 วากว่าๆ ตอนนั้นท่านมาพระราชทานปริญญาบัตรที่ ม.ขอนแก่น และผมได้ขอยายว่าอยากให้พาไป เพราะอยากจะเห็นในหลวง และก็ได้เห็นพระพักตร์ท่านสมใจ มันเหมือนความฝัน เพราะว่าเราได้ยินเรื่องราวของท่านมาตั้งแต่เด็กๆ วันนั้นมันเหมือนว่าเป็นความฝันที่กลายเป็นจริง พระองค์ท่านเป็นกันเองมาก และก็มีการพูดคุยกับประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ ตอนนั้นเรายังเด็กก็ยังตื่นเต้น พูดอะไรไม่ออก ก็พูดได้เพียงคำว่าทรงพระเจริญ มันเป็นความตื้นตันอยู่ในใจ เพียงแต่แค่พูดออกไปว่าคำว่าทรงพระเจริญ”

“บรรยากาศในวันนั้นผมไปกับพ่อและแม่ ที่สนามบินขอนแก่น เวลาตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็น แต่ท่านจะเสด็จฯมาถึงประมาณทุ่มครึ่ง ตอนแรกก็งงว่าทำไมมีประชาชนไปอยู่แถวๆ บริเวณสนามบินเต็มไปหมดเลย วันนั้นคนเยอะมาก ซึ่งในใจเรามีความตื่นเต้นมากพอสมควร แต่เราก็มีความอยากจะเห็นในหลวงมาก และด้วยความที่เรายังเด็กและตัวเล็กอยู่ เราก็มีโอกาสได้เข้าไปนั่งใกล้ๆ แถวข้างหน้า และนั่งรอประมาณชั่วโมงกว่าๆ และด้วยความที่เป็นเด็กอายุ 7 ขวบ ก็คือ ไม่ได้นิ่งอยู่แล้ว แต่ผมรู้สึกว่าผมนิ่งที่สุดในชีวิตแล้ว”

“จนท่านเสด็จฯลงมาจากเครื่องบิน จำได้ทุกภาพทุกโมเมนต์ วันนั้นท่านเสด็จฯมาพร้อมสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ท่านเสด็จฯมา 2 พระองค์ ซึ่งตอนที่ท่านก้าวลงมาจากบันได ตอนนั้นท่านขาวออร่ามากๆ ครับ คือ ท่านค่อยๆ เดินมา พอมาเห็นใกล้ๆ ผิวของพระองค์ท่านไม่ได้ขาวเลย แต่สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นเหมือนออร่า คือ พระบารมีของพระองค์ท่านที่แผ่ออกมา ถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าอย่างหนึ่งในชีวิต ไม่คิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้เห็นพระองค์ท่านใกล้ๆ ขนาดนี้”

เผยทรงเป็นพระราชาเดินดินจริงๆ และเรื่องราวของในหลวงก็เป็นสิ่งที่ยายเล่าให้ฟังทุกคืนก่อนนอน
“ซึ่งถามว่าเหมือนกับที่ยายเล่ามั้ย ผมว่าไม่เหมือนนะครับ เพราะตอนเด็กๆ ผมจินตนาการท่านเหมือนว่าเป็นเทวดา ท่านเป็นพระราชา นั่งอยู่บนบัลลังก์ แต่ที่ได้สัมผัสจริงๆ ท่านเป็นพระราชาที่อยู่บนดินมากๆ ท่านมาพระราชปฏิสันถารกับคุณยายที่นั่งอยู่ติดกับผม และก็ได้ยินพระสุรเสียงท่านด้วย ผมจำโมเม้นท์นั้นได้ทุกอย่าง แม้ว่ามันจะมีเพียงแค่เชือกกั้นเท่านั้น แต่ท่านก็เดินเข้ามาใกล้มาก”

“สิ่งที่ทำให้เราอยากเห็นในหลวง คือ เมื่อตอนเด็กๆ ผมโตมากับคุณยาย คุณยายเป็นคนเลี้ยงมา ท่านเกิดตั้งแต่รัชกาลที่ ๗ - ๙ คุณยายจะเห็นประวัติของชาติมาในระหว่างที่ท่านเกิด คุณยายก็จะเอามาเล่าให้ผมฟังตั้งแต่เด็ก คนอื่นอาจจะฟังนิทานก่อนนอน แต่สำหรับผมจะได้ฟังเรื่องในหลวงจากปากคุณยายก่อนนอนทุกคืน ทำให้ผมผูกพันไปโดยไม่รู้ตัว เลยทำให้เด็กอายุ 7 ขวบ อยากเห็นว่าในหลวงเป็นยังไง เป็นเหมือนอย่างในนิทานที่ยายเล่าหรือเปล่า เพราะตอนแรกคิดว่าพระองค์เหมือนเป็นเทวดาเลย คิดว่า การไปเฝ้ารับเสด็จฯครั้งนั้น เราอาจจะไม่ได้เห็นก็ได้ แต่พอได้เห็น เรารู้สึกได้เลยว่าท่านเป็นเหมือนเทวดาที่เดินดิน มาช่วยเหลือประชาชนชาวไทย”

“อย่างนิทานที่คุณยายเล่าให้ฟัง ท่านก็จะเล่าตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เล่าตั้งแต่พระองค์ท่านเสด็จฯขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุ 19 ปี พระองค์ท่านมีความเยาว์วัยอยู่เลย พระองค์ท่านต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งมากๆ คุณยายก็สอนว่าให้เราเข้มแข็งนะ ตั้งใจทำงาน และอีกอย่างคุณยายจะมีหนังสือที่ชื่อว่าสามวังอยู่ในห้องนอน ก็จะอ่านหนังสือเล่มนี้อ่านให้ฟังจนหมดเล่ม เพราะท่านเล่าตั้งแต่เราอายุ 3 - 4 ขวบ”

“ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมยายถึงไม่เล่านิทานเหมือนที่เด็กคนอื่นได้ฟัง เราก็บอกว่าเราอยากเจอในหลวง ยายก็บอกว่าเจอไม่ได้หรอก ท่านอยู่ไกล ท่านอยู่ที่กรุงเทพฯ และเราเป็นเด็กต่างจังหวัด เราเลยรู้สึกว่าห่างไกล แต่ด้วยความที่คุณยายรักและผูกพันกับในหลวงมาก ยายบอกว่า รู้มั้ยว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ เป็นพระองค์แรกที่เสด็จฯมาภาคอีสานบ้านเรา และตอนนั้นภาคอีสานแห้งแล้ง แทบจะไม่มีฝนเลย แต่ท่านก็เสด็จฯมาจนมีโครงการต่างๆ มีฝนหลวง มีอ่างเก็บน้ำ และเวลาที่คุณยายเล่าให้ฟังส่วนมากก็จะเป็นพระราชประวัติที่เห็นมา ไม่ว่าจะเป็นตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือช่วงผลัดเปลี่ยนรัชกาล”

“ภาพแรกที่เรานึกถึงในหลวงจากการเล่าของคุณยาย ก็ภาพที่อยู่บนหัวนอนในห้องนอนของคุณยาย แต่เรารู้สึกว่าพระองค์ท่านอยู่ห่างไกล และไม่คิดว่าวันหนึ่งเราจะได้ไปรับเสด็จฯ และได้เคยถวายงานพระองค์ท่าน และผมก็เคยถามคุณยายว่าทำไมถึงรักในหลวง ท่านก็พูดเป็นภาษาอีสานว่าในโลกใบนี้บ่มีไผ สิฮักคนไทย เท่าในหลวงอีกแล้ว แปลว่าในโลกใบนี้จะไม่มีใครรักประชาชนชาวไทยได้เท่ากับในหลวงของเราอีกแล้ว”

ปีติอยู่ในใจ ในช่วงชีวิตหนึ่งได้ถวายงานร้องเพลงพระราชนิพนธ์ ในหลวงทอดพระเนตร
“อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่คิดไม่ฝันเลย คือ การได้ถวายงานพระองค์ท่าน ได้มีโอกาสไปเล่นเรื่องแผ่นดินของเรา และตอนนั้นได้ร้องเพลง Oh I say ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ เราภูมิใจมากๆ และมีทีมงานมาเล่าให้ฟังว่า ท่านทอดพระเนตรผลงานของเราทุกอย่างเลย กว่าจะผ่านมาเป็นหนัง แค่นั้นก็รู้สึกดีใจมากๆ แล้ว และในวันที่ 5 ธ.ค. 53 ผมก็ได้มีการไปร้องเพลงต่อหน้าพระพักตร์ที่ท่าน้ำศิริราช ตอนนั้นเราไม่เคยคิดหรอกว่าเราจะได้ไป แม้มันจะมีแม่น้ำกันอยู่ และท่านประทับที่ตึกในโรงพยาบาลศิริราช เราก็รู้สึกภูมิใจ แม้เราจะมองไม่เห็นก็ตาม แต่ทางเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ก็บอกว่า พระองค์ทอดพระเนตรพวกเราอยู่นะ”

“ความรู้สึกตอนนั้นพูดไม่ถูก มันปีติอยู่ในใจ เราได้เกิดมาในชีวิตหนึ่ง เราได้เป็นศิลปิน ได้ถวายงานพระองค์ท่าน เราก็ภูมิใจที่สุดในชีวิต (ย้อนไปถามความรู้สึกว่าที่ตอนที่เขาเลือกเราไปร้องเพลง เรารู้สึกยังไง?) ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ เพราะเราเพิ่งเข้าวงการ และตอนนั้นมีทั้ง พี่เบิร์ด ธงไชย พี่บี้ สุกฤษฎิ์ พี่นัท มีเรีย และพอได้ถวายงานท่านเป็นความโชคดีของผม อีกอย่างด้วยความผูกพันของผมตั้งแต่เด็กที่ได้ฟังเรื่องราวจากคุณยาย และมีอะไรบางอย่างเชื่อมไปถึงพระองค์ เลยมีโอกาสได้ถวายงานพระองค์”

“แม้ผมจะเกิดไม่ทันในยุคที่ท่านทรงงานหนักๆ แต่ผมรู้สึกผูกพันได้ดูภาพ ได้ดูวิดีโอ ได้ฟังเรื่องราวจากคุณยาย ทั้งหมดมันรวมเข้ามาอยู่ในใจของเรา และวันนี้เราโตขึ้น ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักในหลวง เพราะว่าเราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก บางคนอาจจะไม่เคยเจอพระองค์ท่าน แต่ก่อนเคารพธงชาติเราได้กล่าวคำปฏิญาณ เราเห็นรูปพระองค์ท่านในทุกๆ บ้าน ทุกๆ สำนักงาน ทุกสถานที่ราชการ ผมเชื่อว่าคนไทยรักพระองค์ท่าน ผมอยากจะฝากถึงคนรุ่นใหม่หรือว่าทุกๆ คน ในเรื่องของการเดินตามรอยเท้าของพ่อ พระราชดำริของพ่อ คือทำตามคำสั่งสอนที่ท่านได้เคยฝากไว้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดครับ”




กำลังโหลดความคิดเห็น