“จุ๋ย วรัทยา” น้ำตาไหลอาบแก้ม จะเก็บไว้เล่าให้ลูกหลานฟัง ครั้งหนึ่งเคยมีความทรงจำที่มีค่าที่สุด ถวายงาน “ในหลวง - พระราชินี” ใส่ชุดไทยเดินแบบต้อนรับอดีต ปธน.อเมริกา - รัสเซีย ปลื้มปีติได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย เชื่อคนไทยจะไม่ลืมคำสอน
นางเอกดัง “จุ๋ย วรัทยา นิลคูหา” ได้นำอาหารและไอศกรีมมาแจกให้กับประชาชน ที่เดินทางมาถวายสักการะและถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ เต็นท์สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และสมาคมภริยาข้าราชการ สป. บริการ โดยจุ๋ยเผยความรู้สึกทั้งน้ำตาอาบแก้มว่าภูมิใจที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย “ในหลวง รัชกาลที่ ๙” พร้อมเล่าความทรงจำที่สุดประทับใจให้ฟังว่า
“วันนี้จุ๋ยได้นำข้าว ก๋วยเตี๋ยว และไอศกรีมมาแจกให้กับประชาชนที่มาร่วมแสดงความอาลัยต่อพ่อหลวง เป็นการร่วมมือกันของจุ๋ย พุฒ (พุฒิชัย เกษตรสิน) และแฟนคลับค่ะ โชคดีที่กระทรวงกลาโหมให้พื้นที่ในการแจกอาหารประชาชน มีน้อง ๆ บ้านแฟนคลับวันนี้มาช่วยกันลวกก๋วยเตี๋ยวด้วย จุ๋ยมาทุกวันและคิดว่าทุก ๆ คนสามารถมาได้ทุกวัน ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้แบ่งเบาให้พี่น้องคนไทยคลายหิว คลายร้อน สะดวกสบายมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่จุ๋ย ใครมาช่วยทำอะไรกันก็ได้ เล็ก ๆ น้อย ๆ ตามที่ตัวเองถนัด ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี”
“จุ๋ยประทับใจพ่อหลวงทุกเรื่องนะ ยิ่งได้ดูพระราชกรณียกิจ ได้เห็นภาพต่าง ๆ ฟังจากพ่อแม่เล่า ฟังจากคนใกล้ชิดพระองค์ท่านเล่า รวมถึงตัวเราเองที่เคยได้มีโอกาสได้ถวายงานในช่วงเวลาหนึ่ง ช่วงที่เราเข้าวงการใหม่ ๆ ได้ถวายงานในส่วนของการถ่ายทอดความเป็นไทย ใส่ชุดไทยเดินให้แขกบ้านแขกเมืองได้ชมความงามของชุดไทย มันเป็นที่สิ่งเราในฐานะนักแสดงที่พอจะถวายงานท่านได้บ้าง”
“ส่วนตัวจุ๋ยเชื่อว่า ในวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทุกคนก็คงอยากจะมาอยู่ในที่ตรงนี้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่ส่วนตัวยังไม่ได้เข้าไปในพระบรมมหาราชวัง เพราะรู้สึกว่ายังมีพี่น้องประชาชนที่มาจากต่างจังหวัด หรือประชาชนที่มีความจำเป็นและมีเวลาจำกัดได้เข้าไปแสดงความอาลัยก่อน ส่วนเราก็พยายามหาวันเวลาที่ว่างต่อไปเพื่อที่จะมาอยู่แล้ว วันนี้เลยขอมาช่วยในส่วนอื่นไปก่อน”
“จริง ๆ คำสอนมีเยอะมาก สมัยเด็ก ๆ เราอาจจะรู้แต่ว่าการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง แต่พอมาศึกษาอย่างจริงจังแล้วพบว่ามีโครงการในพระราชดำริประมาณ 4,000 - 5,000 โครงการ ยังมีแนวคิดหรือพระบรมราโชวาทที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ไม่ใช่แค่เฉพาะเรื่องการใช้เงินหรือการให้ทุกคนมีความสามัคคีต่อกัน แต่คือทุกอย่างในการใช้ชีวิตของเรา เริ่มตั้งแต่เราตื่นนอนมาด้วยซ้ำ การรู้จักหน้าที่ ความซื่อสัตย์สุจริต หรือบ้านเรามีทุกๆ ศาสนา ท่านก็ให้ความสำคัญหมด ขอแค่ย้อนกลับไปอ่าน ย้อนกลับไปดู”
เชื่อเหตุการณ์ในวันนี้จะทำให้ทุกคนย้อนกลับไปดูคำสอนของพ่อหลวง และไม่ลืมที่จะนำมาใช้เป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิต
“สมัยก่อนเราอาจจะฟังและรู้สึกปลื้มปีติที่ได้เกิดมาบนพื้นแผ่นดินนี้ แต่เราอาจไม่ได้จดจำทุกตัวอักษร แต่จุ๋ยเชื่อว่าเหตุการณ์ในวันนี้จะทำให้ทุกคนเหมือนย้อนกลับไปดูคำสอนของพ่อว่ายังมีอีกมากมายที่เราอาจจะลืมไปแต่สามารถนำมาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จุ๋ยเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ดีกับตัวเรา จุ๋ยก็จะเตือนสติตัวเองในทุก ๆ วันด้วย ในบางวันเราอาจจะหลงลืมหรืออาจท้อถอย จุ๋ยหวังว่าทุกคนคงจะไม่ทำแค่เพียงหนึ่งเดือน (เสียงสั่น) แต่เราต้องทำทุกหนึ่งเดือน ทุกปี ทุกสิบปี หรือทำไปจนตลอดชีวิตของเรา ทุกอย่างมันดีกับตัวเรา”
จะเก็บไว้เล่าให้ลูกฟัง ครั้งหนึ่งเคยมีความทรงจำที่มีค่า มีโอกาสถวายงานในพระบรมมหาราชวัง ใส่ชุดไทยพระราชนิยม เดินแบบต้อนรับอดีต ปธน.อเมริกา - รัสเซีย
“ตั้งแต่จุ๋ยเข้าวงการมาจุ๋ยรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เข้าไปถวายงานในพระบรมมหาราชวังตั้งแต่เดินแบบผ้าไหมให้สมเด็จพระราชินี หน้าตาที่เป็นไทยอยู่แล้วต้องใส่ชุดไทยพระราชนิยม และตอนเดินแบบก็มีพระราชอาคันตุกะมาเยี่ยมเมืองไทยด้วย ตอนนั้นจุ๋ยทำได้อยู่หลายปีเหมือนกัน จึงทำให้มีโอกาสได้เห็นพระองค์ท่าน ซึ่งมันเป็นความประทับใจส่วนตัวที่อย่างน้อยหนึ่งในชีวิตได้ทำอะไรแบบนี้เพื่อพระองค์ท่านบ้าง”
“พอเราได้นึกย้อนกลับไปในวันนั้น ก็รู้สึกจุก ๆ พูดไม่ออก (ร้องไห้) เป็นความทรงจำที่มีค่าที่สุดในชีวิตที่อยู่ในใจของเรา เพราะจุ๋ยได้ส่งเสด็จและอยู่แทบพระบาทตรงนั้น สมัยนั้นไม่มีโซเชียลหรือกล้องที่สามารถจะเก็บภาพไว้ถึงมีก็คงถ่ายไม่ได้ มีเพียงความทรงจำที่ยังคงอยู่ในหัวสมองและอยู่ในหัวใจของเราเป็นเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมาแล้วจุ๋ยจะเก็บความทรงจำนั้นไว้ตลอดชีวิตให้ลูกหลานฟังว่าเรามีบุญมาก ๆ ที่ได้ทำตรงนี้”
“จำได้ว่าตอนนั้นมี จอร์จ ดับเบิลยู บุช อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางมา ในวันนั้นทุกพระองค์เสด็จฯ ซึ่งจุ๋ยได้ทำอย่างเต็มที่กับชีวิตมากในตอนนั้น มันบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จริง ๆ วันนั้นจุ๋ยใส่ชุดไทยราชนิยม เป็นชุดไทยศิวาลัย ที่ตัดเป็นไซส์จุ๋ยเลย ทุกครั้งที่มีแขกต่างชาติมาจุ๋ยก็จะได้ใส่ชุดนี้ทุกครั้ง ตอนนี้ชุดยังอยู่ที่บ้านจุ๋ยเลย แล้วจุ๋ยก็มีโอกาสได้ถวายงานที่ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ภูพานราชนิเวศน์ ในส่วนของการใส่ผ้าไหมมัดหมี่โชว์ ชาวบ้านที่เขาทอมือเยอะมาก เราไปใส่เพื่อที่เขาจะได้มีกำลังใจว่าสิ่งที่เขาทำ แต่ละกี่ที่เขาทอมันมีความหมาย สมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านอยากให้คนไทยได้เห็น”
“ซึ่งมันไม่ใช่เหมือนการไปโชว์ตัวตามงานอีเวนต์ จุ๋ยไม่ได้ค่าตอบแทน แต่จุ๋ยทำด้วยใจ เราทำเพื่อถวายความจงรักภักดี สิ่งหนึ่งที่เราทำได้คือถ่ายทอดความเป็นไทยให้ต่างชาติได้เห็น มันเป็นสิ่งที่เราพอจะทำหน้าที่นั้นได้ การได้ถวายงานรับใช้เป็นสิ่งที่เราไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้มาเป็นนักแสดง อยู่ในวงการบันเทิง มันเกินความคาดหมายมาก ๆ พอวันหนึ่งเราได้ทำเรารู้สึกว่าเป็นบุญของเรามาก ๆ ชีวิตหนึ่งเราได้มีโอกาสแบบนี้ถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่กับเรา แต่คนอื่น ๆ เขาอาจจะได้ทำอะไรมากกว่านี้ จุ๋ยว่าทุกคนมีความรู้สึกแบบนี้”
“ในวันที่ประชาชนคนไทยทุกคนสูญเสียแล้ว จุ๋ยว่ามีหลายคนได้ค้นหาดูพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นแล้วร้องไห้ จุ๋ยว่าเวลานี้ยังไม่สายไป สิ่งที่พระองค์ท่านทำมามันไม่สูญเปล่า ถ้าทุกคนจะจำไว้ในใจแล้วก็เดินตามรอยพ่อไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ช่วงนี้ เดือนนี้ ปีนี้ แต่ต้องเป็นตลอดชีวิตของทุกคน อยากจะเงยหน้าบอกพ่อว่าเราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดแล้วก็ต้องดีกว่าเดิม”
ไม่มีงานแต่ไม่กระทบ เผยอดออมตามคำสอนพ่อหลวงเรื่องความพอเพียง
“จุ๋ยไม่มีผลกระทบนะคะ จุ๋ยยังมีเงินที่เก็บออมจากการทำตามคำสอนของพระองค์ท่านเรื่องความพอเพียง เวลานี้มันไม่ใช่เวลาที่เราจะไปคิดตรงนั้น เราต้องคิดถึงคนอื่น คิดถึงสิ่งที่สำคัญกว่า ในทุกวันเราสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้โดยที่งานตรงนี้อาจจะยังไม่ต้องมีก็ได้ เราทำอย่างอื่น เราก็ใช้สิ่งที่เราเก็บออม อดออมมาก็เอามาใช้ในยามจำเป็น แล้วก็เอามาเผื่อแผ่ให้คนอื่น คำสอนของพ่อมีมากมาย เรียกว่ามีทุกด้าน อยู่รอบ ๆ ตัวเราในทุกที่ มีตั้งแต่จุ๋ยยังไม่เกิดด้วยซ้ำ ก็จะเป็นคนหนึ่งที่จะศึกษาคำสอนของพ่อและทำตาม คิดว่าจะต้องทำให้ได้ จะเตือนตัวเองให้ได้”