เกิดจากแม็กซิมต้องจบที่แม็กซิม “แตงโม ภัทรธิดา” อิ่มตัวโชว์เรือนร่าง ประกาศแขวนเต้า ทิ้งทวนถ่ายหวิวเล่มสุดท้ายปลายปี หวังปูทางอยากเป็นแม่ที่ดี ฟุ้งรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ยันความรักต้องมีที่ลง หัวเราะแรง “โตโน่” ไม่รู้เรื่องตนเปลี่ยนผู้จัดการ รับมีใครบางคนจำเป็นต้องใช้ผู้จัดการคนนี้มากกว่าตน
มีประเด็นให้ฮือฮาตลอดจริง ๆ สำหรับ “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ล่าสุด ออกมาเปิดใจในงานแถลงการณ์ประกวด MISS MAXIM 2016 “THE SEXY ICON” ชั้น M เทอร์มินอล 21 เจ้าตัวก็เผยว่า เตรียมแขวนเต้า ทิ้งทวนหวิวครั้งสุดท้ายปลายปี เพราะกำลังจะเตรียมตัวเป็นคุณแม่
“ไม่ได้เป็นการตัดสินใจกลับมาถ่าย แต่ต้องถามว่าทำไมตัดสินใจเลิกถ่ายมากกว่า สำหรับการถ่ายแม็กซิมปลายปีจะเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตแล้วค่ะ อีกทีอาจจะเป็นตอนท้องหรือตอนแก่”
“เราถ่ายแบบประมาณนี้มาค่อนข้างเยอะแล้ว และผู้บริโภคก็ค่อนข้างอิ่มตัวกับการดูโมแล้วแหละ เราก็อิ่มตัวกับการโชว์เรือนร่างแล้ว เมื่อถึงวัยหนึ่งเราก็ต้องนั่งพิจารณาว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันได้ประโยชน์มากหรือน้อย และให้ประโยชน์กับเยาวชนมากหรือน้อย ถ้าเมื่อก่อนเราทำงานและสัมผัสงานตรงนี้แล้ว ในอนาคตเราจะต้องเตรียมตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ฉะนั้น เราจำเป็นต้องสร้างพื้นฐานของตัวเองเพื่อวันข้างหน้าเราจะได้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และด้วยความที่โมกำลังจะมีลูกด้วย เราอยากเป็นแม่ที่ดี ไม่ได้หมายความว่า คนถ่ายแบบนี้จะไม่ดีนะค่ะ แต่โมรู้สึกว่า ไม่ว่าจะทำอะไร ทำอยู่ในความพอดีจะดีกว่า”
บอกให้รอดูเล่มสุดท้ายสำหรับหนังสือผู้ชาย
“ยังไม่ได้ถ่ายเลย ต้องรอดูว่าเล่มสุดท้ายของเรากับแม็กซิมจะออกมาในคอนเซ็ปต์ไหน ซึ่งจะแตกต่างจากเดิม ๆ ที่เคยเห็นแน่นอน ส่วนแฟชั่นเล่มอื่นก็ถ่ายปกติแต่คงไม่ได้เซ็กซีแบบหนังสือสำหรับผู้ชาย ส่วนกระแสที่ผ่านมา (RUSH เล่มกันยายน) คนก็ชอบนะ โมเป็นคนถ่ายแบบแนวนี้อยู่ตลอดเวลา แต่ที่ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นลุกส์เซ็กซีอาจเพราะเราตัดผมสั้น และพอเวลาโมมาใส่แฮร์พีชผมยาว คนเลยรู้สึกเซ็กซี่มากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วการทำงานหรืออินเนอร์อะไรมันก็เหมือนเดิม”
ปัดตอบแขวนเต้า เพราะไม่มีเต้าให้แขวน เกิดจากแม็กซิมต้องจบที่แม็กซิม
"โมไม่มีเต้าสิ (หัวเราะ) ไม่รู้จะแขวนยังไง ก็คงเหลือแม็กซิมจะเป็นเล่มท้ายปีก่อนขึ้นปีใหม่ จะได้เห็นเราทิ้งทวนเพราะเราเกิดจากที่นี่ก็จะจบกับที่นี่ค่ะ”
รับเลี้ยง “น้องอีสเตอร์” เป็นลูกบุญธรรม เชื่อพระเจ้าส่งมาให้ และความรักต้องมีที่ลง
“เป็นลูกบุญธรรม รับเลี้ยงแล้วแต่เราไม่ได้ทำเป็นเอกสารอะไรเพราะเป็นคนสนิท เดี๋ยวปลายเดือนหน้าน้องก็จะคลอดแล้ว เป็นเด็กผู้หญิง ชื่อน้องอิสเตอร์ คือ คุณแม่น้องทราบว่าตั้งครรภ์วันนั้นพอดี และเราเป็นคริสเตียน ก็จะมีความรู้สึกว่าพระเจ้าส่งมาจริง ๆ เราตั้งใจให้เด็กคนนี้เรียกเราว่าแม่ด้วย แต่คือแม่แท้ ๆ ของน้องก็ยังอยู่กับโม เราจะอยู่บ้านเดียวกัน คือลูกสาวโมจะมีคุณแม่สองคน เราสองคนจะเป็นทั้งพ่อและแม่”
“ก็เตรียมตัวเข้าคอร์ส วันที่ 22 ต.ค. นี้ ต้องไปอบรม แต่โมเรียนพยาบาลมาอยู่แล้ว จะมีพื้นฐานอยู่แล้ว ส่วนน้องจะใช้นามสกุลอะไรอันนี้แล้วแต่แม่แท้ ๆ เขาเลย เราไม่ซีเรียส ไม่ได้ต้องการเป็นเจ้าของ เราแค่อยากมี อยากเลี้ยง อยากผูกพันและอยากรัก ความรักของโมต้องมีที่ลงค่ะ”
“ปกติอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ส่วนจะเลี้ยงน้องแนวไหน เราว่าจะปล่อยให้ลุย จะไม่เป็นคุณหนูแน่นอน จะไม่ทำให้ติดหรูหรือสบายจนเกินไป”
งงทำไม “โตโน่” ถึงบอกไม่รู้เรื่องที่ยังใช้ผู้จัดการคนเดียวกัน ยอมรับเปลี่ยน ผจก. ใหม่ เพราะมีใครบางคนต้องใช้ “พี่เมย์” ให้ติดตามไปตลอดมากกว่าตน
“คนที่มาดูแลโมก็เป็นลูกน้องของผู้จัดการโม คือไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยกับพี่เมย์ (ผู้จัดการ) จริง ๆ ก็ไม่ต่าง เหมือนอยู่กับพี่เมย์ เพราะเรารับงานผ่านพี่เมย์เหมือนเดิม หรือจะผ่านคุณกระติกก็ได้ แต่ด้วยความที่พี่เมย์มีน้อง ๆ ที่ต้องดูแลหลายคน ก็แตกไลน์ให้แบ่งกันมาดู”
“อาจจะมีคนบางคน ที่เขาต้องการพี่เมย์ให้ติดตามเขาไปตลอด มากกว่าเรา และพี่เมย์อาจจะมาดูเราไม่ได้เต็มที่ เลยส่งเลขามา เราก็พิจารณาดูแล้วว่าเราก็โตมาในวงการบันเทิงระดับหนึ่ง ค่อนข้างดูแลตัวเองได้ แต่บางคนยังต้องการพี่เมย์เป็นผู้ช่วยในรายละเอียด เราก็โอเคที่พี่เขาต้องไปดูแลหนัก ๆ กับบางคนในสังกัด”
“(หมายถึงโตโน่?) ทุกคนเลยค่ะ ที่ยังคงต้องการผู้จัดการคอยประกบอยู่ตลอด ซึ่งตรงนั้นมันเป็นข้อดี ถ้าปล่อยให้คนที่ยังไม่แข็งแรงในวงการทำอะไรเอง บางครั้งมันก็มีความเสี่ยงในรายละเอียดของงาน แต่เราว่าเรามีภูมิคุ้นกันพอที่จะดูแลตัวเองได้ (โตโน่ไม่รู้ว่าแตงโมเปลี่ยนผู้จัดการ สาวแตงโมหัวเราะแรงก่อนยักไหล่) ไม่ทราบได้ยังไง มีผู้จัดการคนเดียวกัน คือเขาก็เป็นคนหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้ผู้จัดการ”