“อุ๋ย บุดด้าเบลส” เปิดใจที่มาซิงเกิลใหม่สุดโดน “เพื่อนหายเพราะขายตรง” บอกเจอมากับตัวรุ่นพี่ชวนไปทำธุรกิจ แต่สุดท้ายลงเอยที่หาสมาชิก ยันไม่ได้แอนตี้คนที่ทำธุรกิจแบบนี้ แต่เกลียดพวกไม่มีจรรยาบรรณ เผยแต่งดองไว้นานกว่า 3 ปีแล้ว
กลายเป็นที่ติดหูอย่างรวดเร็วในโลกโซเชียล สำหรับเพลงที่มีชื่อว่า “เพื่อนหายเพราะขายตรง” ของ “นที เอกวิจิตร" หรือ “อุ๋ย บุดด้าเบลส” ที่ร่วมกับ “โปรโตซัว พงศธร เดชานุภาพ” ที่บอกเล่าเรื่องราวของการถูกชวนไปเข้าร่วมธุรกิจขายตรง โดยวาดฝันอย่างสวยหรูว่าจะร่ำรวย และต่อไปจะสบาย เพราะมีดาวน์ไลน์มาทำแทน แต่สุดท้ายโทร.ไปไม่มีใครรับ เจอหน้ากัน เพื่อนก็ไม่ทัก ญาติพี่น้องหาว่าบ้า สุดท้ายก็มีจุดจบคือไม่ทำแล้ว
“ในมิวสิกวิดีโอ ผมเป็นเจ้าของบริษัทที่ไปชวนเด็กหนุ่มคนนึงให้เขามีความหวังขึ้นมาว่าจะรวย เขาก็ไปตระเวนขายเพื่อนฝูงรำคาญไม่รับโทรศัพท์ ไม่อยากเจอหน้า จนสุดท้ายเขาก็ประสบความเดือดร้อน เพราะเขาโดนกระทืบอยู่ โทรศัพท์หาเพื่อนก็ไม่มีใครรับสาย เนื่องจากเพื่อนนึกว่าเขา โทร.มาขายตรง ซึ่งตัวผมก็เข้าไปหาเขาตอนหลังจากที่เขาโดนรุมกระทืบ ผมก็เลยบอกว่าอย่าเพิ่งยอมแพ้ดิ ชีวิตต้องสู้ต่อไป เขาก็เลยชกผมบอกจะสู้อะไรดูสภาพเป็นแบบนี้แล้ว”
พร้อมเผยถึงที่มาที่ไปของการแต่งเพลงนี้ว่า
“เพลงนี้เกิดขึ้นจากประสบการณ์คนรอบตัวที่เจอมา รวมถึงตัวผมเองก็เจอคนที่ทำอาชีพนี้ คนที่เขาไม่ค่อยมีจรรยาบรรณ ซึ่งอาชีพขายตรงเหมือนอาชีพอื่น ๆ ทั่ว ๆ ไปครับ มีทั้งคนที่มีจรรยาบรรณและคนที่ไม่มีจรรยาบรรณ ผมเลยคิดอยากทำเพลงออกมาแซวเล่น ๆ ครับ”
“ผมโดนมากับตัว คือ เพื่อน ๆ พี่ ๆ ในวงการเขาจะส่งข้อความมาบอกจะชวนไปทำธุรกิจด้วยกัน แล้วบอกถ้าว่างเดี๋ยวคุยกันนะ ตอนแรกเราก็นึกว่าเขาจะชวนไปทำธุรกิจเปิดร้านอาหาร หรือชวนหุ้นกันทำอะไร เราเข้าใจแบบนั้นก็เลยบอกโอเคได้ ซึ่งผมเองศึกษาเรื่องพวกนี้มานานแล้วเป็นสิบปีแล้วนะ และเพลงนี้ผมก็ใช้เวลาแต่ง 3 ปีกว่า ผมแต่งเพลงมานานดองเอาไว้เยอะ โดนตอนนี้ผมก็จะมาทำโปรเจกต์ออกอัลบัมเพลงคนเดียว ผมก็เลยเพิ่งได้ปล่อยเพลงนี้ออกมา”
“คือ พอเขาเริ่มพูดออกมา บอกว่าเป็นธุรกิจเครือข่าย แบบรู้จักเน็ตเวิร์กมาร์เก็ตติ้งมั้ย เขาพูดมาแค่นี้ผมก็รู้แล้ว ซึ่งผมก็เลยตัดบทไปเลยว่า อันนี้มันไม่ได้เน้นที่ตัวสินค้าใช่มั้ย จะเน้นหาค่าสมาชิกต่อ ๆ กัน พูดตรง ๆ นะ เขาก็เลยบอกว่าประมานนั้นแหละ เขาบอกว่าคนอย่างเรารู้จักคนเยอะน่าจะช่วยกันได้ดี และผมก็เลยบอกเขาไปว่าโทรศัพท์มาผิดคนแล้วครับ ผมมั่นใจว่าคนอย่างผมทำอย่างนี้ไม่ได้ ผมไม่ได้สนับสนุนให้คนทำแบบนี้ คนอื่นเขาอาจจะทำได้ แต่คนอย่างผมทำธุรกิจแบบนี้ไม่ถนัด”
ในโลกโซเชียลต่างก็มีการวิจารณ์เพลงนี้อย่างกว้างขวาง ทั้งที่ชอบเพลงนี้ และมองว่าเนื้อเพลงที่กล่าวมา คือ เรื่องจริงทั้งหมด ซึ่งเพื่อนที่หายไปนานแล้วทักมา มีอยู่ 2 อย่าง คือ ถ้าไม่ชวนไปทำขายตรงก็ขอยืมเงิน บางคนไม่ชอบธุรกิจขายตรง และเสียความรู้สึกที่ถูกเพื่อนชวน แต่สำหรับนักธุรกิจบางคนมองว่า เพื่อนหายไม่ใช่เพราะธุรกิจขายตรง เป็นเพราะขายไม่เป็นมากกว่า บางคนมองว่า คนไทยหลายคนโดนหลอก เพราะแยกแยะไม่ได้ระหว่างธุรกิจขายตรง กับแชร์ลูกโซ่ และธุรกิจเครือข่ายประเภทอื่น ๆ ซึ่งเรื่องนี้นักร้องหนุ่ม “อุ๋ย บุดด้าเบลส” บอกเพลงที่ได้ปล่อยออกไปนั้น อาจจะชอบใจหรือไม่ชอบใจใครหลายคน ซึ่งตนเองก็พร้อมรับมือกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น
“ผมว่ามันทุกอาชีพนะ และยิ่งเป็นอาชีพอย่างผมทำออกมาต่อให้ไม่เป็นเพลงแนวนี้หรือเป็นเพลงรักก็มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ซึ่งเพลงนี้อาจจะดูรุนแรงมากหน่อย เพราะมีคนที่เขาประกอบอาชีพนี้ เสียผลประโยชน์ แถมยังโดนมองด้านลบอีกต่างหาก เขาก็ต้องโกรธเกลียดผมเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่ถามว่ารับมือยังไง ผมไม่รับมือ ผมรู้ลิมิตตัวเองว่ามีการหยอดเล่น ๆ อย่างที่บอกไปว่าผมไม่ได้ไปด่าเสีย ๆ หาย ๆ ถ้าคุณมีจรรยาบรรณกับอาชีพคุณ คุณอาจจะเห็นด้วยกับผม เพราะคุณจะประกอบอาชีพได้ดีกว่าเดิม”
“ซึ่งคนที่จะเกลียดผมคือคนที่ร้อนตัว ที่ขายตรงแบบพูดจาโกหก ไปหลอกคนอื่นเพื่อเอาค่าสมาชิก ไม่ได้เน้นคุณภาพสินค้า คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ คนพวกนั้นสิที่จะมาด่าผม ซึ่งเรื่องนี้ผมก็รับฟังความเห็นต่าง คนที่ไม่ได้คิดแบบเดียวกับผม คนที่เขาขายตรงเพื่อให้คนไปฟังสัมมนาเพื่อหารายได้เลี้ยงลูกเมียจากการทำแบบนี้เขาคงไม่ชอบอยู่แล้วที่ผมออกเพลงนี้ออกมา ซึ่งผมก็ยอมรับในความเห็นที่ต่างกัน ผมเองก็ต้องยอมรับทุกกระแสครับ”
ผลตอบรับดีเกินคาด
“ตั้งแต่ก่อนเพลงนี้จะออก ผมก็รู้สึกอยู่แล้วครับต้องมีคนที่ชอบและคนที่ไม่ชอบเพลงนี้ ซึ่งคนที่ประกอบอาชีพนี้ทุกวันนี้ ยอมรับว่า คนทำงานแบบนี้เยอะมากเหมือนกัน และเขาคงไม่พอใจ ซึ่งตอนแรกที่ผมเจอมานะ คือ ผมโพสต์แค่เนื้อเพลงอย่างเดียวก่อน แล้วยังไม่ได้ปล่อยเพลง ก็มีคนที่ขายตรงเขาส่งแมสเสจมาหาผมทั้งในไอจี และเฟซบุ๊ก”
“ซึ่งทั้งสองคนที่ส่งข้อความมานั้น เขาพูดจาสุภาพมาก เขาบอกว่าเขาเป็นแฟนคลับผมมาตั้งแต่อัลบัมแรก ๆ ติดตามผมมาตลอด แต่เขาทำอาชีพขายตรงอยู่ และหาเลี้ยงครอบครัวมาได้ปีกว่าแล้ว เขาบอกว่าเขาเข้าใจคนในสังคมมองภาพพวกเขาในด้านลบ เพราะมีคนโดนหลอกให้ไปสัมมนา เขาบอกเขายังจะติดตามผมต่อไป แต่ก็อยากให้เห็นใจพวกเขาด้วย”
“และผมก็บอกพวกเขานะครับว่า จริง ๆ แล้วผมไม่แอนตี้คนขายประกัน หรือคนขายตรงเลย ถ้าเขาเชื่อในสินค้าที่เขาขายจริง ๆ เพราะตัวผมเองก็เคยเป็นเซลล์ขายรถมาก่อน ผมเข้าใจมากกับการเป็นคนขายของ แต่ถ้าเราพูดไม่หมด สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น หลอกเขาไปฟังสัมมนาจนทำให้คนอื่นเดือดร้อนเรื่องของค่าใช้จ่ายเดินทาง”
“หลอกให้เขามีความหวังด้วยการไม่พูดความจริงตรง ๆ ซึ่งผมเข้าใจว่ามีคนที่เป็นอย่างนี้ และมีคนที่มีความเป็นจรรยาบรรณแบบไม่ได้มาหลอกลวงแบบนี้ก็มี ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็เหมือนทุก ๆ อาชีพ เพราะฉะนั้นเนื้อเพลงของผมไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของพวกคุณดูลบหรอก มันเป็นแค่กระจกสะท้อนสิ่งที่สังคมเขาเจอกันมา”
“ถ้าฟังเพลงผมจริง ๆ เนื้อเพลงมีแต่ชมนะครับ ผมเอาคำพูดพวกเขามาพูดกันหมด ผมว่าเพลงผมมันเป็นข้อดีตรงที่คนที่ไม่มีจรรยาบรรณแล้วหากินแบบนี้ เขาก็จะขายยากขึ้น แล้วคนที่ขายตรงแบบมีจรรยาบรรณที่ขายเพราะตัวสินค้าดีจริง เขาเชื่อในตัวคุณภาพสินค้าจริง ๆ ไม่ได้หวังการทำนาบนหลังคน เขาจะขายได้มากขึ้น เนื่องจากคนที่ขายแบบไม่มีจรรยาบรรณมันโดนเขี่ยออกไปหมดแล้ว คนเขารู้ทันกันแล้ว ผมว่าเพลงนี้ช่วยให้คนที่มีจรรยาบรรณกับอาชีพนี้ ขายได้ดีขึ้นด้วยซ้ำ”
ยืนยันไม่ได้แอนตี้คนที่ทำธุรกิจแบบนี้ แต่มิตรภาพก็มีคุณค่าเช่นกัน
“ผมเชื่อว่าคนที่ฟังแล้วรู้สึกว่าโดน ก็อย่าไปมองทางด้านลบอย่างเดียวว่าคนที่ทำอาชีพขายตรงแบบสุจริตยังมีอยู่จริง ก็อาจจะไม่ได้เจอกันในสังคม หวังว่าเพลงนี้ให้เป็นอีกหนึ่งมุมมองที่คนดูขำ ๆ สนุกสนานกัน ไม่ต้องซีเรียส เพราะคนที่ทำมาหากินแบบสุจริตมันมีทุกอาชีพ”
“แล้วก็ฝากติดตามเอ็มวีด้วยครับ ซึ่งผมได้น้อง ๆ หน้าใหม่มาร่วมงานด้วย เขาไฟกำลังแรงดี เหมือนผมได้เห็นตัวเองทำงานตอนเด็ก ๆ ก็เดี๋ยวจะทยอยออกมาเรื่อย ๆ ก็จะเป็นอัลบัมเดี่ยวของผม ยังไงก็อยากฝากให้ทุกคนฟังกันเยอะ ๆ นะครับ”
แทงใจดำ! “อุ๋ย บุดด้าเบลส” ออกเพลง “เพื่อนหายเพราะขายตรง”