อดีตศิลปินกองการสังคีต กรมศิลปากร ร้องมิวสิกวิดีโอ “เที่ยวไทยมีเฮ” เหตุทำลายภาพลักษณ์ “ยักษ์” หลังให้ตัวละครผู้น่าเกรงขามทำทั้งหยอดขนมครก, ขี่จักรยาน, ขบรถโกคาร์ต ด้านผู้กำกับ “อ๊อด บัณฑิต” รับปรับแก้ไข หากยังไม่พอใจก็พร้อมโดนแบน
แม้จะถูกใจใครหลายคนแต่ก็กลายเป็นปัญหาขึ้นมาจนได้สำหรับ มิวสิกวิดีโอเพลง “เที่ยวไทยมีเฮ” ที่จัดทำโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ถูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา
โดยมิวสิกวิดีโอดังกล่าวนั้นได้นักร้อง “เก่ง ธชย” และ “ฟิล์ม บงกช” ร่วมร้องและแสดงด้วยการใส่ชุดโขนพร้อมนำตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ ทั้งทศกัณฑ์ และเหล่าเสนายักษ์ ตระเวนเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ โดยมีทางด้านของ “อ๊อด บัณฑิต” รับหน้าที่กำกับ
ทั้งนี้ ที่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมา ก็เนื่องจากทางด้านของ นางสาวลัดดา ตั้งสุภาชัย อดีตศิลปินกองการสังคีต กรมศิลปากร ได้เข้าร้องเรียนต่อสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลป์) ถึงความเหมาะสมของมิวสิกวิดีโอดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (วิทยาลัยนาฏศิลป์) มองว่า ไม่ได้ติดใจการพาทศกัณฐ์ หรือนางในวรรณคดีไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ หากแต่การนำ “ทศกัณฐ์” รวมถึงยักษ์ตัวอื่น ๆ ซึ่งมีบุคลิกน่าเกรงขามมาแสดงพฤติกรรม อาทิ หยอดขนมครก ขี่จักรยาน ขบรถโกคาร์ต, ถ่ายเซลฟี, ขี่บั้งไฟ ฯ ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ซึ่งมี “คณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” เป็นผู้ดูแล ได้เชิญทั้ง 2 ฝ่าย คือ ผู้ผลิตมิวสิกวิดีโอ ผู้กำกับ และผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เข้ามาร่วมพูดคุยหาทางออกตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ทางด้านของนางสาวลัดดา ก็ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรม ระบุว่า ทางผู้ผลิตยอมรับในความผิดพลาด เพราะขาดความรู้ในมิติวัฒนธรรม ยินดีปรับปรุง และหากปรับแก้แล้วยังทำให้เกิดความเสียหายกับวัฒนธรรมของชาติ ก็ยินดีให้ไม่ออกอากาศมิวสิกวิดีโอดังกล่าว รวมถึงสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลปจะเร่งทำจรรยาบรรณวิชาชีพเพื่อปกป้องมรดกของชาติ อย่าง นาฏศิลป์ชั้นสูง อย่างยั่งยืนต่อไป
ส่วนทางด้านของผู้กำกับ “อ๊อด บัณฑิต” เองก็ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตนเองเช่นกันโดยระบุว่า...คุณค่าทางวัฒนธรรมควรเก็บไว้แค่บนหิ้งหรือไร นำมาต่อยอดเพื่อประโยชน์ของชาติก็ไม่ได้ ถูกสำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมกับ สคบ. เรียกไปขู่ว่าจะฟ้องโทษฐานทำลายวัฒนธรรมชาติ...ก่อนที่ล่าสุดเจ้าตัวจะมีการแก้ไขข้อความใหม่ว่า...สืบเนื่องจากโพสต์เมื่อวานครับ ขอแก้ข่าวเล็กน้อยว่าหน่วยงานที่เรียกผมไปคาดโทษไม่ใช่สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมครับ มีการเข้าใจผิด เนื่องจากบุคลากรที่มาพูดคุยเป็นคนที่เคยทำงานที่สำนักนี้ กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ...
นอกจากนี้ ล่าสุด ในวันนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังเจ้าตัวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ก็ได้รับคำตอบว่า ตอนนี้ก็ได้ทยอยปรับปรุงแก้ไขตัวมิวสิกวิดีโอตามที่ได้รับปากมา ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน และท้ายที่สุดแล้วหากแก้ไขแล้วอีกฝ่ายไม่พอใจ และอยากจะแบนก็คงจะต้องเป็นไปตามนั้น
“ก็คงจะต้องแก้ไขตามที่ ผอ.ลัดดา ท่านติงมา เพราะว่าเราคิดว่ามันเป็นเรื่องเซนซิทีฟ ดึงดันไปก็คงไม่เป็นผลดี ท่านก็ให้เวลาเจ็ดวัน คือ ไม่ถึงขนาดที่เป็นเดตไลน์นะ ก็ประมาณเจ็ดวันก็น่าจะแก้ไขเสร็จ ซึ่งถ้าแก้แล้วท่านไม่พอใจอีก แล้วเราแก้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว แล้วถ้าท่านไม่โอเคจะขอแบนก็ต้องเป็นไปตามนั้น”
รับเสียความรู้สึกกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะทำไปด้วยเจตนาดี
“ก็นิดนึง เรามองว่าเราตั้งใจดี เราไม่ได้มาทำมาค้าขายโฆษณา มาโฆษณาสายการบินหรือว่าน้ำดื่ม แต่เราชวนให้คนท่องเที่ยวไทย แต่พอมาแบบนี้ก็มีนิดนึงครับ แต่ไม่ได้ถึงขนาดว่าจะท้อแท้อะไรหรือไม่เอาอีกแล้ว ก็หาแคมเปญใหม่ ๆ มาทำได้...เรื่องฟ้อง ตอนแรกถ้าเราไม่เข้าไปหารือหรือว่ายอมแก้ท่านก็คงจะฟ้อง เพราะมันมีกฎหมายคุุ้มครองวัฒนธรรมอยู่ แต่ตอนนี้เรื่องฟ้องคงไม่มีแล้ว ตอนนี้คือแก้ให้พอใจออนแอร์ได้กับไม่พอใจก็คงจะโดนแบนไป...”