“น็อต วรฤทธิ์” รับคนทึกทักไปเองว่าเตรียมแต่ง “แจน” แต่ยอมรับสองครอบครัวคุยกันแล้ว ไม่อยากให้งานแต่งเอิกเกริก ส่วนฤกษ์ยังไม่ขอตอบ บอกไม่อยากให้วุ่นวาย แค่คนธรรมดาสองคนที่รักกันและจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
ดูท่าทางรักครั้งนี้ของนักแสดงหนุ่ม “น็อต วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์” กับแฟนสาว “แจน นพลักษณ์” จะสุกงอมแล้วจริงๆ เพราะมีข่าวลือออกมาว่าทั้งคู่เตรียมหาฤกษ์ยาม และพร้อมแต่งในสิ้นปีนี้แล้ว ซึ่งล่าสุดได้เจอทั้งคู่ในงานเปิดตัว Refinn Platform ภายใต้ชื่อ One Refinn Day ณ Seminar room 1001 อาคาร Cyber World ชั้น 10 Auditorium Hall หนุ่มน็อตก็ยืนยันหนักแน่นว่าไม่เคยพูดว่าจะแต่งงานในสิ้นปีนี้ แต่คนคิดกันไปเองทั้งนั้น
น็อต : “จริงๆ ไม่ได้บอกว่าจะมีงานแต่งหรือไม่มีนะครับ แต่ก่อนหน้านี้นักข่าวก็ทึกทักกันไปเองว่าจะบวชแล้วจะเบียด แต่ยังไม่ได้ประกาศอะไรเลยครับ ไม่มีอะไร ทึกทักกันไปเองครับ ยังไม่มีฤกษ์อะไรครับ ปล่อยไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเมื่อไหร่ก็รู้กันเองครับ ถามว่าจะเป็นสิ้นปีนี้มั้ย รอติดตามแล้วกัน เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจจะประกาศให้ใครรู้อยู่แล้วครับ เราก็เงียบๆ แต่ฤกษ์บวชนี่ 15 ธ.ค. แน่นอนครับ แต่จะแต่งปีหน้าหรือเปล่าผมไม่เคยพูดนะ ส่วนใหญ่คิดกันเอาเองหมดเลย ไม่เคยบอกด้วยว่าเมื่อไหร่ แล้วผมก็จะไม่บอกด้วย (หัวเราะ) เอาไว้รอดูทีเดียวดีกว่าครับ เพราะจริงๆ แล้วเราไม่อยากวุ่นวายน่ะครับ เราไม่อยากให้มันใหญ่โต เราก็แค่คนธรรมดาสองคนที่รักกันและจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน คือพอมันเป็นงานใหญ่ก็ต้องรบกวนคนอื่นเยอะน่ะ เราก็เกรงใจ มันวุ่นวายน่ะครับ แต่เรามีคุยกันอยู่แล้วครับ”
แจน : “แจนไม่กดดันนะคะ เพราะมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนสองคนค่ะ ก็เลยไม่กดดัน เรื่อยๆ ก็มีคนถามเหมือนกันค่ะ แต่เราก็บอกว่าพี่น็อตเขาจะบวช ยังไม่ได้ถึงขั้นคุยกันเรื่องแต่งงาน ก็ให้พี่น็อตเขาบวชก่อนค่ะ เรื่องจะแต่งยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยค่ะ ปกติเลย”
น็อต : “ไม่ได้มีการเตรียมตัวอะไรหรอกครับ เพราะถ้าจะมีงานจริงๆ ก็เป็นงานเล็กๆ ครับ คงไม่ใหญ่โต ก็คงจะมีคนในครอบครัว คือมันจะกลายเป็นว่าต้องไปรบกวนคนอื่นมา ทุกคนต้องไปหาชุดไปอะไรมันวุ่นวาย คือในมุมของผมมันก็เป็นเรื่องของสองครอบครัว ทางครอบครัวฝ่ายแจนเขาก็ไม่อยากให้เอิกเกริก อยากทำง่ายๆ มากกว่า ไม่มีเลี้ยงฉลองครับ คือจะมีแค่ทำพิธีการให้ถูกต้องตามหลักประเพณีเท่านั้น แต่จะเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลยครับ ยังไม่ได้ดูฤกษ์เลย แต่ต้องดู ต้องเอาวันที่ดีที่สุดอยู่แล้วครับ”
แจน : “แจนเองก็อยากให้จัดแบบเล็กๆ ดีกว่า ง่ายๆ ค่ะ เพราะเกรงใจคนอื่นที่เขาต้องลำบากหานั่นหานี่ ก็เลยง่ายๆ ดีกว่าค่ะ”
น็อต : “จริงๆ มีเพื่อนถามเยอะครับว่าจะแต่งแล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง เราก็บอกว่าอยากใส่อะไรก็ใส่ เอาง่ายๆ แล้วก็ไม่ต้องใส่สูทด้วย คือคุณมีอะไรอยู่แล้วคุณก็ใส่อันนั้นมาที่คิดว่าดูดีที่สุดและสุภาพที่สุด เหมาะสมกับงานที่สุดเท่านั้นพอ เราไม่เห็นด้วยที่คุณจะต้องซื้อชุดใหม่เพื่องานของเรา มันไม่จำเป็น เอาที่มีอยู่แล้วและใส่มาเท่านั้นพอแล้วครับ แค่มาก็พอแล้ว ผู้ใหญ่สองครอบครัวก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ เพราะเคยคุยกันไว้แล้วครับ แต่ว่ายังไม่ได้ประกาศว่าเป็นวันไหนเท่านั้นเองครับ คือผู้ใหญ่สองฝ่ายคุยกันเรียบร้อยแล้วครับ”
พร้อมเผยถึงกรณีช่วยนศ.เคลียร์หนี้ 1.5 ล้าน บอกไม่ได้ช่วยทั้งหมด ยันอีกฝ่ายไม่ได้หลอก ตนเต็มใจหยิบยื่นโอกาสให้ และไม่ขอยุ่งเกี่ยวเรื่องคดีใดๆ ทั้งสิ้น
“จริงๆ เคสนี้ต้องขอบคุณคุณก้อง (อรรฆรัตน์ นิติพน) นะครับ และ NYC newyork clinic ที่เราเป็นหุ้นส่วนกันอยู่แล้วนะครับ คือเราเห็นว่าเขามีความตั้งใจที่จะทำงาน อยากจะช่วยเหลือภาระครอบครัวตัวเองแล้วดันโดนคนโกง เราก็เห็นว่าเขามีความตั้งใจ แล้วเราจะช่วยอะไรเขาได้บ้างคือเราไม่ได้ใช้หนี้ให้เขาทั้งหมด 1.5 ล้านหรอก แต่ว่าเราช่วยส่วนหนึ่ง กับการที่จะแลกกับเงินที่ผู้เสียหายเขาเสียไป แลกกับความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นจมูก ตา คางหรือทรีตเม้นต์อะไรก็ได้ ประมาณ 2 - 3 แสนบาทเท่านั้นเอง”
“แต่สิ่งที่เราช่วยน้องคือเราให้อาชีพน้องในการเป็นเซลล์ให้กับเรา และรายได้ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ให้น้องเป็นทุนการศึกษา อีกส่วนหนึ่งจะแบ่งไปให้น้องชำระหนี้เท่านั้นเองครับ นี่คือสิ่งที่เราช่วยได้ คือเราจะไปช่วยทั้งหมดล้านกว่าบาทไม่มีปัญญาหรอกครับ (ยิ้ม) ณ ตอนนี้คือให้อาชีพ ที่เหลือน้องต้องพิสูจน์ตัวเองครับ ว่ามีความตั้งใจอย่างที่เราคาดหวังไว้หรือเปล่า เพราะเราเห็นว่าน้องเขามีความตั้งใจที่จะช่วยครอบครัวเขาเอง”
“แต่เรื่องคดีเราไม่ยุ่งเลยครับ เราช่วยซัปพอร์ตเรื่องอื่นๆ มากกว่า แต่เรื่องคดีเราไม่ยุ่งครับ ซึ่งตอนนี้น้องเขาก็เริ่มมาทำงานแล้ว เพียงแต่จิตใจน้องเขายังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เพราะหลังจากที่ข่าวออกไปก็มีคนมาโจมตี และเขียนคอมเมนต์ว่าน้องเขาเยอะในอินเตอร์เน็ต เหมือนว่ามาเกาะพวกเรา มาหลอกพวกเรา ซึ่งจริงๆ จะบอกว่าน้องเขาไม่ได้หลอก เราเป็นคนหยิบยื่นข้อเสนอให้น้องเขาเอง ที่เหลือก็ให้เวลาเป็นการตัดสินดีกว่า ในส่วนของเราหลังจากที่มีการแถลงข่าวไปแล้วและมีคนมาต่อว่าในอินเตอร์เน็ตเยอะ น้องเขาก็เสียความรู้สึก เราก็ช่วยโทร.ไปปลอบใจ นั่งคุย เป็นที่ปรึกษาให้มากกว่าครับ”