“พิมพ์ พิมพ์มาดา” ลาขาดใส่วิก ยิ้มร่าร่างกายแข็งแรงเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ยังต้องไปหาหมอทุกเดือน ตรวจเลือด - ล้างพอร์ตใส่คีโม เผย เตรียมพิชิตความกลัว ไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า 4 วัน บอกโสดแล้วเหงา แต่จะไม่ยอมเสียเวลาให้กับคนที่ไม่ใช่
หลังจากผ่านโรคร้ายมาด้วยกำลังใจเต็มเปี่ยม ในวันนี้สาว “พิมพ์ พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร” ก็กลับมาแข็งแรงใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปแล้ว ถึงจะยังต้องพบคุณหมอทุกเดือน โดยเจ้าตัวเลิกใส่วิกผมยาวเปิดผมสั้น ทำให้ลุกส์ที่ดูเปรี้ยวไปอีกแบบ โดยพิมพ์เผยว่าตอนนี้กลับมาแข็งแรงแต่ต้องเดินทางสายกลางบาลานซ์ชีวิต
“วันนี้ออกงานครั้งแรกกับลุกส์ผมสั้นเป็นยังไงบ้าง ก็เขินจัง คือ ตอนนี้ผมก็ขึ้นดกดำมากแล้ว แล้วก็ไม่ไหวจะใส่วิกแล้ว แล้วก็รู้สึกว่าเราต้องเจอะเจอผู้คนแล้วล่ะ ถามว่า ติดใจลุกส์ผมสั้นเลยมั้ย ก็ไม่ ๆ ยังอยากผมยาว แต่ก็ปล่อยให้มันไปตามธรรมชาติ ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ใส่วิกแล้วนอกจากว่าก็ยังมีละครที่ยังถ่ายอยู่นิดหน่อย แต่อีกแป๊บหนึ่งก็จะขอเขาเอาออกแล้วละ ไม่สวยหรอก แต่ก็ไม่เป็นไรเริ่มชินแล้วค่ะ”
“ตอนนี้แข็งแรงค่ะ เหมือนเดิมทุกสิ่งอย่าง สิ่งที่ต้องระวังก็อย่างที่เราบอกค่ะ เราใช้ชีวิตเดินทางสายกลางตลอด หมายถึงว่า เราก็พยายามบาลานซ์ให้ได้ ก็พยายามไม่เลิกไม่ลดอะไรเลย แต่ว่าอันไหนอยากกินก็กินแต่ต้องรู้ว่ากินพอรึยัง”
เปรยยังต้องไปพบคุณหมอทุกเดือนเพื่อตรวจเลือดและล้างอุปกรณ์ใส่ยาที่อยู่ในตัว
“หาตลอดเลยค่ะ เจอคุณหมอทุกเดือน ตรวจเลือด ล้างอุปกรณ์ที่อยู่ในตัวเราทุกเดือน (อุปกรณ์ที่อยู่ในตัวต้องเอาออกมั้ย?) มันก็จะอยู่กับพิมพ์ไปจนกว่าคุณหมอจะเห็นว่ามันสมควรแก่เวลา มันเป็นพอร์ตใส่คีโมค่ะ ตอนที่ให้ยาจะให้ทางนี้ ก็ใส่ไว้ก่อน กำหนดเวลาเอาออกบางคนก็บอก 5 ปี หรือ 2 ปีแล้วแต่วิจารณญาณคุณหมอค่ะ เราก็ต้องไปหาหมอทุกเดือนค่ะ”
“ถามว่า กลัวจะเป็นอะไรเพิ่มมั้ย อย่าพูดสิ กลัวนะ อย่าพูดถึงเขาบ่อย ๆ อย่างที่บอกค่ะว่ามันก็ไม่มีอะไรร้อยเปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น ที่เราทำได้ทุกวันนี้เหมือนแบบคุณหมอบอกว่าพิมพ์ก็เท่ากับกลับมามีชีวิตในจุดเสี่ยงเหมือนคนปกติทั่วไป คนอื่นมีเท่าไหร่เราก็มีเท่านั้น ก็อยู่ที่เราดูแลตัวเองด้วย”
ทุ่มเทให้งานกุศลเป็นวิทยากรเล่าถึงการป่วยเป็นมะเร็ง ถ้ามีคิวว่างจะไปร่วมบรรยายทันที
“มีความสุขค่ะ มันเหมือนใจเรารู้สึกอยากแบ่งปัน อยากจะชวน คนที่ผ่านศึกตรงนี้มาจะรู้ด้วยตัวเองค่ะว่าอะไรที่มีประโยชน์กับคนอื่นก็จะอยากทำเพราะเรารู้สึกว่าชีวิตเราสร้างประโยชน์ได้ หรือเรื่องราวของเราไปสร้างประโยชน์ได้อีก คิวเป็นวิทยากรยาวเหยีดไม่ยาวเหยียดแต่เหมือนที่ไหนเขาชวนมา แล้วเรื่องของเรามันเป็นประโยชน์ได้ก็ยินดีไปค่ะ”
“ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการถามเพราะกังวลว่าตัวเองจะเป็นรึเปล่า เริ่มคิดว่าควรต้องไปตรวจรึยัง พิมพ์ก็จะบอกว่าไปตรวจเลยไม่ต้องลังเล อย่ากลัวหมอ กลัวการเป็นแล้วดีกว่า”
ไม่นอยด์เวลาที่ต้องเล่าถึงตอนที่ป่วย บอกเข็มแข็งแล้ว
“ไม่ค่ะ เราเข้มแข็งแล้ว เรารู้แล้วว่าเราผ่านมันมาได้ ฉะนั้น อะไรที่มันเกิดขึ้นอีก หรือมองย้อนกลับไปมันเห็นแต่ประโยชน์ เพราะว่าวันนั้นเราเองก็เข้มแข็งกับตัวเองมาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นก็อยากส่งต่อความเข้มแข็งให้คนอื่น ถ้าไปเล่าให้เขาฟังแล้วร้องไห้ มันก็เหมือนว่าอ้าวตอนนั้นพี่ไม่ได้เข้มแข็งหรอกเหรอ”
วันเกิดที่ผ่านมาเพื่อน ๆ มีเซอร์ไพรส์ให้ ไร้ของตัวให้ตัวเอง
“ก็เป็นหนึ่งวันธรรมดามาก ๆ เลยค่ะ ก็มีเพื่อน ๆ มีเซอร์ไพรส์ที่บ้าน แค่นั้นเอง ปกติไม่ได้เป็นคนจัดงานวันเกิดอยู่แล้ว จะมีของขวัญวันเกิดให้ตัวเองมั้ยก็ยังไม่ได้คิดเลย เป็นปีที่ดีที่สุดเพราะว่าไม่อยากได้อะไร ก็แปลกดีเหมือนกัน ชีวิตเราไม่อยากได้อะไรแล้วพวกวัตถุสิ่งของ เรารู้สึกว่าสิ่งเหล่านั่นมันเป็นความสุขให้เราเพียงชั่วคราว ครอบครัวก็ไม่มีของขวัญเลยค่ะ ทวงคุณแม่อยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้อยากได้อะไรจริงๆ ทุกวันนี้รู้สึกว่าแค่นี้มันก็ดีมากพอแล้วค่ะ”
พิสูจน์ความกลัว เตรียมตัวไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่า 4 - 5 วัน
“สิ่งที่ให้กับตัวเองคือไปปฏิบัติธรรม 4 - 5 วัน คิดว่าน่าจะเป็นของขวัญให้ตัวเองในปีนี้ จะไปที่ชัยภูมิ วัดป่าค่ะ คือนี่ก็กลัวมากเลย เพราะเป็นการนอนวัดป่าครั้งแรก ก็กลัวจะอยู่ไม่รอดเหมือนกัน แต่ก็จะพยายามสู้ค่ะ คิดว่าครั้งนี้น่าจะพิสูจน์ได้หลายอย่าง ไปกับพี่กิ๊ก (มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) เหมือนเดิม ลองไปดู พิสูจน์ใจตัวเองดู ตัดขาดเลยค่ะ น้ำไฟถึงหรือเปล่าไม่แน่ใจเหมือนกัน”
เรื่องความรักยังไม่มีใครมาวิน เป็นเพื่อน ๆ ทั้งนั้น รับเหงาแต่มีความสุข ไม่มีสเปก
“เหงานะ อยากมีนะ แต่ไม่ใช่อยู่ดี ๆ อยากได้แล้วมันได้ไงค่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะไปเอาที่ไหนมา มีคนเข้ามาคุยมั้ยก็มาในลักษณะเพื่อน ๆ ค่ะ ไม่มีใครมาวิน (ตอนนี้รับพิจารณาเป็นเพื่อนอย่างเดียว?) เป็นแฟนก็รับ (หัวเราะ) แต่ก็ยังไม่มี เหงาแต่ก็มีความสุขกับชีวิตในเรื่องอื่นๆ ไม่ได้ปลงถึงขนาดจะไม่มีเลย บางคนก็บอกพิมพ์เรื่องมาก แต่พิมพ์แค่ไม่อยากเสียเวลากับอะไรที่มันไม่ใช่ค่ะ ของแบบนี้มันต้องเจอ ไม่มีสเปก”