เหนื่อยใจ! ทำอะไรก็ผิด! “ม่านฟ้า” ยันไม่ได้ระดมทุนแชร์ลูกโซ่ แค่อยากชวนเพื่อนมาร่วมลงทุนขายสบู่เฉย ๆ

“ม่านฟ้า” เหนื่อยใจ! แค่จะขายสบู่ยังผิด แถลงยุติข้อกล่าวหาระดมทุนแชร์ลูกโซ่ ยันไม่โกงใคร ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แค่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อ้างไม่รู้กฎหมายตลาดหลักทรัพย์ ขอรับความผิดพลาดไว้ทั้งหมด บอกแค่อยากชวนเพื่อน ๆ มาร่วมลงทุนกันเฉย ๆ และยังไม่ได้รับเงินจากใคร ยอมรับกระทบความน่าเชื่อถือ ด้าน บริษัทม่านฟ้ากรุ๊ป ยังอยู่ ชี้ ไม่ได้ทำผิดกฎหมายแค่ผิดข้อบังคับ ก.ล.ต.

กลายเป็นประเด็นฮือฮาเลยทีเดียว หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ลงดาบ “ม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” กรณีเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทหุ้นกู้ต่อประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต ชักชวนประชาชนให้ร่วมหุ้นผ่านโซเชียลมีเดีย โดยกำหนดวงเงินขั้นต่ำสำหรับการเข้าร่วมหุ้นที่ 100,000 บาท และอ้างว่า จะให้ผลตอบแทนร้อยละ 15 ต่อปี ในระยะเวลา 12 เดือน

ล่าสุด ม่านฟ้าได้ออกมาแถลงยุติข้อกล่าวหาระดมทุนแชร์ลูกโซ่ ผ่านรายการ “ปากโป้ง” ทางช่อง 8 ช่วงเช้าวันนี้ (12 ก.ย.) อ้างไม่รู้กฎหมาย ภายหลังจากที่ผู้ใหญ่ตักเตือนได้ยุติทุกอย่าง และสัญญาจะไม่มีการระดมทุนแบบนี้อีกแน่นอน ยอมรับเครียดมาก

“วัตถุประสงค์แรก คือ ม่านไมได้คิดอะไรซับซ้อน แค่อยากผลิตสบู่ตัวหนึ่ง ตัวนี้คิดว่าน่าจะขายได้ ตามช่องทางออนไลน์ที่เรามี เรารู้สึกว่าเรามีช่องทางจัดจำหน่าย เราก็ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด เรามองว่าเราอยากผลิตสินค้าตัวนี้ เราลองแล้วใช้ดีด้วย ถ้าเราผลิตได้เยอะ ๆ เราสามารถขยายตลาดได้กว้างขึ้น”

“ม่านฟ้ากรุ๊ปเป็นแบนเนอร์ค่ะ ส่วนที่บอกว่าได้ปันผล 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เรามองว่าของทั้งปี (เข้าข่ายเล่นแชร์ลูกโซ่ได้ผลกำไรเยอะกว่าฝากธนาคาร?) ม่านคิดว่าผลิตภัณฑ์กำไร 15 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เป็นเรื่องปกติ มันไม่ใช่ต่อเดือน คำนวณแล้วตกเดือนละพันกว่าบาท มันเป็นไปได้เพราะเรามีต้นทุนส่วนใหญ่ ต้นทุนการผลิต โฆษณา ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ แต่ม่านเป็นฟรีเซ็นเตอร์เองฟรีด้วย การลงไอจีก็ฟรี ถ้าตัดค่าพรีเซ็นเตอร์ออกไป ค่าโฆษณา เรามีต้นทุนการผลิตตัวนี้น้อย”

“ถามว่าผิดกฎหมาย ต้องเรียนตามตรงว่าถ้าเรารู้ว่าวิธีนี้ผิดกฎหมายเราไม่ทำแน่นอน เราไม่ทราบกฎหมาย มันเป็นกฎหมายเฉพาะ มันไม่ใช่กฎหมายทั่วไป ม่านไม่เคยเล่นหุ้น ไม่เคยอยู่ในตลาดหุ้น ไม่เคยทราบกฎหมายตัวนี้อยู่แล้ว ถ้ารู้ไม่ทำแน่นอน ตอนนี้เรายืนยัน ณ ตรงนี้ สัญญาจะไม่ทำแบบนี้ในอนาคตแบบนี้ด้วยค่ะ ไม่มีแน่นอน”

ยอมรับเครียดมาก ยันยังไม่ได้รับเงินจากใครทั้งสิ้น ส่งสมุดบัญชีให้ ก.ล.ต. ชี้แจงความบริสุทธิ์
“ก่อนหน้านี้ เป็นการชักชวน คิดว่าจะชักชวนเฉพาะเพื่อน ๆ เท่านั้น สมมติไม่รู้จักคนนอก แล้วจะเอาคนนอกมาร่วม เป็นไปได้หรือเปล่าคะ ยอมรับว่า คนติดต่อมาเยอะมาก แต่มีรุ่นพี่คนหนึ่งเขาทราบเรื่องนี้แล้วเชี่ยวชาญกฎหมายด้านการเงิน ก็บอกว่า มันไม่สามารถระดมทุนผ่านโซเชียลได้ เพราะขัดกฎหมาย ก.ล.ต. เราโพสต์เพราะคิดว่าเป็นไอจีเรา เป็นพื้นที่ส่วนตัวเรา ลืมคิดไป ทำให้กระจายออกไป ตอนนี้ไม่ได้มีการรับเงินใครใด ๆ ทั้งสิ้น ม่านเปิด 4 วันแล้วเป็นข่าว ม่านชะลอตั้งแต่ก่อนเป็นข่าว ม่านอยู่ลาวไม่ได้อยู่ไทย พอเห็น ก.ล.ต. เตือนผ่านสื่อ อาจผิด พ.ร.บ. ของเขา ก็ยุติ ลบทุกอย่างออกจากไอจี เราเป็นเด็กต้องไม่ดื้อค่ะ ผู้ใหญ่เตือน”

“สบู่ตัวนี้ เราทำเสร็จแล้ว วางจำหน่ายแล้ว ผลิตตามแผนนโยบายเดิมที่วางไว้ (ชวนคนอื่นทำไม?) กำลังการผลิต เราต้องผลิตทีเยอะ ๆ เราอยากชวนเพื่อน ๆ มาร่วมลงทุนกันเฉย ๆ อยากมีพาร์ตเนอร์แค่นั้นเอง ยังไม่มีใครมาร่วมลงทุน แต่ในไอจีมีสองคน เป็นเพื่อนสนิทมาก เซ็นสัญญาก่อนที่ม่านจะโพสต์ลงไอจี เขาทำสัญญาแล้วไม่มีการรับเงินใด ๆ ทั้งสิ้น เราจะรับเงินต่อเมื่อสินค้าผลิตออกมาแล้ว ตอนนั้นยังผลิตไม่เสร็จ ให้โอนตังค์มาทีเดียวแล้วกัน”

“ยอมรับว่า เครียดมาก เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ตัวม่านไม่ทราบกฎหมายข้อนี้จริง ๆ เขาส่งมาเป็นเอกสารชี้แจง ม่านก็แสดงบัญชี ก.ล.ต. ให้เราแสดงบัญชีการรับเงิน เราแสดงบัญชีว่าไม่มีใครโอนเงินเข้ามาและไม่ได้รับเงินจากใครทั้งสิ้น ยังไม่มีการไปพบ ให้ส่งเอกสารชี้แจง เราส่งสมุดบัญชีให้ดูว่ายังไม่มีใครโอนเงินมา เรายังไม่ได้ขออนุญาต แล้วระดมทุน หนูไม่รู้กฎหมาย มารู้ตัวตอนอยู่ลาวก่อนเป็นข่าว รุ่นพี่เขาเชี่ยวชาญการเงินและรู้กฎหมายตัวนี้ เขาบอกว่าเราไม่สามารถระดมทุนผ่านสื่อได้ เราก็หยุดตอนนั้นเลย”

“เรื่องเข้าชี้แจง เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ค่ะ ไม่ทราบขั้นตอนตรงนี้ ม่านยินดีให้ความร่วมมือแน่นอนค่ะ ถ้ามีโอกาสก็จะกราบขอโทษเพราะไปสร้างภาระให้ท่านและเจ้าหน้าที่มากขึ้น ก็กราบขอโทษตรงนี้ด้วยค่ะ”

มั่นใจไม่มีใครออกมาโวยว่าถูกตนหลอก เพราะไม่ได้มีเจตนาไม่ดี
“ต้องบอกว่าผิดคือเราโพสต์ผ่านโซเชียล พอกลับจากลาว รุ่นพี่ก็นัดทนาย แล้วได้อธิบายกฎหมาย ก.ล.ต. เราก็ไม่ทราบนะว่าผิดอะไร เราหยุดก่อนเพราะผู้ใหญ่เตือน ม่านก็ยุติ และถอดทุกอย่างจากไอจี กลับจากลาวก็ถอดทันทีเลยค่ะ เราฟังทนายพูด ความคิดนี้เรามองแค่ว่าทำแบบนี้เราได้กำไร เรารู้เท่าไม่ถึงการณ์ เรามองว่าเป็นการร่วมหุ้นปกติ เรามองอย่างนั้นมากกว่า ไม่มีเจตนาไม่ดีใด ๆ ทั้งสิ้น ยืนยันว่าไม่มีผู้ร้องทุกข์ไปร้องตำรวจว่าโดนม่านหลอก เพราะม่านไมได้รับเงินใครแม้แต่บาทเดียว ขอย้ำเลย”

“ธุรกิจก็ดำเนินต่อไปค่ะ ทุกอย่างเรามีการวางแผนอยู่แล้วค่ะ กังวลมากค่ะเรื่องถูกดิสเครดิต ช่วงแรกปวดหัวมาก โทรศัพท์เข้าทุกวัน ตอนนี้ทำอาหารเสริม ม่านฟ้ากรุ๊ปยังอยู่ บริษัทไม่ได้หายไปไหน ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แต่อาจผิดข้อบังคับก.ล.ต.”

ยันไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ ไม่ได้โกงใคร ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ขอรับความผิดพลาดไว้ทั้งหมด เหนื่อยใจแค่จะขายสบู่ยังผิด
“ตอนแรกยังงงอยู่ค่ะ ว่ามันผิดอันนี้ ต้องชัดเจนก่อน ถ้าเราไม่ชดเจนในขบวนการหลายๆ อย่างจะไม่พูดเด็ดขาด เดี๋ยวเพี้ยนไป คนจะเข้าใจผิดมากกว่านี้ วันนี้มาพูดเพราะอยากยุติว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ โกงเขามั้ย ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีนะคะ”

“ถามว่าเป็นบทเรียนมั้ย เรียนตามตรงว่าข้อกฎหมายนี้เป็นข้อกฎหมายเฉพาะ ไม่ได้อยู่ในกฎหมายทั่วไป เป็นกฎหมายเฉพาะในตลาดหลักทรัพย์ ข้อนี้ผิดพลาดจริง ๆ เรารับไว้ทั้งหมด ไม่ขอโทษใคร ขอโทษตัวเอง”

“เรื่องตัวเลขในการทำสบู่ตอบไม่ได้จริงๆ แต่เราทำสินค้าหนึ่งตัวต้องมีต้นทุนเยอะพอสมควรค่ะ เหมือนเพื่อนช่วยเพื่อน ทำให้ฐานการผลิตและการขยายตลาดเพิ่มขึ้น คนนอกติดต่อมาเยอะมาก แต่ม่านบอกว่าม่านยุติโครงการนี้แล้ว มันโพสต์ก่อนถึงมีคนติดต่อเข้ามา ส่วนใหญ่เป็นคนที่ติดตามไอจีเรา เป็นเพื่อน เป็นญาติ แฟนคลับ มีคนนอก แต่คนนอกเหล่านี้ไม่ได้สนิทสนมส่วนตัว”

“เราก็มองว่าเป็นการพีอาร์อย่างหนึ่ง ทำให้คนสนใจมากขึ้น เรามองหลายอย่าง ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อน คิดว่าทำแบบนี้ทำได้ เราคิดเหมือนมาร์เก็ตติ้งทั่วไป ก็ยอมรับว่าเหนื่อยใจ เรารู้สึกว่าเป็นม่านฟ้าทำอะไรก็ผิด แค่จะขายสบู่ยังผิดเลย”