xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) “แพร์” แฉ “ฟิล์ม น้องใหม่ฯ” ขอเลิกเพราะจะไปเป็นดารา จวกเป็นพ่อแต่ทำร้ายลูกได้นี่สุด ๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“แพร์” ลากไส้ “ฟิล์ม น้องใหม่ฯ” จับได้นอกใจช่วงใกล้คลอด ขอเลิกหลังเข้าวงการบันเทิง สุดช็อกทำร้ายลูกวัย 3 เดือน เหตุควบคุมอารมณ์ - สติไม่อยู่ ยันไม่อยากทำลายอนาคต แต่โพสต์แฉเพราะอยากยกเป็นเคสสตัสดี้ อย่าทำแบบนี้กับใคร จวกไม่ใช่แค่ดาราที่มีอนาคต ผู้หญิงที่มีลูกก็มีอนาคตเหมือนกัน ไม่สน "พ่อฟิล์ม" ป้องลูก พูดชัดไม่ต้องการเงิน ไม่หวังรีเทิร์น ขอให้ออกจากชีวิตไปซะ!



ฮือฮาสนั่นโซเชียล นาทีนี้ต้องยกให้กรณีที่มีสาวนามว่า “แพร์” ออกมาโพสต์ข้อความแฉ “ฟิล์ม ณัฐกวี” นักแสดงหน้าใหม่จากละครเรื่องน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ ระบุว่า หลังฝ่ายชายเข้าวงการบันเทิงก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ทั้งนอกใจ เลวร้ายหนักถึงขั้นทำร้ายลูกวัยเพียงแค่ 3 เดือน โดยแฉข้อความแชตไลน์ซึ่งถูกอีกฝ่ายต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย บอกไม่อยากให้ลูกมีแม่เป็นกะหรี่ ต่อมาหนุ่มฟิล์มถูกต้นสังกัดอย่างบรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ลงดาบพักงาน เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริงดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม แพร์ได้ออกมาเปิดใจแถลงข่าวในรายการ EFM ON TV ทางช่อง GMM 25 ในเวลา 17.00 น. โดยยอมรับว่า ไม่คิดว่าจะมีฟีดแบ็กที่รุนแรงทั้งบวกและลบ และกระทบกับสภาพจิตใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

“หลังจากที่โพสต์ไปไม่คิดว่ากระแสรุนแรงขนาดนี้ เราโพสต์ด้วยอารมณ์ อัดอั้นตันใจ ตอนนี้พยายามไม่เสพสิ่งไม่ดี ฟีดแบ็กทางบวกก็มี ทางลบก็เยอะ ทำให้มีผลกระทบต่อจิตใจเรา เพราะเราก็เลี้ยงลูกอยู่ ต่อครอบครัวเรา”

“ถามว่าทำไมเพิ่งโพสต์ จริง ๆ เหตุการณ์เกิดซ้ำซากมานานแล้วเหมือนคู่ชีวิตทั่วไป แต่ที่มาโพสต์เพราะเกิดคำถามว่าอีกแล้วเหรอคะ ที่ผู้ชายคนนี้จะไปหลอกคนอื่นอีกแล้วเหรอ เราเป็นเคสสตัสดี้ของคนอื่นได้มั้ย ระหว่างที่คบกันเหมือนคู่ชีวิตทั่วไปมีดีไม่ดี ช่วงไม่ดีเราพร้อมให้อภัย เรามองหน้าลูก ส่วนเขาก็ขอโอกาส ไม่ใช่เขาไม่ขอโอกาสกลับมาเป็นครอบครัว ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่อยากมีแฟมิลี่”

“เราคบกันได้เข้าปีที่ 4 ตอนนั้นแพร์เรียนจบใหม่ ๆ เป็นรุ่นน้องที่มหา’ลัย คบกันปีนี้เข้าปีที่ 4 แล้วเลิกกัน ถ้านับเวลาที่แพร์อยู่กับลูกมาก็เดือนกว่า ๆ เกือบสองเดือน เขาบอกเลิกเรา แต่การบอกเลิกของเขาไม่ชัดเจน ฉันไม่อยากเลิกกับเธอนะ ถ้าเลือกได้ไม่อยากเดินเข้ามาในวงการนี้ แต่ฉันเลือกไม่ได้แล้ว ฉันขึ้นหลังเสือแล้วลงจากหลังเสือไม่ได้ ไม่สามารถมาใช้ชีวิตแบบแฟมิลี่กินข้าวดูหนัง ใช้ชีวิตพ่อแม่ลูกไม่ได้ เขาขอไม่มามีชีวิตแบบพ่อแม่ลูก ซึ่งระยะเวลาที่เลิกก็เดือนที่ 2 ค่ะ”

บอกตอนแรกเป็นสุภาพบุรุษ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังอีกฝ่ายเข้าวงการบันเทิง
“ตอนแรกเขาดีมาก ตอนเป็นแฟน ยังไม่เข้าวงการ เขาเหมือนผู้ชายคนหนึ่งเทกแคร์สุภาพบุรุษ ดูแลเรา เข้ากับครอบครัวเราได้ แต่พอเข้าวงการปุ๊บ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ประมาณ 7 เดือน เขาก็มีเหตุให้เข้าวงการเลย พอเรามีลูกก็เป็นช่วงที่เราต้องสตรองมาก ต้องใช้ชีวิตคนเดียว เขาก็ต้องทำงาน เราก็จะรู้ตัวดีว่าเรามีลูก พอเขาเข้าไปทำงานตรงนั้น จะมีผลกระทบกับตรงนั้น เราท้อง เราก็ยอมอยู่ในมุมของเรา ในโลกของเรา ตอนนั้นเราพร้อมเข้าใจเขา ครอบครัวเขารับรู้แค่คุณแม่เขาค่ะ เราไม่ได้จดทะเบียน ส่วนพิธีแต่งงานเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2557 ฝั่งบ้านเราเพราะบ้านเราเป็นครอบครัวข้าราชการ อยากให้มีพิธีผูกข้อไม้ข้อมือวันหนึ่งอุ้มลูกไปไหน จะได้ไม่มีใครว่าอะไรได้”

“เราจับได้ว่าเขานอกใจช่วงใกล้คลอดค่ะ เราจับได้เพราะเขาไม่กลับบ้าน เรากำลังจะเซอร์ไพรส์วันเกิดเขา เราท้องอยู่ออกไปซื้อเค้ก กะทำเซอร์ไพรส์ แต่โทร.หาไม่ติด ปิดเครื่อง ผ่านไป 3 วัน ที่ไม่รู้จะโทร.หาใคร เพราะไม่รู้จักใคร มาจับได้ทีหลัง เขามาโกหกว่าไปกับเพื่อน เราก็ถามกับเพื่อนว่าจริงหรือเปล่า คนไหน ชื่ออะไร แล้วเขาก็ยอมรับว่านอกใจ ขอโทษ แล้วเขาก็ง้อเรา”

สุดช็อก! เห็นภาพลูกถูกทำร้ายร่างกาย เชื่อเครียดจัดจนคุมสติอารมณ์ไม่อยู่ ส่วนตนเคยโดนทำร้ายด้วย
“คือตอนนั้นแพร์เพิ่งคลอดลูกใหม่ ๆ ต้องไปซื้อนมเซเว่น เพราะเขาไปซื้อไม่ได้ เนื่องจากเขาเป็นดารา เราไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน เราไปเซเว่นก็เลือกซื้อของ แล้วเลือกนานไป พอกลับมาลูกก็ร้องเสียงดัง เขาก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เขาเครียดในช่วงนั้นเพิ่งเข้าวงการ ทำงานคงเครียด แล้วลูกร้องไม่เงียบซะที เราเจอภาพนั้นเราก็ช็อก เขาร้องไห้สะอึกสะอื้น เรา โทร.หาแม่ พอแม่เห็นรูปปุ๊บก็บึ่งตรงมาเลย แม่บอกไม่เอาจะแจ้งความ แพร์ก็ไม่ไหวแล้ว เขาก็กราบขอโทษแม่เรากับเรา มันเป็นสิ่งเดียวที่เขาทำไปไม่ตั้งใจ ลูกร้องเขาคุมสติไม่อยู่ แม่บอกว่างั้นต้องไปบำบัดนะ”

“โดยพื้นฐานเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองค่อนข้างยาก ใจร้อน แพร์ก็เคยโดนทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่ช่วงท้อง เป็นช่วงหลัง ๆ ทะเลาะกันเรื่องเงิน เรื่องอะไร

บอกไม่ใช่ผู้หญิงที่รักสามีเกินไป แต่ตอนนั้นรอให้ผู้ช่วยเข้ามาช่วยเคลียร์ก่อนตัดสินใจแยกกันอยู่
“แพร์ไม่ใช่ผู้หญิงที่รักสามีเหลือเกิน ไม่ใช่ เหตุการณ์ตอนนั้นไม่มีหรอก แม่คนไหน มดกัดลูกก็อยากตีให้ตายเลย แต่ตอนนั้นหนูอยู่กับเขาสองคน เราไม่สามารถไปกระโดดถีบหน้าเขาได้ เราให้ผู้ใหญ่มาคุยแล้วตัดสินใจแยกกันอยู่ จนกว่าเขาคิดได้ ควบคุมสติอารมณ์ได้ เราอยู่ที่เดิมให้เขาแยกออกไป เขาก็ทำงานด้วย เป็นเดือนกว่าเขาจะโอเค คิดถึงลูก กลับมาดูลูกบ้าง”

คิดไปเองความรักจะเยียวยาให้กลับมาดีเหมือนเดิม ส่วนตนไม่อยากทำลายอนาคตใคร
“เรารู้ดีว่าการเป็นดาราของเขาเป็นความคาดหวังสูงสุดในชีวิตเขา ไม่อยากทำร้ายอนาคตใคร ไม่อยากให้ผิดหวัง เราคิดว่าเราพาลูกแยกมาแล้ว เขาทำร้ายเราแต่เราไม่จำเป็นต้องทำร้ายเขากลับ อย่างน้อยความรักจะเยียวยาให้เขาเป็นคนดีเหมือนตอนแรกที่เขาเข้าหาเรา ซึ่งมันก็ไม่มีอยู่จริงค่ะ (หัวเราะ)

เผย “ฟิล์ม” กระหน่ ำโทร.หาแต่ตนบล็อกเบอร์ อยากให้รู้แม่ของลูกคุณก็อยากมีอนาคตเหมือนกัน
เป็นสิบ ๆ สายแลยค่ะ แต่แพร์บล็อกเขา เขาก็ โทร.หาแม่แพร์ แล้วก็ไม่ติดต่อมาอีก ถ้าเขาฟังอยู่ จริง ๆ ไม่มีอะไรจะพูดถึงแล้วนะ แต่ก็อยากจะบอกว่าไม่ใช่แค่ฝ่ายผู้ชายหรือดาราที่มีอนาคต เพศหญิงที่เป็นแม่ของลูกคุณเขาก็มีอนาคตเหมือนกันค่ะ”

แพร์ต้องยอมรับในกระแสทางลบที่จะเกิดขึ้น เพราะห้ามจิตใจ ห้ามคำพูดใครไม่ได้ แต่อยากบอกว่าแพร์เลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอด มีแม่ช่วยดูแลซัปพอร์ต แต่หลัง ๆ แพร์ดูแลน้องพอร์ชเองตลอด ไม่ขอให้ใครต้องมาแบบ เฮ้ย ฉันเป็นซิงเกิลมัม หรือฉันเป็นแม่ที่แย่ ซึ่งมันไม่มีผลเหมือนกัน”

นอกจากนี้ “แพร์” ยังได้เปิดใจหมดเปลือกต่อสื่อมวลชนที่มารอสัมภาษณ์อีกครั้ง ยันไม่สน “พ่อฟิล์ม” ออกมาปกป้องลูก ชี้ชีวิตนี้ไม่รีเทิร์นแล้ว แค่อยากให้ออกจากชีวิตไปซะ!!
“ตอนที่แพร์เจอเขา ตอนนั้นแพรเป็นนักศึกษาอยู่ค่ะ ซึ่งเขาก็เป็นคนจีบแพร์นะ และเราก็คุยกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเราเรียนจบก็เลยตกลงที่จะเป็นแฟนกัน ส่วนเรื่องแต่งงาน เราแต่งงานกันหลังจากที่มีลูกด้วยกันแล้ว ซึ่งอายุของลูกตอนนั้นก็คือประมาณ 6 เดือน ในวันที่แต่งครอบครัวฝ่ายชายก็ไม่รู้เรื่องด้วย เพราะเขาอ้างความเป็นดารากับแพร์ ซึ่งแพร์ต้องบอกก่อนว่าช่วงแรกที่เราคบกันเขาปฏิบัติตัวกับแพร์ดีมาก ก่อนที่เขาจะเข้าวงการเขาคือเพอร์เฟ็กต์แมน”

“แพร์ต้องบอกว่าอุปนิสัยเขาก่อนเข้าวงการเขาคือผู้ชายนิสัยดี น่ารัก นอบน้อม เข้ากับทุกคนได้ง่ายมาก แต่พอเขาได้เข้าวงการแล้วเนี่ย มันเหมือนว่าเขาต้องเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิต เขาไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตครอบครัวได้เป็นปกติ ไปไหนมาไหนด้วยกันไม่ได้ แถมยังขี้หงุดหงิดมากๆ อันนี้แพร์มองว่าอาจจะเป็นเพราะภาวะความกดดันในงาน หากเขาลงที่ใครไม่ได้และถ้าเราทำอะไรให้ไม่พอใจนิดหน่อยเขาก็จะปรี๊ดใส่เรา”

ไม่บอกครอบครัวฝ่ายชายว่าคบกัน เพราะอีกฝ่ายต้องเป็นดารา ส่วนตนไม่แคร์ใครนอกจากลูก
“เพราะเขาบอกกับแพร์ว่าเขาต้องเป็นดารา ซึ่งในจุดนั้นแพร์ไม่ได้แคร์ใครนอกจากลูก แพร์มีความสุขเวลาที่เขากลับมาบ้าน เพราะในเวลาที่เขาดีคือเขาก็ดีมากๆ แค่นั้นแพร์ก็โอเคแล้ว”

ยอมแต่งงานด้วยเพื่อหน้าตาครอบครัว สุดช้ำแต่งงานได้แค่ 1 วันจับได้อีกฝ่ายนอกใจ
“ไม่มีใครรู้เรื่องทำร้ายร่างกายนอกจากเพื่อนสนิทแพร์ น้าแพร์ และก็คุณแม่ค่ะ ส่วนเรื่องแต่งงานอันนั้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ทางบ้านแพร์ที่เขาต้องการให้มีพิธีขึ้นเพื่อหน้าตาทางสังคม ซึ่งสุดท้ายเราก็ต้องยอม เพราะเอาจริงๆ ตัวแพร์เองก็ไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ คือหลังจากแต่งงานได้ 1 วัน แพรก็จับได้ว่าเขานอกใจ”

สงสารลูกบอบช้ำจากการถูกทำร้าย
“บอบช้ำ แต่น้องยังร่าเริงได้อยู่ อีกอย่างวันนั้นแพร์กับแม่ก็พาน้องไปหาหมอตรวจเช็กร่างกาย ยอมรับเลยค่ะว่าตอนนั้นเสียใจมาก มันเป็นเรื่องที่รุนแรงมาก รุนแรงมากจริงๆ และสุดท้ายเราก็แยกกันอยู่สักพัก คือที่ผ่านมาแพร์เองก็ให้โอกาสเขามาตลอด แพร์ไม่แฉ ไม่เปิดเผย ไม่แจ้งความ เพราะแพร์คิดเสมอว่าการที่เขาร้ายใส่เรามันไม่ได้หมายความว่าเราต้องร้ายตอบกลับ เราแค่ดึงตัวเองกับลูกออกมาจากเขาก็พอ”

“เหมือนเขาไม่มีสติ เหมือนเขาเครียด และเขาก็จัดการอารมณ์ของเด็กไม่ได้เพราะลูกร้องไห้หนักมาก รวมถึงวันนั้นแพร์ไม่ร้านสะดวกซื้อนาน มันก็เลยอาจจะทำให้เขาเครียด สุดท้ายเขาก็เลยทำรุนแรงไปเพราะความที่เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่แล้วด้วย”

“ส่วนทำร้ายร่างกายเราจะมีในช่วงหลังๆ ค่ะ เวลาที่เขาหงุดหงิด โมโห หรือแพร์พูดไม่เข้าหูไม่ถูกใจเพราะแพร์เองก็เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก และพอเรามาปะทะกันต่างฝ่ายต่างไม่หยุด มันก็เลยกลายเป็นเรื่องเกิดขึ้น มีการทำร้ายร้างกายแพร์บ้าง 2 - 3 ครั้ง ทำลายข้าวของบ้าง แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาแพร์ก็จะขับรถออกมา เพราะแพร์รู้ว่าแพร์สู้อะไรเขาไม่ได้”

บอก “เขาอยู่ในโลกของเขา ส่วนโลกของเราในสถานะพ่อแม่ลูกคือที่บ้าน” เห็นลูกถูกทำร้ายมือไม้สั่น
“จริงๆ แพร์คิดจะเลิกนะคะ เพราะแพร์เองก็อยากให้เขาไปมีอนาคต แต่เป็นตัวเขาเองที่บอกว่าเขายังเลิกไม่ได้ เขายังอยากดูแลแพร์ อยากดูแลลูก อยากเจอลูก ซึ่งมันก็เลยทำให้แพร์ยอมที่จะอยู่ในสถานะที่ว่าโลกของเขาก็คือโลกของเขา ส่วนโลกของเราในสถานะพ่อแม่ลูกก็คือที่บ้าน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายของลูกต่างๆ ในช่วงแรกๆ ที่เขายังไม่ได้มีรายได้มาก ก็จะเป็นทางบ้านแพร์มากกว่าที่เป็นคนช่วยดูแล”

“ตอนที่เห็นลูกถูกทำร้ายยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้อยู่ว่ามือสั่น แพรลบรูปพวกนั้นไปนานแล้ว แต่ได้ส่งไปให้แม่ดูในไลน์เขาก็ส่งให้เพื่อนดู มันดูไม่ได้เลยตอนนั้น ใครเห็นใครก็ร้องไห้ มันช็อกมากๆ เลยตัดสินใจว่าฉันไม่อยากทำร้ายเธอกลับคืนแต่เธออย่ามาอยู่ในชีวิตฉันอีกเลยจนกว่าจะเคลียร์ตัวเอง ปรับปรุง ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้”

“ที่โพสต์ทั้งหมดไม่อยากได้อะไรจากเขา ถ้าอยากให้เขารับผิดชอบเราคงไม่โพสต์แบบนั้น เรารู้ดีว่าถ้าทำแบบนี้คงไปหวังอะไรจากเขาไม่ได้แล้ว ที่ผ่านมาเขาเองก็ไม่ได้รับผิดชอบอะไรอยู่แล้วด้วย เราก็รับผิดชอบทุกอย่างเองมาตลอด”

แฮปปี้ได้เลี้ยงลูก อดีตสามีส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้ตามกำลัง
“เรื่องลูกอย่างที่บอกพอเอาลูกไปฝากเขาเลี้ยงมันไม่ดี เราจะไปทำงานก็ไม่ได้ เลยต้องหาอาชีพที่เราสามารถเลี้ยงลูกได้ด้วยทำงานได้ การได้เลี้ยงลูกแล้วทำงานด้วยได้คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับช่วงเวลานี้ ตอนนี้ก็ทำขนมขายเองในออนไลน์ รายได้มันก็ไม่ได้มากถึงกับทำให้เรารวย แต่เรามีความสุขที่ได้เลี้ยงลูกเอง ตอนนี้เขากำลังจะ 2 ขวบแล้ว เราก็หาเลี้ยงลูกเองจากรายได้ขายขนมของเรา เขาก็มีให้ตามกำลังเขา เราก็ขอนะ ขอเฉพาะค่าผ่อนรถกับค่าใช้จ่ายลูก ส่วนตัวเรา เราหากินเอง พยายามประหยัดเอา ตอนนี้ก็เตรียมให้เขาเข้าโรงเรียน แพร์เองก็หวังให้เขาเข้าโรงเรียนเราจะได้ไปทำงานการายได้เพิ่มขึ้นอีก"

ขอตัดขาด! ไม่สนจะเป็นตายร้ายดี ชี้อยากให้ผู้หญิงเห็นธาตุแท้
“หลังโพสต์เขาไม่ได้ติดต่อกันเลยค่ะ เพราะเราบล็อกเขาไว้แล้ว เราไม่ขอรับรู้อะไรเรื่องของเขาแล้วเขาจะเป็นตายร้ายดียังไงแพรไม่รับรู้แล้ว แพร์แค่อยากโพสต์เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนเห็นธาตุแท้ของเขา คิดว่าคงมีผู้หญิงที่โดนแบบแพรเยอะ ก็ให้แพรโดนเป็นคนสุดท้ายกับเขาพอ”

ถูกฝ่ายชายกล่าวหามีชู้กับเพื่อน แค่ไม่อยากให้รู้ว่ามีลูก
“เขากลัวว่าเราจะไปแอดเพื่อนเขาแล้วเพื่อนเขาจะรู้ว่าเขามีลูกแล้ว ที่เขาโกรธมากเพราะเราไปแอดเพื่อนเขา อยากให้เพื่อนเขารู้เหรอแล้วมาทำเป็นว่าหึงหวง จริงๆ คือกลัวว่าเพื่อนจะรู้ว่าแพร์มีลูกแล้วแสดงว่าต้องมีลูกกับเขา กลัวเพื่อนจะไปเชื่อมโยง”

เมิน “พ่อฟิล์ม” โพสต์ป้องลูกชายไม่ทำร้ายเด็ก-ผู้หญิง บอกจะรับผิดชอบเท่าไหร่แล้วแต่สำนึก!!
“พอดีว่าเป็นคนชอบเผชิญหน้ากับความจริงมากค่ะ ไม่งั้นคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้ คนที่บ้านเขาที่รู้เรื่องเขาแต่งงานมีน้ากับแม่เขา ถามว่าทำไมเราถึงยอมให้เขาไม่รู้ เพราะว่ามันไม่มีผลกระทบอะไร เราแคร์ทุกคนบนโลกไม่ได้ ถ้าเขารู้แต่เขาไม่ช่วยเหลือเราก็ไม่มีค่าอะไร เขาจะรู้หรือไม่รู้แพร์ว่าเราช่วยเหลือตัวเองดีกว่า ส่วนจะรับผิดชอบมาเท่าไหร่ก็ตามแต่สำนึกเขาเลย เราไม่คาดหวัง”

“เขาติดภาพว่าเป็นดารามันมีลูกไม่ได้ไหมแพร์ก็ไม่รู้นะ หรือเป็นดาราที่ยังไม่ดังก็กลัวว่าจะดับเขาก็เลยตัดไฟเสียแต่ต้นลม เลิกกับเราไปเลยดีกว่า แต่อย่างที่บอกว่าเลิกไปแล้วเขาไม่ถอยรถสิบล้อมาทับแพร์จนแพร์สามารถเยียวยาตัวเองได้ก็คงไม่เป็นแบบนี้

ซัดถูกระงับงานเพราะบาปกรรม ยันไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้
“ก็ไม่รู้บาปกรรมมั้ยนะไปทำให้อนาคตใครดับ แต่จุดประสงค์เราไม่ได้ต้องการแบบนี้ เพราะยังไงเขาก็ยังต้องทำงานเลี้ยงพ่อแม่เขาอยู่ เราไม่ได้อยากให้เขาโดนสังคมลงโทษขนาดไปตัดอนาคตเขา ถ้าเขาแก้ไขปรับปรุงตัวเองได้มันก็เป็นเรื่องดีกับตัวเขาเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เราก็เห็นใจนะ เราก็มีลูกชาย เราก็มีแม่เหมือนกัน เราเข้าใจ ที่แพร์แฉมันเป็นเพราะเรื่องผู้หญิง เรื่องการทำร้ายร่างกาย เรื่องการควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่อยากให้ใครตกเป็นเหยื่ออารมณ์ของเขา”

ยันสัมพันธ์ฉันท์ผัวเมียเหลือแค่ศูนย์ ไม่มีทางรีเทิร์น ขอร้องให้อีกฝ่ายเซ็นรับรองบุตร ไม่หวังเงินทอง แค่อยากให้ลูกมีพ่อ
“ขั้นนี้แล้วถ้ากลับไปอีกแม่คงจะตัดแม่ตัดลูกกับแพร์ ไม่มีทางแล้วค่ะ ความสัมพันธ์สามีภรรยาเป็นศูนย์แล้ว แต่ถ้าเป็นพ่อกับลูกแพร์ให้สิทธิ์เขากับลูกตัดสินใจเลยค่ะ”

“เขาเซ็นรับรองบุตรเพราะเราขอร้องเขา เราไม่ได้นึกถึงอะไรเลย เงินเราไม่ต้องการ เราคิดแค่ว่าเวลาลูกไปโรงเรียนจะต้องใช้เอกสาร หรือโตมาทุกคนก็มีชื่อพ่อชื่อแม่ แต่ลูกเรามีไม่ครบ ทำไมถึงเป็นชื่อไม่ปรากฏนามเขาคงเสียใจ ต่อให้เราพูดความจริงขนาดไหนทุกคนก็เสียใจอยู่ดีเลยขอร้องเขาว่าขอให้มีชื่อนะแค่นั้นจริงๆ เราขอร้องเขาเลยว่าเงินไม่เอาก็ได้ แค่เซ็นชื่อเป็นพ่อ เพื่อลูก”

เขาก็กลัว เราก็บอกว่าทะเบียนราษฏร์นะ คงไม่มีนักข่าวไปขุดมาหรอก มันคงไม่มีผลอะไรขนาดนั้นมั้ย แพร์เคยพูดว่าการมีลูกมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรอเธอ ถ้าเธอมีลูกแล้วเธอรับผิดชอบ เธอดูแลใส่ใจ จะมีแต่คนชื่นชมรึเปล่าแต่เขาก็บอกไม่ได้ ถามว่าตัดขาดแน่นอนมั้ย อย่าทำอะไรที่กระทบแพร์และลูก จะพูดจะทำอะไรให้ตัวเองดูดี ทำให้ตัวเองกลับมาในสังคมยังไงแพร์ไม่ว่า”

ลูกรับรู้ใครคือพ่อ บอกถึงไม่ใช่คู่แท้ในชีวิตนี้แต่คำว่าพ่อจะติดตัวตลอดไป
“รับรู้ค่ะ ตอนนี้ลูกเริ่มพูดเก่งเขาดูทีวีเขาก็จะพูดชื่อพ่อเขา ป๊าไปไหน ป๊าเที่ยว เราก็จะบอกลูกว่าป๊าทำงาน เขาเองก็ไม่ได้ติดต่ออะไรมาเลยนะคะ ตอนที่ลูกขวบนิดๆ เขาก็มาดูมาอุ้มบ้าง เราเองไม่ได้อยากตัดขาดอะไร เราอยากให้ลูกเรามีเครือญาติ เราไม่อยากให้เขารู้สึกว่าชีวิตเขามีปัญหาอะไร ปัญหาพ่อกับแม่ก็ส่วนพ่อกับแม่ แต่ชีวิตเขายังสมบูรณ์นะ เขายังมีพ่อแม่ญาติพี่น้องยังรักเขา”

“คุณรู้ดี ผิดชอบชั่วดี เข้าวัดเข้าวาคุณรู้หมดแต่ถ้าคุณไม่เอาไปปฏิบัติ ไม่เอาไปใช้ ไม่เอาไปปรับต่อให้คุณเลิกกับฉันไปแล้วไปคบกับใคร ทำงานอะไรคุณจะยังเป็นอย่างนี้มันก็จะเป็นอย่างนี้แหละ เราอาจจะไม่ใช่คู่แท้ในชีวิตเขาเราเลยต้องจบแค่ตรงนี้ แต่ชีวิตความเป็นพ่อมันจะติดตัวเขาไปตลอดลูกก็ยังรับรู้ว่าเขาคือป๊าป๋า มันอยู่ที่คุณแล้วว่าคุณจะทำตัวเป็นพ่อมั้ย หรือว่าคุณจะไม่สนใจ ไม่ใส่ใจก็ไม่เป็นไร เพราะฉันให้ลูกเต็มร้อยแน่นอน บางทีลูกเจอผู้ชายสูงๆ ตัวใหญ่คล้ายป๊ะป๋าเขา เขาก็จะเข้าไปหา อยากเข้าไปกอด เขาคงอยากจะเจอ เพียงแต่เขายังพูดไม่ได้”

ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น ขอแค่ให้ออกไปซะจากชีวิต
“ไม่ทราบจริงๆ แต่ไม่ว่ายังไงแพร์ได้ชี้แจงในส่วนของแพร์แล้ว ไม่ได้อยากให้เป็นเรื่องใหญ่เพราะพรุ่งนี้ชีวิตตื่นมาก็ยังต้องทำขนมขายเหมือนเดิม ยังต้องวุ่นวายเลี้ยงลูกเหมือนเดิมแค่นี้ก็หมดเวลานั่งตามความคิดใครแล้ว ขออย่างเดียวถ้าจะพูดอะไรก็อย่าให้มากระทบแพร์กับลูกกับครอบครัวแพร์ แพร์แคร์แค่ตรงนี้ แพร์ไม่ได้ต้องการให้เขาทำอะไรให้ ที่ต้องการก็คืออยากให้เขาออกไปจากชีวิตแค่นั้นเอง"



สภาพลูกที่ถูกทำร้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น