เลิกรากับอดีตรักเก่าอย่างไฮโซหนุ่ม “แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต” ที่ปลูกรักกันมาถึง 5 ปี ก่อนจะปิดฉากกันไปแบบคลุมเครือ ไม่ทันไร ก็ดูเหมือนว่าหัวกระไดบ้านนางเอกตัวแม่อย่าง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” จะชุ่มฉ่ำขึ้นมาอีกครั้ง
จากตอนแรกมีข่าวว่าบังเอิญโคจรไปเจออดีตแฟนเด็ก “ต๊อด-ศิณะ อุ่นทรพันธ์” ที่ร้านอาหาร ทำเอาชาวบ้านร้านตลาดพากันมโนต่อว่าอีหรอบนี้ มีสิทธิ์ลมพัดหวน รักรีเทิร์นแน่นอน
สุดท้ายข่าวกับต๊อดก็ตกไป เมี่อมีข่าวใหม่ ใหญ่กว่าเข้ามาแทนทื่ !!
เมื่อมีคนตาดีแอบไปเห็นซุปตาร์ตัวแม่ ควงแขนผู้ชายคนใหม่ไปดูหนังรอบดึกที่พารากอน โดยแหล่งข่าวแอบเม้าท์ว่า ทั้งคู่แยกกันเดินเข้าโรงหนัง แล้วก็แยกกันเดินออก เพื่อไม่ให้เป็นจุดสังเกต แต่ก็ไม่รอดพ้นความอุตสาหะของเหล่าปาปาราซซี่ ที่เกาะติดสถานการณ์จนมีประจักษ์พยานเป็นภาพถ่ายขณะที่มีการมายืนส่งกันมี่ลานจอดรถ แหม !! ช่างทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างไม่มีตกหล่นจริง จริ๊ง
มีข่าวหลุดออกมาขนาดนี้ จึงนำไปสู่การสืบค้นต่อ จนได้ความกระจ่างเพิ่มเติมว่า ชายหนุ่มที่มีสิทธิ์จะหยิบหัวใจนางเอกเบอร์หนึ่งของวิกหมอชิตไปพิชิต ที่แท้ก็คือ “ฟลุค-วรวุฒิ อัจฉริยศรีพงศ์” เห็นนามสกุลก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ไก่กาอาราเร่ที่ไหน แท้จริงแล้วเป็นทายาทมหาเศรษฐีระดับพันล้าน เจ้าของธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายอัญมณีชั้นนำของเมืองไทย
บริษัท เจมส์ พาวิลเลี่ยน ครีเอชั่น จำกัด
เรื่องความรวยไม่ต้องสาธยายให้มากความ มาว่ากันเรื่องความหล่อ หลายคนลงความเห็นว่าหล่อ ล่ำ แซ่บเวอร์ กว่าบรรดาผู้ชายที่ผ่านๆ มาของอั้ม ไม่ว่าจะเป็น “โน้ต- วิเศษ รังสีสิงห์พิพัฒน์” หรือแม้กระทั่ง “แอมป์-พิธาน” แต่ก็ไม่ทิ้งสเปกเดิมคือขาว ตี๋
ส่วนเรื่องดีกรีด้านอื่นๆ ก็งาม หรู ดูภูมิฐาน คู่ควรที่จะเป็นคู่ควงของนางเอกตัวแม่ จบจากศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ก่อนจะเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีคณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วก็เหินฟ้าไปเรียนต่อที่ Rensselaer Polytechnic Institute (RPI ) ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
จบกลับมาปุ๊บก็มาสานต่อธุรกิจอัญมณีของครอบครัว ควบคู่ไปกับการดูแลร้านอาหารของตัวเอง ที่ชื่อ "Open Kitchen" ตั้งอยู่ที่โซน Groove ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดในการทำงานของตัวเองได้อย่างน่าฟัง ว่าการสานต่อธุรกิจของครอบครัว หลายคนอาจจะมองดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่สำหรับเขากลับมองว่ามันเป็นแรงขับเคลื่อนที่ท้าทายอย่างหนึ่ง
“ธุรกิจของเราเอง เราต้องเป็นหมดทุกอย่างนะ ดังนั้นความเครียดต้องมีแน่นอน ลองคิดดูว่าคนอื่นเขาอาจจะกลับบ้านตอน 6 โมงเย็น แล้วเขาก็จะสามารถปิดประสาทส่วนนั้นไปได้เลย แต่เราไม่ใช่ คือถ้าเกิดลูกน้องทำ เราต้องทำกับเขาด้วย ตรงนี้ผมว่ามันยากนิดหนึ่ง ในทางกลับกัน เราก็สามารถที่จะทำได้เองโดยที่ไม่ต้องมีขั้นตอนมากนัก ส่วนที่ผมทำนี่มันเป็นส่วนที่ผมทำของผมเอง ทีมงานทุกคนที่อยู่กับผม เป็นทีมงานที่ผมเลือกเอง เลือดใหม่หมดเลย ดังนั้นผมจะไม่ไปวัดว่าผมต้องทำให้ได้ถึงจุดนี้นะ ที่จะเท่ากับรุ่นพ่อรุ่นแม่...ไม่ใช่ ”
ก่อนจะตกเป็นข่าวว่าเป็นว่าที่หวานใจคนใหม่ของอั้ม เคยคบหากับ “เล็ก-กรกนก ยงสกุล” ไฮโซสาวทายาทธุรกิจเรือยอร์ช “มารีนา ยอชต์ คลับ” แต่ก็เลิกรากันไปตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว เพราะฉะนั้น เป็นอันสบายใจว่างานนี้ซุปตาร์ตัวแม่ไม่มีชื่อว่าเป็นมือที่สามแน่นอน
ส่วนเส้นทางที่ทั้งคู่โคจรกันมาเจอกันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะอั้มเองก็มีเพื่อนฝูงอยู่ในแวดวงเซเลบริตี้อยู่ไม่น้อย การจะชักพาแนะนำให้มารู้จักกันย่อมเป็นไปได้ง่าย แต่ก็อย่างว่าแหละ ช่วงแรกต่างก็คงยังต้องรักษาท่าทีด้วยการไปไหนไปกันเป็นกลุ่มก่อน แม้กระทั่งที่พากันไปดูหนังรอบดึกจนตกเป็นข่าว นั่นก็มีเพื่อนของอั้มติดสอยห้อยตามไปเป็นไม้กันหมาด้วย
และเมื่อไปสืบจากอินสตาแกรม หวังใจว่าอาจจะได้ภาพสวีตหวานแหววอะไรเพิ่มเติม ก็ปรากฏว่าอั้มยังไมได้มีการกดติดตามไอจีของไฮโซฟลุคแต่อย่างใด
งานนี้ก็ต้องมานุ่งล้น นอนลุ้นกันต่อว่า อั้มพร้อมจะเปิดตัวเปิดใจอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ !!
ที่แน่ๆ รักของ #แม่ คืองานของเรา
ที่มา นิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 353 20-26 สิงหาคม 2559
