"อี๊ด โปงลาง" เครียดหนัก หัวล้านแล้วดวงตก ไม่กล้ากินยาเพราะกลัวเซ็กซ์เสื่อม โร่ปรึกษา "ดร.เซปิง" เตรียมเข้าโครงการ Face Off
หายหน้าหายตาไปนาน ล่าสุด “อี๊ด โปงลางสะออน” หรือ “สมพงษ์ คุนาประถม” เตรียมทำวงการฮือฮา ดอดปรึกษา “ดร. เซปิง ไชยศาส์น” ผู้ซึ่งเคยทำโครงการเฟซออฟ “สุรชัย สมบัติเจริญ” โด่งดังเป็นพลุแตกมาแล้ว โดยเจ้าตัวเผยที่มาผมร่วงจนเกือบหัวล้าน ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ไม่กล้ากินยาหวั่นสมรรถนะทางเพศเสื่อม เผยส่งผลกระทบต่องานแสดงของตนอยู่ไม่น้อย
“ต้องบอกก่อนว่าสำหรับผมเรื่องความสวยความงาม ด้วยความเป็นเด็กอีสานบ้านนอก ความสวยความงามเราไม่ได้พิถีพิถัน ไม่ได้เน้นมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เป็นนักแสดงมาเรื่องหน้าตา ผิวพรรณ ผมเผ้าไม่ห่วงเลย คือขายหน้าตาอย่างเดียว(หัวเราะ) ที่ตัดสินใจจะทำเพราะผมมันบางลงเยอะ เมื่อ 3 ปีที่แล้วมันเริ่มบางลง เราก็รู้สึกว่าเฮ้ย ทำไมผมเรามันบาง ร่วงลงเยอะเลย พ่อ ปู่เราก็ร่วงเยอะเลย ก็มาดูตัวเองในกระจก ก็รู้สึกว่าความหล่อคุณหายไปนะคุณอี๊ด ผมคิดอย่างนั้น พอผมบางลง ความมั่นใจก็น้อยลง อีกอย่างเราต้องทำงานด้วย เวลาขึ้นเวทีอยู่ข้างนอกเราก็ใส่หมวกปิดไว้อย่างเดียว แต่พอเวลาจะขึ้นเวทีมันก็ต้องถอดหมวกเป็นคาแรกเตอร์ พอถอดหมวดออกมาปุ๊บ เด็กในวงทัก โอ้โห ปีนี้ไปเยอะเลยนะ ไม่ไหวเลย ผมเลยรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง”
“ก่อนหน้านี้เคยซื้อยามาทาน มาทาด้วย 2 ปีก็ได้ระดับหนึ่ง สมัยเป็นโปงลางสะออน ยุคที่เราทัวร์คอนเสิร์ตก็ซื้อมาทานอยู่ 2 ปี ผมก็ขึ้นจริงนะ แต่พอเราหยุดทานปุ๊บ มันเริ่มบางอีกแล้ว ผมเลยไม่เข้าใจว่าการทานกับการทา มันจะเป็นยังไง เราจะกินยาไปแบบนี้เรื่อยๆ เลยเหรอ ก็เลยหยุดทาน มันก็บางลงเยอะ ความมั่นใจก็หาย ไม่ใช่ว่าเราห่วงสวยหล่อนะ ตัวเองก็หล่ออยู่แล้ว(หัวเราะ) แต่พอมองตัวเองในกระจก หัวก็เริ่มล้านขึ้นแม่ก็ทักว่าโอ้โห ไปเยอะแล้วนะ ก็เลยต้องตัดสินใจ”
รับหวั่นทานยาเยอะทำสมรรถภาพทางเพศเสื่อม
“ผมก็ห่วง พอทานยามันก็ขึ้นจริง แล้วสระผมทายาไปด้วยมันก็ขึ้นจริง แต่ห่วงกินยาไปทุกวัน ผมก็ห่วงสมรรถภาพทางเพศ ผมกลัวสมรรถภาพทางเพศผมหดหาย ผมก็ไม่รู้ผมก็กลัว เรากินบ่อยๆ ฮอร์โมนมันเร่งไป สมรรถภาพทางเพศเราจะหดหายหรือเปล่า ไตพังไม่กลัวเท่าไหร่ แต่สมรรถภาพทางเพศหายไปนี่สำคัญมาก(หัวเราะ) ผมเลยถามว่ากินยาเยอะๆ แล้วจะมีผลกับสุขภาพของผมมั้ยเขาก็บอกว่ามีผลแหละกับตับกับไตของเรา ตอนหลังเราเลยไม่ทานยา ไม่ทา แต่เหลือสระ คือการสระผมความมันก็หายไป สระอย่างเดียวมันไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ เกือบปีแล้วยังบางอยู่เลย”
เผย “แอ๊ด สุรชัย” แนะนำให้รู้จัก “ดร.เซปิง” ชี้เป็นสถาบันที่น่าเชื่อถือ
“ผมก็เลยค้นหาข้อมูลว่าจะทำยังไงให้มันขึ้นแล้วไม่จำเป็นต้องเสี่ยงกับการใช้ยา กินยา ผมก็หาข้อมูล ผมค้นหาในข้อมูล ในหนังสือ ในโซเชียลต่างๆ มีพี่คนหนึ่งที่ทำงานด้วยกัน พี่แอ๊ด สุรชัย เรื่องจริงเลย ทำงานด้วยกัน พี่แอ๊ดก็มาให้คำปรึกษา ก็เลยมาดูสถานที่ ก็มาเห็นสถานที่คือใหญ่ น่าเชื่อถือ อีกอย่างดร.เซปิง ผมก็ดูหลายอย่าง พี่แอ๊ดก็แนะนำมา จนได้มาเจอกันที่รพ. ที่นี่เป็นสถาบันน่าเชื่อถือระดับประเทศ ยิ่งใหญ่น่าเชื่อถือ คิดว่ามันควรทำและมีความมั่นใจและไว้ใจได้ อันดับแรกคือคนทำความงาม ทำศัลยกรรมคือความมั่นใจนะถ้าเราไปเจอสถานที่ที่ไม่น่าไว้ใจก็ไม่น่าทำ เพราะเราเป็นศิลปิน ผมก็ต้องดูเป็นพิเศษ”
หวั่นกระทบโหวงเฮ้ง หัวล้านแล้วงานน้อยลง บอกผมดกเผือได้เป็นพระเอก
“เรื่องศัลยกรรมมีทำบ้างนิดหน่อย คือผมเคยไปทำคิ้ว ไปทำคิ้วชั่วคราวมา(หัวเราะ) แต่เป็นผู้ชายเราไม่ได้ดูแล ถูไปถูมามันก็ไม่ติด ดูโหงวเฮ้งด้วยตัวเอง ถ้าหัวล้านสาวไม่มอง ถ้าทำแล้วโหวงเฮ้งจะดีขึ้น ตอนผมไม่บางตอนเป็นโปงลางมันดี พอบางลงๆ มันมีผลหรือเปล่า”
“ชีวิตดีมากตอนผมเต็ม ผมเริ่มบางก็ดีนะแต่ความมั่นใจเราหาย งานหายด้วย แต่ทำครั้งนี้ หวังเรื่องงานในวงการบันเทิงด้วยเราต้องมั่นใจมากขึ้น อีกอย่างเวลาเราขึ้นเวที ต้องใส่ผงโรยตลอด แฟนผมต้องโรยผมให้ตลอด เวลาเหงื่อออกก็ดำๆ ไหลมาเต็มหน้า (หัวเราะ) ก็เป็นแบบนี้ ตลกก็ใช่ เราก็อยากเป็นพระเอกด้วย เผื่อทำผมแล้วเป็นพระเอกได้(หัวเราะ)”
อุบไว้เป็นปริศนาจะศัลยกรรมหน้าด้วยหรือไม่
“ดร.เซปิงบอกว่าอยากจะมาดูก่อนว่าจะเป็นยังไง อยากให้ทำผมก่อนเพราะผมเป็นสิ่งที่อยากทำ แต่เรื่องหน้าตา ดร.เซปิงให้เป็นปริศนาก่อนว่าอยากทำมั้ย ถามว่าผมอยากทำมั้ยแล้วพวกพระเอกเขาจะมีงานทำเหรอ ผมก็เอาไว้เป็นปริศนา ดูๆ ก่อนว่าจะเป็นยังไง ต้องดูว่าจะได้เป็นเฟซออฟหรือเปล่า อันดับแรกเอาผมบางๆ ไว้ก่อนจะเป็นยังไง”