“เอี๊ยง สิทธา” ภูมิใจไม่โกง เตรียมเข้ากรมเป็นทหารรับใช้ชาติตามกฎ บอกเป็นบทพิสูจน์ตัวตนในวงการบันเทิง ฟุ้งหวิวทิ้งทวน ไม่แซบให้รู้ไป โด๊ปอกไก่ใส่น้ำปั่นกินวันละ 4 มื้อ ยันเป้าของจริงไม่ยัดไส้ ลิมิตถ่ายหวิวต้องให้แม่รับได้ เห็นแล้วไม่ตกใจ
อีกไม่นานต้องเข้ารับใช้ชาติเป็นทหารแล้ว สำหรับ “เอี๊ยง สิทธา สภานุชาติ” ล่าสุดเจ้าตัวมาเปิดใจผ่านรายการ “ตัวจริง เสียงจริง” ทาง youtube.com/thaich8 ของช่อง 8 ดีใจได้รับใช้ชาติตามกฎ และภูมิใจที่ตนไม่โกง
“เข้ากรมวันที่ 1 พ.ย. นี้ครับ มันก็ดีใจนะครับที่คนชื่นชม แต่ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร มันเป็นหน้าที่หนึ่งของผู้ชายที่เกิดมาในประเทศไทย ที่พออายุเท่านี้คุณต้องเลือกแล้วนะว่าคุณจะเป็น ร.ด. หรือคุณจะเป็นทหาร ผมมีข้อจำกัดบางอย่างที่ผมหายจากการเรียน ร.ด. ไป 1 ปี เพราะผมไปเรียนต่างประเทศ ผมก็ต้องมาเกณฑ์ทหาร ซึ่งหลายคนก็บอกว่าทำไมไม่ลองเหมือนคนอื่น ลองซิกแซกดูมั้ย ผมมีความรู้สึกว่าบางทีเราขับรถ เราอยู่ในเลนเราก็คิดว่าเราจะไปปาดข้างหน้าแน่นอน แต่พอผ่านไป 5 นาที คนปาดข้างหน้าเต็ม”
“ทุกคนโกงหมด แล้วทำเป็นเรื่องปกติ ผมรู้สึกว่าแบบนี้มันทำให้คนลืมไปว่าสิ่งที่ถูกต้องจริง ๆ มันคืออะไร ทุกคนมองว่าทหารไม่เป็นไรสบาย เอาชื่อไปลงต่างจังหวัดสิ ผมไม่ได้โจมตีนะครับ โอเคถ้าผมทำแบบนั้นผมจะมีหน้าไปวิจารณ์สิ่งที่มันไม่ได้ดีได้ยังไง ในเมื่อผมก็ยังทำสิ่งที่ไม่ดีเลย ก็เลยรู้สึกว่าเราไปตรง ๆ ดีกว่า (ยิ้ม) เผื่อวันหนึ่งเราจะได้มีโอกาสที่จะได้เป็นคนผู้นำทางความคิดหรืออะไรบางอย่าง เราจะได้พูดอย่างเต็มปากว่าสุดท้ายแล้ว การที่เราจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องทำตามกติกาก่อน เท่านั้นเอง”
เชื่อชีวิตต้องเจอความลำบากเพื่อให้แข็งแกร่ง
“มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าถ้าคนเราเปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตให้มันลำบากมากขึ้นเราก็จะแข็งแกร่งมากขึ้น เราตื่นในทุก ๆ วัน โรงเรียนอาจจะเป็นเลเวล 1 ที่ทำงานเลเวล 2 เจอเรื่องอะไรที่มันหนักขึ้นเรื่อย ๆ แล้วพอกลับมาเจออะไรที่มันเบา ๆ มันก็จะรู้สึกว่าชิลมากเลย ทุกวันนี้ผมยังบ่นเหนื่อย บ่นว่าลำบากกับอะไรที่มันสบายอยู่เลย อยากให้ไปเจออะไรที่มันลำบากก่อนกลับมาจะได้รู้ว่าอาหารที่เรากิน เตียงที่เรานอน บ้านที่เราอยู่แค่นี้มันคือแฮปปี้มากแล้ว”
หายเข้ากรมพิสูจน์การมีตัวตนในวงการบันเทิง
“มันไม่มีคำว่าหายไปหรอกครับ เราก็ยังมีตัวตนอยู่ ก็ต้องพิสูจน์ถ้ากลับมาแล้วไม่มีตัวตนจริง ๆ ก็ต้องยอมรับ แต่ผมมั่นใจอยู่ลึกๆ เหมือนกันนะว่ากลับมาจะเป็นอีกในเวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งเวอร์ชั่นนั้นจะเป็นเวอร์ชั่นที่เราเองก็ชอบ มีวินัยมากขึ้น ทุกอย่างดีขึ้นหมด แล้วก็จะพรีเซนต์ตรงนั้นให้คนชอบได้ด้วย”
“ก็ภูมิใจนะครับเพราะบางทีเรารู้สึกว่าโอเค เราเป็นคนไทย อยู่ในประเทศไทย เราไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ทำผิดกฎหมาย เราจ่ายภาษีตรง แค่นี้เราก็ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว แต่ว่าของผมมันเป็นผู้ชายครับ มันก็เลยมีเขียนเพิ่มไว้ว่าพออายุครบแล้วต้องเป็นทหารนะ”
ไม่แซบให้รู้กันไป เปิดใจโด๊ปอกไก่ใส่น้ำปั่นกินวันละ 4 มื้อ
“คือมันเป็นเรื่องอย่างนี้ครับ ผมเริ่มจับเวตครั้งแรกสุดในชีวิตคือตอนเรียนปี 2 เล่นมาเรื่อยเลย เล่นบ่อย เล่นหนัก แต่เป็นคนแฮปปี้กับการกินมาก จะไม่เคยเห็นผมอ้วน เพราะผมเล่นฟิตเนสตลอด แต่ว่ามันก็จะไม่ได้เป็นทรงที่ดีที่สุด เพราะว่าไม่คุมอาหาร ก็ไปคุยกับพี่เทรนเนอร์เขาก็บอกว่าเอี๊ยงเล่นมานานแล้วเสียดายไม่มีถ่ายรูปเจ๋ง ๆ สักที”
“แล้วก็จะบวชก็เลยกลับไปนั่งคิดคืนหนึ่ง พี่ที่นิตยสารก็มาหาหลายทีแล้วว่าอยากให้เอี๊ยงมาถ่ายให้ แต่ผมก็บอกพี่เขาไปว่าผมขี้เกียจไดเอต แต่วันนั้นพอได้ฟังพี่เทรนเนอร์พูดก็เลยคิดว่าเอาวะ เอาซักที เพราะไม่งั้นก็เดี๋ยวบวช เดี๋ยวเป็นทหาร กล้ามเนื้อมันก็คงหายไปเหมือนกัน ก็เลยเล่นหนักขึ้น คุมอาหารมากขึ้น พีกสุดคือ ทำเหมือนนักกล้าม เอาอกไก่ใส่น้ำแข็ง ใส่น้ำแล้วปั่นกินวันละ 3 - 4 มื้อ มันก็เป็นจุดที่ทำให้เรารู้สึกว่าการที่ฟิตเนส หรือการทำหุ่นดีมันไม่ได้ยากเลย ซึ่งเราก็ภูมิใจว่าเราก็ทำได้เหมือนกัน คนอื่นมีเราก็มี”
“ถามว่าโป๊มั้ยใช้คำว่าเซ็กซีดีกว่า เดี๋ยวแม่ฟังแล้วจะตกใจ (ยิ้ม) ก็เซ็กซีที่สุดแล้วครับ ก็ไม่เคยถอดเสื้อลงนิตยสาร ปกติก็จะใส่เสื้อ งานนี้ก็ถือเป็นงานเปลี่ยนลุกส์เราด้วย เพราะคนก็ติดภาพเราบอยแบนด์ เข้าวงการตั้งแต่ยังวัยรุ่นอยู่ คนก็จะมองเราเด็กตลอดเวลา แต่จริง ๆ ปีนี้ก็ 25 แล้ว (ยิ้ม)”
ยันไม่มียัดไส้ ลิมิตถ่ายหวิวต้องให้แม่รับได้ เห็นแล้วไม่ตกใจ
“ไม่มีเลย (ยิ้ม) ไม่รู้ว่าเขาพอใจแล้ว หรือว่าเขาไม่ได้โฟกัสตรงนั้นก็ไม่รู้ (ยิ้ม) ถอดหมดไม่มีครับ โหดไป (ยิ้ม) อย่างที่ผมเคยให้สัมภาษณ์ไปตอนก่อน ๆ ว่า ลิมิตที่ผมถ่ายก็คือให้แม่ผมรับได้ เห็นแล้วไม่ตกใจ อันนี้ผมโอเค เพราะว่าแม่ผมจะต้องส่งไลน์ไปให้ญาติ บางทีแล้วมันก็ส่งผลกระตบต่อคนใกล้ตัวเหมือนกัน เราก็เซฟตัวเองว่าแบบนี้แม่โอเคก็โอเค ถ้ามากกว่านี้ก็ไม่ได้แล้ว”
