“พีค ภัทรศยา” ดีใจผู้ใหญ่ให้เกียรติจัดแถลงข่าวเปิดตัว รับเซ็นสัญญา 3 ปีไม่รู้ค่าตัวสูงกว่านักแสดงคนอื่น บอกในส่วนของตนถือว่าเหมาะสม โต้น้อยใจ GDH เหตุไม่ป้อนงานให้
จากกรณีที่มีกระแสว่า “พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ” เข้ามาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 7 ประเดิมเล่นละครกับค่ายดีด้าเรื่อง “โซ่เสน่หา” อีกทั้งเมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามเรื่องนี้กับสาวพีค เจ้าตัวเผยอยากรอผู้ใหญ่เป็นคนออกมาชี้แจงเอง
ล่าสุด วันนี้ (11 ก.ค.) ค่ายดีด้าถึงขั้นจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสาวพีคอย่างเป็นทางการ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลลาดพร้าว โดยมีพระเอก “พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” ร่วมแถลงข่าวในฐานะพระเอกละครเรื่องดังกล่าว ซึงถือว่าไม่ค่อยมีแบบนี้ให้เห็นกันบ่อยๆ โดยพีคเปิดใจว่าขอบคุณผู้ใหญ่ที่ให้เกียรติ
“ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับช่อง 7 เป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากรู้สึกว่าสนุกกับการทำงานละคร และอยากทำให้ต่อเนื่อง ส่วนงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่งานละคร สามารถรับได้แต่ต้องปรึกษาผู้ใหญ่ก่อน ถามว่าข้อเสนอเรื่องค่าตัวสูงกว่านักแสดงท่านอื่นหรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด แต่ก็ถือว่าเหมาะสมสำหรับตนเองแล้ว และวันนี้ก็รู้สึกดีใจที่ช่องให้เกียรติโดยการจัดแถลงข่าว ซึ่งตนเองก็ตั้งใจว่าจะทำงานให้เต็มที่และดีที่สุดเช่นกัน”
“จากนี้คงต้องเวิร์กชอปการแสดงมากขึ้น เพราะบทที่ได้รับก็เป็นบทโตขึ้นเหมือนกัน ดีใจนักแสดงและทีมงานให้การต้อนรับดี ได้มีโอกาสร่วมงานกับผู้ใหญ่ในวงการหลาย ๆ คน แต่ก็ต้องทำการบ้านหนักขึ้นเช่นกัน เนื่องจากบทที่ได้รับก็โตขึ้นกว่าเดิม”
“สำหรับไดอารี่ตุ๊ดซี่สามารถกลับไปเล่นซีซันต่อไปได้เหมือนเดิม ได้มีการพูดคุยทุกอย่างชัดเจนแล้ว แต่งานละครอื่น ๆ รับได้แค่เฉพาะช่อง 7 เท่านั้น ส่วนงานภาพยนตร์ งานอีเวนต์ ทางช่องไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ต้องปรึกษาก่อนที่จะรับงานนั้น ๆ”
รับปรึกษา GDH แล้ว ผู้ใหญ่สนับสนุน ปัดน้อยใจที่เก่าไม่ป้อนงานให้
“ก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญากับช่อง 7 ก็ได้มีการปรึกษากับผู้ใหญ่ทาง GDH แล้ว ซึ่งทุกท่านก็ยินดีไม่ได้ว่าอะไร ท่านสนับสนุนทุกการตัดสินใจของเรา ยืนยันสาเหตุที่เซ็นสัญญาไม่เกี่ยวกับที่เก่าไม่ป้อนงานให้เหมือนเมื่อก่อน เพราะที่ผ่านมา ก็ได้ร่วมงานมาตลอดอยู่แล้ว และเราก็ยังเป็นครอบครัวเดียวกันดูแลกันเหมือนเดิม อีกอย่างที่นั่นเขาดูแลกันเป็นสัญญาใจมาตลอด แต่พอดีช่วงนี้เราอยากเล่นละครจริงจัง และก็อยากทำงานแสดงให้เต็มที่ ก็เลยรู้สึกว่าที่นี่น่าจะสนุกและก็เป็นโอกาสดีสำหรับตนเองเช่นกัน เนื่องจากเราก็ได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ”
“ตอนนี้คุณพ่อเป็นคนดูแลคิวให้ ส่วน พี่บอย (ผู้จัดการส่วนตัวโทนี่ รากแก่น) เป็นผู้ใหญ่ที่รู้จักมาตั้งแต่ 10 ปีก่อน ดังนั้น ถ้าหากมีอะไรสงสัย หรืออยากปรึกษาก็สามารถพูดคุยกันได้ สุดท้ายก็ตั้งใจว่าจะทำทุกงานให้เต็มที่ และก็จะถือโอกาสพัฒนาตัวเองทางด้านการแสดง จะทำทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด”