xs
xsm
sm
md
lg

“เต๋อ” อึ้งรับประทาน! ใส่หมวกไหมพรมอวดไลฟ์สไตล์ เจอถาม “เป็นมะเร็งเหรอ”!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“เต๋อ ฉันทวิชช์” ออกอาการเหวอ หลังโชว์ไลฟ์สไตล์ใส่หมวกไหมพรม เจอทักผมร่วง - ทำคีโม สงสัยเป็นมะเร็ง โต้รีเทิร์น “พีค ภัทรศยา” เผยผูกพัน มีช่วงเวลาความสุขด้วยกันมาเยอะ ไม่จำเป็นต้องตัดจากชีวิต สเตตัสไม่มีคำนิยาม ยกเป็นกัลยาณมิตร

ทำเอาพระเอกอารมณ์ดี “เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” ถึงกับขำไม่ออก หลังจากที่อวดไลฟ์สไตล์ใส่หมวกไหมพรม แต่กลับโดนคนทักเกรียวว่าเป็นมะเร็ง ถามอื้ออึงว่าซุ่มไปทำคีโมมาเพราะผมร่วงมาหรือเปล่า งานนี้เจ้าตัวเผยว่า

“การใส่หมวกเป็นสไตล์ช่วงหนึ่งของผมครับ อยากลองใส่หมวกดูครับ มีคนถามเยอะเหมือนกันเป็นอะไรไม่สบายเหรอ ยิ่งเห็นคนทักเยอะผมยิ่งสนุกกับการใส่หมวกให้คนได้เริ่มสังเกต ล่าสุดพี่สู่ขวัญฝากคนมาถามว่าป่วยเหรอ ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นอะไรเลยแค่อยากลองใส่หมวกไหมพรมครับ พอลองได้ใส่แล้วมันก็ร้อนครับ (หัวเราะ)”

“ตอนนี้หมดช่วงสไตล์หมวกไปแล้วครับเลยถอดหมวก อาจจะเปลี่ยนหมวกหรืออาจจะไม่ใส่หมวกเลย ไม่ได้ไปปลูกผมนะครับ แต่คนถามเยอะ ไม่มีอะไรครับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงมาก ๆ ครับ (หัวเราะ) ไม่ได้เป็นไรจริง ๆ บางคนถามว่าผมร่วงรึเปล่า ทำคีโมเหรอ มีคนถามเยอะมากครับ

ปัดนัด “พีค ภัทรศยา” ตัดผม แค่บังเอิญใจตรงกัน
“จริง ๆ วันนั้นบังเอิญน้องพีคไปตัดผมวันเดียวกันพอดี ถามว่าบังเอิญหรือนัด มันก็กึ่ง ๆ ผมเคยบอกน้องพีคว่าวันนี้จะไปตัดผม ซึ่งน้องพีคก็ลืมไปแล้ว แล้ววันนั้นเขาก็บอกพี่ก้องว่าวันนี้จะไปตัดผมนะ ก็เลยเป็นวันเดียวกัน ไม่เชิงนัดแต่บังเอิญรู้แล้วก็ไปวันเดียวกัน”

แรงเชียร์ไม่มีผลทำให้รีเทิร์น บอกชีวิตผูกพัน ผ่านช่วงเวลาความสุขกันมาเยอะ ไม่จำเป็นต้องตัด
“จริง ๆ ก็ไม่ได้ไปไหนด้วยกันบ่อยครับ แต่มีไปไหนมาไหนบ้าง ไม่ได้รีเทิร์นครับผม เรายังไม่มีใครคิดเรื่องรีเทิร์นเลยครับ คือ ตอนนี้มีอะไรทำด้วยกันเยอะ ทั้งธุรกิจ ทำโน่นทำนี่ด้วยกัน และเขาก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีของผม ผมก็เป็นที่ปรึกษาของเขาได้ มันเลยมีการคุยกันเยอะ มันเป็นความรู้สึกที่เราเคยมีความสุขมากกว่า ก็จะมีบ้างที่นึกถึง ผมไม่ได้คิดเรื่องรีเทิร์นเท่าไหร่ครับ”

ส่วนใหญ่มีผลให้รู้สึกว่าก็เคยมีช่วงเวลาที่มีความสุข แต่มันไม่ได้ส่งผลให้เรากลับมารีเทิร์นกันเพราะมันเป็นเรื่องของเวลาด้วย เป็นเรื่องของความพร้อมของแต่ละคนด้วย มันมีปัจจัยหลายอย่าง”

“เราก็ไม่ได้หวานนะ คือแค่เจอกัน ทานข้าวมีบ้างนาน ๆ ที ชีวิตที่ผ่านมามีความผูกพันกันเยอะ เราก็ไม่ได้รู้สึกที่จะอยากตัดมันทิ้งไปหมด บางวันผมก็อยากเจออองฟอง (หลานพีค) อยากเล่นกับอองฟองก็จะถามเขาว่าอยู่มั้ย อาจจะแวะไปหาอองฟอง”

ยกเป็นกัลยาณมิตร สเตตัสไร้นิยาม
ก็มีมาเรื่อย ๆ แต่ว่ามันเป็นความรู้สึกที่ขึ้นมาแล้วก็หายไป ไม่มีคำนิยามไว้กำหนดครับ แต่แฟนไม่ใช่แน่ ๆ ผมก็ไม่ได้ปิดอะไรนะครับ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรใครเข้ามาเท่าไหร่ ไม่ได้รีบด้วยครับเพราะมันไม่ใช่เรื่องสำคัญของชีวิตเท่าไหร่ ก็เปิดครับ เปิดแห้งรอ (หัวเราะ) เปิดคาไว้ลมโปร่งแล้ว ไม่ได้รอใครด้วยครับ”

“คือ ผมรู้สึกว่าผมอยากทำอะไรที่ผมสบายใจ ถ้าวันหนึ่งผมทำสิ่งที่ผมสบายใจแล้วเขาไม่สบายใจแล้วเขาก็บอกผม ผมก็พร้อมที่จะโอเค ก็ได้ครับ แต่ว่าทุกวันนี้เราก็รู้สึกว่าเราอยากมีความสุขกับมันอยู่ เรารู้สึกอะไรก็อยากทำกับสิ่งนั้น บางทีเราเคยมีปัญหาเราก็ปรึกษาเขาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วเขายังสามารถเป็นที่ปรึกษาให้เราได้ มันก็เป็นเรื่องที่ดี เป็นเหมือนกัลยาณมิตรคนหนึ่งที่อยู่กับเรา”
 
ปรึกษาทุกเรื่องยกเว้นเรื่องผู้หญิง ย้ำเป็นเรื่องละเอียดอ่อน 
“ก็ต่างกับตอนเป็นแฟนครับ ก็มีบางเรื่องที่ปรึกษาได้บางเรื่องที่ปรึกษาไม่ได้ (เรื่องสาว ๆ ปรึกษามั้ย?) นั่นแหละครับเรื่องที่ไม่ควรปรึกษา (หัวเราะ) แต่มันก็ไม่มีอะไรให้ปรึกษาอยู่แล้วครับ ถ้าเขามาปรึกษาผมเรื่องชายหนุ่มมันก็รู้สึกแปลกเหมือนกันมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนครับผม



กำลังโหลดความคิดเห็น