ยื้อไม่ไหว! ตลกดัง “ดอน จมูกบาน” เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 17.30 น. ด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ครอบครัวเตรียมเคลื่อนย้ายศพในวันพรุ่งนี้
ข่าวร้ายวงการตลกเมืองไทย ล่าสุด ตลกอาวุโส “ดอน จมูกบาน” ได้เสียชีวิตแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 17.30 น. วันนี้ (2 ก.ค.) หลังจากยื้อชีวิตจากมัจจุราชมานานหลายปี จากโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัวและแฟนคลับ
สำหรับประวัติ “ดอน จมูกบาน” หรือ “นายเล็ก เพียรเกตวิทย์” อายุ 69 ปี เป็นลูกชาวนา จ.นครสวรรค์ มีความฝันอยากเป็นนักร้อง แต่เพราะร้องเพลงไม่ได้เรื่อง ทำให้เบี่ยงเบนอาชีพ ฝึกพูด ฝึกเสียง กลายเป็นพิธีกรประจำวงดนตรีท้องถิ่น และได้เป็นโฆษกประกาศวงดนตรี ต่อมาวงดนตรี “ประจวบ จำปาทอง” ได้มาปักหลักนครสวรรค์ ดอนไปสมัครงาน และได้มีโอกาสลองเล่นตลกและเลียนเสียง “ธง บูลา” ชีวิตหักเหตกอับอยู่นาน แต่ในที่สุดก็สามารถแจ้งเกิดเป็นตลกคิวทองร่วมเป็นหนึ่งในคณะเด๋อ ดู๋ดี๋ ดอน แดง ซึ่งทำให้ดอนโด่งดังเป็นที่รู้จัก จนสามารถตั้งคณะตลกของตัวเองในชื่อซุปเปอร์โจ๊ก มีสมาชิกคือ ดี๋ ดอกมะดัน, สีเทา, จุ๋มจิ๋ม เข็มเล็ก ก่อนเกิดปัญหาภายใน ดอนตัดสินใจลาออก ตั้งชื่อคณะใหม่ว่า “ซูเปอร์ดอน” พร้อมปลุกปั้นดาวตลกดวงใหม่ “น้องทราย คุณแม่ขอร้อง” นอกจากนี้ ยังออกเทปตลกชื่อตลาดหัวเราะ จำนวนหลายชุด ลุยธุรกิจน้ำพริก และยังทำค่ายมวยชื่อซุปเปอร์ดอน
กระทั่งเมื่อปี 53 แฟน ๆ ก็ช็อกเมื่อทราบข่าวร้ายว่า ดอนเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย โดยเริ่มแรกเจ้าตัวรู้สึกว่าน้ำหนักตัวลดลงผิดปกติ ใช้เวลารักษาตัวนาน อาการทรุดหลายครั้ง ต่อมาแฟน ๆ ใจชื้นขึ้นหลังจากในปี 58 เจ้าตัวออกมาเผยกลางรายการคนดังนั่งเคลียร์ ว่า สามารถพิชิตมะเร็งได้สำเร็จ รอดตายปาฏิหาริย์ เชื่อเป็นเพราะความดี ทั้งที่ไม่ต้องทำคีโม กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตลกดังมีอาการทรุดลงอีกครั้ง และเมื่อวันที่ 31 พ.ค. คนในวงการตลกได้โพสต์ภาพดอนเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ พร้อมข้อความดอนมีอาการทรุดหนักจากมะเร็งตับระยะสุดท้าย และต้องการเลือดกรุ๊ปโอด่วน
ต่อมาอาการตลกดังดีขึ้น สามารถพูดได้ อัดคลิปขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ แต่อาการกลับไปทรุดหนักอีกครั้งจนน่าเป็นห่วง ถึงขั้นจำลูกชายไม่ได้ ด้านลูกชายเพิ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยเผยว่าพ่อกลับมาพูดได้ แต่พูดได้ไม่เยอะมาก ตนได้มีการพลิกตัวทำแผลตรงก้น พ่อพูดว่าเจ็บนะ แล้วก็เรียกชื่อโจ ซึ่งเป็นชื่อของตน พอตนถามว่าจำตนได้หรือไม่ อีกฝ่ายก็พยักหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี แต่สุดท้ายก็มาเสียชีวิตในวันนี้
ทั้งนี้ ญาติเตรียมทำพิธีเคลื่อนย้ายศพไปวัดหลวงพ่อโตในวันพรุ่งนี้