อึ้ง! “นานา” เปิดใจชีวิตคู่ “เวย์ ไทเทเนี่ยม” มีปัญหา เผยทุ่มเวลาให้ลูก จนไม่มีเวลาให้กัน เชื่อจะผ่านไปได้เพราะความรักที่มี บอกวันนี้เรายังอยากจะรักกันอยู่!! รู้ปัญหา “วุ้นเส้น - ชาคริต” เผยรักทั้งคู่ ขอสู้ไปกับเพื่อน เชื่อ “เจนี่” รับมือ “บุ๋ม ปนัดดา” ได้
สงสัยพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกแก๊งนางฟ้า หลัง “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กำลังเจอดราม่าลูกโต “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” ออกมาโวยถูกแย่งที่จอดรถลูกค้าหลังเช่าที่เปิดฟิตเนส จนวันนี้ออกมาเปิดใจน้ำตาแตกด้วยความเครียด ด้าน “วุ้นเส้น วิริฒิพา แย้มนาม” ก็มีกระแสว่าแยกอยู่กับ “ชาคริต แย้มนาม”
ล่าสุด “นานา ไรบีนา” ออกมาเปิดใจเรื่องปัญหาชีวิตคู่ที่กำลังสะดุด หลังเจ้าตัวโพสต์ดราม่าในอินสตาแกรม “ชีวิตคู่ไม่ง่าย” ซึ่งนานาเผยว่าทุ่มเทเวลาดูแลลูกจนไม่มีเวลาให้ “เวย์ ไทเทเนี่ยม” หรือ “ปริญญา อินทชัย” แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ เพราะความรักที่มี และยังอยากจะรักกันอยู่
“ที่โพสต์ไปก็เป็นเรื่องจริงอ่ะเนอะ นานาเชื่อว่าชีวิตคู่ทุกชีวิตคู่ต้องผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ มีทุกข์มีสุข ช่วงหลังเราก็พยายามเพราะมันก็ปีที่ 8 แล้ว เราพยายามที่จะใช้เวลาอยู่ด้วยกันเยอะขึ้น มีช่วงหนึ่งบางทีเราก็ห่างหายกันไป เพราะต่างคนต่างก็ทำงาน แล้วก็เอาเวลาส่วนใหญ่ทุ่มให้กับลูก ทำให้ไม่มีเวลาของเรากันเอง เวย์เขาก็เลยออกกฎว่าทุกอาทิตย์เราต้องออกไปกินข้าวกัน นั่งคุยกัน เราเชื่อว่าเราจะต้องมีเวลาของเรา เซ็ตเลยว่ามันจะต้องมีเกิดขึ้น ก็ดีเหมือนกัน คือเราอาจจะไม่ได้ถูกใจกันที่สุดแต่เราหันมามองกัน เลือกมองในสิ่งที่ดีที่สุดของกันและกันดีกว่า”
เชื่อจะผ่านไปได้ด้วยรักที่มี บอกวันนี้เรายังอยากจะรักกันอยู่!!
“ปัญหามีทุกคู่ค่ะ นานาเชื่อว่าปัญหามันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรขนาดนั้น นานาเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้เพราะความรักที่เรามี เรายังอยากจะรักกัน คือด้วยเราทำงานด้วยกันเพราะฉะนั้นเรื่องที่เราจะมีปัญหากันก็คือเรื่องงานเสียส่วนใหญ่ เถียงกันบ้างอะไรกันบ้างเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่แต่บางทีพอเราไม่ได้มีเวลาคุยกันมันก็อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ บางทีเพราะเราได้คุยกันมันกลับกลายเป็นเรื่องโจ๊ก เป็นเรื่องสนุกไป”
“ตอนนี้ก็พยายามทำให้ชิน มีเวลาให้กันเยอะ ๆ คือเราอยู่กับลูกทุกวันจริง ๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จะแยกกันก็เฉพาะถ่ายรายการ จนถึงเขานอน เวลาเขาไปเรียนอะไรเราก็ไปกับเขาตลอด กับพ่อเขาจะไปทำงาน พอบ่ายๆ พ่อเขาว่างหน่อยก็จะต้องพาเขาไปหาพ่อ เวลาของทั้งคู่ก็ลงไปที่ลูกหมด บางครั้งมันก็มีลืมว่ามันต้องมีเวลาของเราด้วย”
ให้กำลังใจ “เจนี่” เชื่อรับมือ “บุ๋ม ปนัดดา” ได้ บอกตนก็เช่าที่เจนี่แต่ไม่มีปัญหา
“ให้กำลังใจอย่างเดียวเลยค่ะ เวลานานามีปัญหาเจนี่ก็ให้กำลังใจ เจนี่มีปัญหานานาก็ให้กำลังใจแค่นั้นเองเป็นสิ่งที่นานาทำได้ นานาไม่ขอลงดีเทล มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน ตรงนี้ไม่ว่าเขาจะมีปัญหาอะไรก็ตาม นานามองว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้มีทุกคนแหละ เราเป็นเพื่อนก็ให้กำลังใจเขา อยู่ด้วยกัน หัวเราะเฮฮาทานข้าวก็ว่ากันไป เจนี่เองเขาก็โตขึ้นเยอะ คิดว่าเขารับมือได้ ตัวนานาเองก็เช่าพื้นที่เขาด้วย ส่วนตัวนานาทุกอย่างก็ปกติดีไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“อันนี้คงต้องถามเจ้าทุกข์เขานะว่าเขายังไง จะถามนานาคนเดียวคงไม่ได้ ตัวนานาไม่มีปัญหาก็ตอบในส่วนของนานา ส่วนใครที่มีปัญหานานาว่ามันเป็นเรื่องเซ้นซีทีป นานาขอไม่พูดถึงดีกว่า ขอไม่ลงดีเทล ให้เป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายได้เจรจากันเองดีกว่า ของนานาไม่มีปัญหา”
ไม่โกหก “วุ้นเส้น-ชาคริต” มีปัญหากัน เชื่อทั้งคู่รักกัน ต้องผ่านทุกอย่างด้วยกันไปได้ ให้กำลังใจด้วยการกอด
“ไม่มีอะไรเลยค่ะ กับวุ้นเราเจอกันเกือบทุกวัน นานาว่าเหมือนกันทุกชีวิตคู่มันต้องมีสิ่งต่าง ๆ ที่จะต้องผ่านด้วยกันไป เราเป็นเพื่อนก็ให้กำลังใจ ยิ้มให้เพื่อน ปลอบใจเพื่อน สู้ไปด้วยกันกับเพื่อน นานาเชื่อว่าทั้งคู่รักกัน ทุกอย่างจะต้องผ่านไปได้ด้วยดี”
“จะบอกว่าไม่ทราบก็จะหาว่าโกหก แล้วนานาไม่ชอบพูดโกหกก็จะบอกว่าเราทำได้อย่างเดียวคือรับฟังและให้กำลังใจ ดีเทลใครก็ดีเทลคนนั้นเราให้เกียรติเพื่อน เราจะรักษาความเป็นส่วนตัวของเพื่อน นานาตอบได้แค่ว่านานาอยู่ตรงนี้เพื่อนมีปัญหาขออ้อมกอดเรากอดเพื่อน เรารักเพื่อน เรารักทั้งพี่คริตและเรารักทั้งเพื่อนเราฉะนั้นให้กำลังใจ เชื่อว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตที่จะผ่านกันไปไม่ได้”
ยื้อเวลาลูกเข้าโรงเรียน อยากมีเวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด
“3 ขวบกว่ากันแล้ว เดือนหน้าจะเข้าโรงเรียน ไม่ได้เตรียมอะไร ก็เตรียมใจก่อนค่ะ ช่วงนี้เราค่อนข้างเหนื่อยเพราะเราพาเขาไปเรียนนั่นเรียนนี่ค่อนข้างเยอะ คิดว่าถ้าเขาไปโรงเรียนก็จะได้มีที่ที่เขาอยู่นาน ๆ แม่ก็จะได้ไปออกกำลังกายไปทำอย่างอื่นบ้าง ก็คงจะสบายขึ้น แต่ก็คงจะเหงาอยู่ เขาไปเรียนมาเยอะไม่ว่าเขาจะไปเจออะไรคิดว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ห่วงหมดแหละ ก็ได้แต่ให้กำลังใจลูก จะบอกกับลูกเสมอว่าหม่ามี๊เชื่อว่าลูกทำได้ ลูกไปได้”
“เราก็ตื่นเต้นนะ พ่อก็ตื่นเต้น ทุกคนตื่นเต้นกันหมด มันก็ถึงเวลาของเขาแล้ว บางครอบครัวเขาก็พาลูกเข้าโรงเรียนตั้งแต่ 2 ขวบครึ่ง แต่เราก็ลากเวลามา 3 ขวบกว่าเพื่อที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับเขาให้นานที่สุด เราก็เลือกโรงเรียนที่ใกล้บ้าน เป็นโรงเรียนนานาชาติ เราจะผ่านโรงเรียนเกือบทุกวัน ก็จะเล่าให้เขาฟังว่านี่ไงโรงเรียนชื่ออะไร เป็นอะไร เข้าทางไหน หม่ามี๊จะไปรับทางไหน เราก็จะซ้อมกันอยู่ตลอด แต่ไม่รู้ว่าเวลาลงสนามจริงจะเป็นยังไง ก็คิดว่าคงมีงอแงบ้างเพราะเขาไม่เคยอยู่ห่างแม่นาน จะบอกลูกว่าถ้าตอนไหนคิดถึงหม่ามี๊ร้องไห้ได้ลูก แต่เดี๋ยวอีกแป๊บเดียวหม่ามี๊ก็มารับ ช่วงแรก ๆ ก็คงจะต้องรับส่งเองก่อน”