“ดีเจเพชรจ้า” ควงทนายตั้งโต๊ะแถลง ขอโทษโรงงาน เผยติดฉลาก อย. พลาดแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ อ้างสติกเกอร์ตัวเล็กมากจนบกพร่องในการตรวจสอบ ย้ำเคลียร์คู่กรณีแล้ว อีกฝ่ายไม่ติดใจ พ้อไม่สร้างกระแสโปรโมตเวย์โปรตีนด้วยวิธีรุนแรงแบบนี้ รับสะดุ้งขึ้นหน้า 1
หลังจากมีกระแสข่าวออกมาว่า “นายวิเชียร กุศลมโนมัย” หรือ “ดีเจเพชรจ้า” ถูก “นายสมบัติ พลเยี่ยม” กรรมการผู้จัดการบริษัท เพน กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตนเองในข้อหาสวมทะเบียน อย. อาหารเสริม ที่ สน.ลุมพินี ล่าสุด วันนี้ (13 มิ.ย.) ดีเจเพชรจ้าได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว พร้อมกับ “นายพิสุทธิ์ รักวงษ์” ทนายความส่วนตัว ในรายการปากโป้ง สตูดิโอช่อง 8 อาร์เอส ลาดพร้าว 15 โดยดีเจดังเผยว่าเคลียร์แล้ว ล่าสุดโรงงานไม่ติดใจ ขอโทษติดสติกเกอร์พลาด
“ก่อนอื่นเลยขอพูดถึงเรื่องข่าวที่ออกมา ซึ่งวันนี้ด้านขวาของผมคือคุณพิสุทธิ์ทนายของผม วันนี้มาพูดเกี่ยวกับดราม่าเวย์ โปรตีน ส่วนตัวของผมเป็นคนที่บริโภคเวย์โปรตีนมามากกว่า 20 ปีแล้ว เป็นแฟนพันธุ์แท้ของเวย์อเมริกา เรารู้สึกว่าเวย์ที่เราซื้ออยู่ในราคาที่ค่อนข้างสูง ตั้งแต่เริ่มกิน 20 กว่าปีที่ผ่านมา เรามีความตั้งใจจะนำเข้าผลิตภัณฑ์แบบนี้เข้ามาขายในไทยในราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนมาถึงวันนี้เราเริ่มมีพลังแล้ว เราเลยสร้างแบรนด์นำเวย์จากอเมริกา นำเข้าเป็นของตัวเอง โดยขายในราคาที่ถูกที่สุด หลายฝ่ายเตือนผมมาว่าขายแบบนี้มันเป็นการตัดราคา ทำให้มีคนหมั่นไส้ เดี๋ยวคนจะไม่ชอบเอา แต่ผมมองแล้วว่ามันแพงไปสำหรับคนไทยจริงๆ เราอยากให้คนไทยได้กินของดี ๆ คุณภาพระดับโลกในราคาถูก”
“มาถึงเรื่องที่เป็นดราม่ากัน มีผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ 4 ฝ่ายด้วยกัน ฝ่ายแรกคือ ตัวผมเอง (whey wwl ดับบลิวดับบลิว แอล วูฟเวอร์ลีน) ที่ตกเป็นข่าว ฝ่ายที่ 2 คือ เอพี ทริปเปิ้ลพลัส เป็นตัวแทนของโรงงาน หรือจะเลือกว่าเป็นนายหน้าก็ได้ ฝ่ายที่ 3 คือคนที่ไปแจ้งความ คือ บริษัท เพนกรุ๊ป เป็นโรงงานที่ผลิตสินค้าให้กับเรา ฝ่ายที่ 4 คือ บริษัท สยาม แคนนารี่ เป็นอีกหนึ่งโรงงานที่ผลิตสินค้าให้”
“หลายคนสงสัยทำไมต้องมีหลายโรงงาน ด้วยสินค้าของผมเปิดตัวมา 3 เดือน ซึ่งยอดสั่งค่อนข้างมีเยอะมากจึงไม่สามารถผลิตกับโรงงานเพียงโรงงานเดียวได้ เราก็เลยเพิ่มโรงงาน เพิ่มฝ่ายผลิต เราก็เลยมีทั้งหมด 5 โรงงานในการผลิต บริษัท เอพีฯ ก็ได้เข้ามาคุยกับผมว่าเราจะผลิตด้วยกัน เราก็เลยให้ทางเพน กรุ๊ป เตรียม อย. ไว้ให้เรา ในขณะที่สินค้าของผมก็ยังขายอยู่ โดยผลิตจากบริษัท สยาม แคนนารี่ พอผลิตเสร็จก็ส่งให้ เอพีฯ เพราะเอพีฯ เป็นตัวแทน ซึ่งเขาดีลกับเอพีฯ และสยาม แคนนารี่ ตัวแทนคนนี้มีหน้าที่ขอจด อย. เป็นตัวกลางส่งของให้ โดยขอ อย.จดในนามของโรงงาน ฉะนั้น บริษัท สยาม แคนนารี่ ที่ผมผลิตอยู่ เขาก็มี อย. ของเขาอยู่แล้ว”
น้อมรับบริษัทตนบกพร่องในการตรวจสอบ เผยพลาดติดฉลาก อย. แค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
“แต่ปรากฏว่าเกิดความผิดพลาด ทางบริษัท เอพีฯ ในการติดฉลาก อย. เขาติดฉลากผิด ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าทั้งหมด ด้วยความที่เขาดีลกับ 2 บริษัท เขาดันเอาเลข อย. อีกบริษัทมาติดในผลิตภัณฑ์ของผม ตัวผมเป็นฝ่ายจัดจำหน่ายก็อาจจะบกพร่องในเรื่องของการตรวจสอบ ด้วยความที่สินค้ามีจำนวนเยอะและสติ๊กเกอร์ก็ตัวเล็กมาก ปรากฏว่า เพน กรุ๊ป ไปเดินห้าง แล้วลองดูสินค้า เขาก็แปลกใจว่าสินค้าเวย์ของเราเป็นเลข อย.เขาคุยกันแล้วแต่ยังไม่มีออเดอร์มา เขาก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เลยไปแจ้งความ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสินค้า เขาไม่เกี่ยวข้อง เพราะเขาไม่อยากเสี่ยง หากมีอะไรเกิดขึ้นกับสินค้า”
“พอไปแจ้งความปั๊บก็กลายเป็นข่าว ผมเลยตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเลยโทร.หาที่เพน กรุ๊ป และ โทร.หาที่เอพีฯ และ โทร.หาทุกฝ่าย เรามานั่งคุยกัน เพน กรุ๊ป ตอนแรกคิดว่าเราสร้างสินค้าตัวหนึ่งขึ้นมาโดยที่ไม่มี อย. แล้วแอบอ้างเอา อย.ของเขาไปสวม พอมานั่งคุยกันกลับกลายเป็นว่าเป็นเรื่องของการติดสติ๊กเกอร์ที่ผิดพลาด สินค้าของเรามี อย. จริง พอเข้ามาคุยกันแล้ว มีคุณสมบัติ (เจ้าของโรงงานเพนกรุ๊ป) ที่ได้มอบอำนาจให้กรรมการอีกท่านหนึ่งมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมว่าไม่ติดใจใด ๆ กับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งในคดีแพ่ง และอาญา”
“เป็นการเข้าใจกันผิดพลาด ตัวผมเองและบริษัท เพน กรุ๊ป ที่เป็นข่าว เราก็เป็นพันธมิตรที่ดี ยังทำธุรกิจด้วยกันต่อ ไม่มีการทะเลาะใด ๆ กัน ทั้งหมดเกิดจากการเข้าใจผิดกัน แต่ข่าวที่ออกไปมันค่อนข้างแรง แต่ผมมีความเข้าใจดี ผมมั่นใจในคุณภาพของผมว่ามีคุณภาพระดับโลก ถ้าไม่เห็นผล ซื้อไป 2 พันกว่าบาท ผมยินดีคืนเงิน ถังละ 5 พันบาท ผมมั่นใจในสินค้าของผมจริง ๆ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทำไมถึงไม่มีการคุยกันก่อนไปแจ้งความ นายวิเชียร เผยว่า ตนไม่เคยติดต่อกับเขา เขาเองเหมือนมีตัวแทนของเขา ตัวแทนก็มาคุยกับตน
เพชรจ้า : “จริง ๆ แล้ว เอพีฯ เป็นตัวแทนของทั้ง 2 โรงงาน พอเราออเดอร์กับบริษัท สรุปคือ เขารู้จักกัน ที่เขาไปแจ้งความอาจเป็นเรื่องของการดักไว้ก่อน เขาไปเห็นสินค้าที่เป็น อย. เขา แล้วก็ตกใจเลยไปแจ้งความ เผื่อเกิดอะไรขึ้น เป็นการป้องกันตัวเขาเองไว้ก่อน”
ทนาย : “เหตุการณ์ที่มันเกิดความบกพร่องทั้งหมด บริษัท เอพีฯ ได้ร่างหนังสือขอขมากับทุกฝ่าย และจะพยายามตรวจสอบให้มันดีขึ้น ทุกอย่างก็เลยจบด้วยดี”
ขอโทษตรวจตราไม่ละเอียดพอ ต่อไประวังตัวเพิ่มเป็น 2 เท่า
“อีกประเด็นหนึ่ง ก็คือ เขาได้ตกลงกับเอเจนซี่ของผม ว่าตกลงจะผลิตด้วยกัน ซึ่งผมเอง ผลิตกับ สยาม แคนทารี่ และโรงงานอีกหลายโรงงานมาเป็นระยะหนึ่งแล้ว แล้วบังเอิญว่าเขาไปเห็นถังของแคนทารี่ที่มี อย. เขา เขาก็ตกใจ ถังที่ออกมา มันมีจำนวนแค่ 20 กว่าถังเท่านั้นเอง ต้องบอกว่าผลิตภัณฑ์ของผมมีหลายสเปก แต่ละสเปก หลายรสชาติ มี อย. ที่แตกต่างกันไป แต่ละสเปคแต่ละโรงงานก็รับผิดชอบแตกต่างกันไป ที่เกิดการผิดพลาดของการติดสติกเกอร์”
“ผมในฐานะผู้จัดจำหน่าย อยากจะขอโทษจริง ๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ที่เราตรวจตราไม่ละเอียดพอก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ สติ๊กเกอร์มันเล็กจริง ๆ ครั้งต่อไปจะตรวจสอบให้ละเอียดมากกว่านี้ แต่เอาจริง ๆ ความผิดไม่ได้มาจากที่ผมเลย มันอยู่ที่โรงงาน เราเป็นคนสั่งออเดอร์ ในใบสัญญา ระบุไว้ชัดเจนอยู่แล้วว่าเขาจะเป็นคนดูแล แพ็กเกจ หมายเลข อย. แล้วถึงจะจัดส่งมาทางผม ผมมีหน้าที่แค่จัดจำหน่ายแค่นั้นเอง แต่พอเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เราก็จะให้ความระมัดระวังมากขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”
โอดไม่ใช้วิธีโปรโมตสินค้ารุนแรงแบบนี้ บอกไม่อยากเอาตนเข้าไปเสี่ยง โชคดีอีกฝ่ายไม่ติดใจ
เพชรจ้า : “ถามว่ากระทบมั้ยก็อาจจะมีสะดุ้งบ้าง เลยต้องกราบเรียนชี้แจงแก้ไขในวันนี้ บางกระแสก็ว่าผมโปรโมตสินค้าหรือไม่ มันจะไปโปรโมตอะไรรุนแรงขนาดนั้น ผมว่าเราไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองมาเสี่ยงกับอะไรที่รุนแรงขนาดนี้ มันเป็นผลเสียมากกว่า ผมไม่ถนัดสายดาร์กแบบนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าใครจะมองแบบนั้นก็แล้วแต่จะคิดเลย แต่เอาจริง ๆ ใครจะกล้าเอาตัวเองมาเสี่ยงกันขนาดนี้ ลงหน้า 1 ใหญ่โตเหมือนเกิดอะไรขึ้น”
ทนาย : “วันนี้ก็อยู่ในระหว่างที่ บริษัท เพน กรุ๊ป ดำเนินการแก้ไขกับพนักงานสอบสวน แต่เมื่อวานทางกรรมการอีกท่านหนึ่งของ บริษัท เพน กรุ๊ป ก็ได้ไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงหลังพูดคุยกันแล้ว โดยเขาก็ระบุว่าไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีครับ ซึ่ง ณ ตอนนี้ผมเชื่อมั่นว่าทุกอย่างก็คงคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีแน่นอน”
Close
