xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ “โตโน่” เลี้ยงกุมาร “พี่โดด-พี่โด่ง” เอาไว้คุ้มครองเผื่อฟ้าผ่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“โตโน่ ภาคิน” เขินถ่ายเซ็กซี่ ย้ำไม่ถอดล่าง ไม่ถ่ายชุดว่ายน้ำ ไม่หวั่นคนโฟกัสหัวนม บอกถอดกางเกงโยนให้แฟนคลับกลางคอนเสิร์ต เพราะอารมณ์พาไป เปิดใจรับช่วงเลี้ยงกุมารต่อจาก “พ่อ” รับคนใกล้ตัวเคยเห็น ส่วนตนรู้สึกอุ่นใจ ย้ำไม่เชื่ออย่าลบหลู่



เห็นถอดเสื้อเวลาเล่นคอนเสิร์ตอยู่บ่อย ๆ กลัวจะฟินกันไม่ทั่วถึง ล่าสุด หนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” เลยจัดหนัก ฟิตหุ่นโชว์ซิกแพ็กจัดเต็มให้กับนิตยสารฉบับหนึ่งซะเลย งานนี้เจ้าตัวเผยว่าแค่ถอดเสื้อก็เขินมากแล้ว ฉะนั้น ไม่มีทางได้เห็นตนถ่ายชุดว่ายน้ำแน่นอน

“ขอบคุณมากครับ นาน ๆ ทีเราจะถ่ายก็กระแสตอบรับดีครับ ขอบคุณทุกคน (ยิ้ม) ซิกแพ็กเหรอ อันนั้นเป็นสิ่งที่เราจะต้องรับผิดชอบ คือ เราไม่ได้ต้องการให้มีกล้ามโตอะไรนะ มันเป็นกล้ามตามธรรมชาติเราที่มันต้องมีเพราะงาน เราทำงานหนัก ขึ้นคอนเสิร์ตครั้งหนึ่งเล่นชั่วโมงกว่า แล้วเราเล่นเพลงร็อกถ้าไม่แข็งแรงเราก็ยืนระยะไม่ไหว ร่างกายมันก็ต้องพร้อมครับ ก็ดี ก็ดีที่ได้มาถ่ายหนังสือด้วย (ยิ้ม) แต่จริงๆ มันก็มีอยู่แล้วนะ เราออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็กมันก็มีของมันอยู่แล้ว แต่เพียงแค่งานหนักเวลาน้อยลงเราก็ต้องดูแลร่างกายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการกินอาหารหรือวิธีการเล่นที่มันถูกวิธี”

“อันนี้บริษัทรับครับ เอ็กแซ็กท์รับมา ผมก็แค่ถามว่าวันไหนเราจะได้จัดเวลาถูก เพราะงานเราทำทุกวัน ก็แบ่งเวลาให้ดีที่สุดเพื่อถ่ายไปแล้วแฟน ๆ เขาเสียเงินซื้อได้สิ่งที่มันดี ๆ ลิมิตเหรอ ถอดเสื้อพอครับ ไม่ใส่ชุดว่ายน้ำโชว์ ผมไม่ทำครับ มันเขินครับ (หัวเราะ) แค่ถ่ายแบบนี้มันก็เขินมากแล้วนะ และบริษัทเขาดูให้ผมแล้วว่าอะไรมันเกินไป แล้วเขาจะถามผมด้วยไม่ใช่ไม่ถาม”

“คืออย่างกางเกงมวยเราก็โฟกัสว่าเราต่อยมวยใช่มั้ย แต่การที่เราต้องมาถ่ายกางเกงสั้น ๆ แล้วให้เขาถ่ายขอมุมนั้นหน่อยมุมนี้หน่อยขอหล่อ ๆ คือ ไม่ได้กลัวว่าคนจะโฟกัสอย่างอื่นนะ (หัวเราะ) แต่ใจเราไม่ถนัด คือ อย่างเล่นคอนเสิร์ตมันเป็นไปตามเพลง มันมันส์ไปตามดนตรี คนดูกระโดดมันส์กัน มันก็ไม่เกร็งไง แต่อยู่ดี ๆ มีพี่ช่างแต่งหน้า แล้วต้องมาทำท่าตามนายแบบ เอาจริง ๆ มันก็เขินไงครับ (ยิ้ม)”

ใจ ๆ ถอดทุกอย่างแจกแฟนคลับ ไม่เว้นแม้แต่กางเกงกลางคอนเสิร์ต รับหมดของไปไม่น้อย
“ที่เห็นมีถอดกางเกงขาสั้นบนเวที อันนั้นมันเป็นไปตามอารมณ์ วันนั้นที่ผมถอดเพราะผมใส่กางเกงออกกำลังกายไว้ข้างในอยู่แล้ว แล้ววันนั้นมันเป็นคอนเสิร์ตที่คนสนุกกันมาก เราก็บอกใครเกิดวันนี้เราให้เสื้อไป แต่พอดีมีคนเกิดวันนี้สองคน คนไม่ได้เสื้อเขาก็ค่อนข้างจะดื่มมาแล้วเขาก็บอกนี้โตโน่ลำเอียง ผมก็เลยบอกว่าโอเคพี่อยากได้อะไรก็บอกมาผมให้ได้ผมก็จะให้ เขาบอกอยากได้กางเกง ผมก็เลยถอดให้ ถ้าวันนั้นมีสามคนเหรอ ก็คงต้องให้ผ้าขนหนูแล้วครับ (หัวเราะ) พอแล้ว มันคงไม่มีใครเกิดเยอะขนาดนั้นหรอกครับ (ยิ้ม)”

“ผมว่าการที่จะถอดเสื้อไม่ถอดเสื้อมันไม่ได้อยู่ที่จะเป็นผมหรอก แต่พอสนุกมันจะทำอะไรก็ได้ เราไม่รู้ใช่มั้ยว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรบ้าง แต่ในวันนั้นเราได้ทำในสิ่งที่เรารัก แล้วคนดูมีความสุขอยู่ เราก็ควรเต็มที่กับมันครับ แต่อารมณ์ตอนถอดกับไม่ถอดมันก็ต่างกันนะ ถอดมันจะสะใจกว่า มันเหมือนเราลดกำแพงลง คือบางครั้งเราไปเล่นคอนเสิร์ต งานแต่ละครั้งมันก็ไม่เหมือนกันใช่มั้ย บางงานคนรวยมาดูซื้อบัตรสองสามพันเขาก็คาดหวัง มันก็มีกำแพงแล้ว ดังนั้นเราต้องลดกำแพง แล้วทำให้เขาเป็นครอบครัวเดียวกับเราให้ได้ คนมาดูคอนเสิร์ตเราต้องมันส์จะมามัวฟอร์มไม่ได้หรอก”

“ก็หมดเสื้อไปเยอะครับ (หัวเราะ) แว่น เสื้อ อะไรให้ได้ก็ให้ ตุ้มหู เป็นของที่เราใช้จริงๆ ก็ดีหน่อยที่เราทำเสื้อวงมา มันก็จะประหยัด สั่งไว้ทีสามร้อยตัวเลย ถอดโยนเเจกเลย ของที่แจกก็ของผมหมดครับ แว่น ตุ้มหู เสื้อ ตุ้มหูคือเล่นเสร็จแล้วมีน้อง ๆ ขอบอกว่าพี่ผมยังไม่ได้เลย ผมก็ถอดให้ อะไรที่ให้ไม่ได้เหรอ เป็นของที่แฟนคลับให้มาครับ ก็จะมีสร้อยคอกับสร้อยข้อมือแขนนี้ มีคนขอมาเราก็ถอดให้ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นของเราซื้อเองเราให้ได้ครับ”

“ต้องดูแลผิวเป็นพิเศษมั้ยเหรอ ผมไม่รู้หรอกครับ ผมไม่ได้สนใจว่าหัวนมจะเป็นสีอะไร (หัวเราะ) เราเป็นผู้ชายออกกำลังกาย ครีมก็ไม่ได้ทา ขี่มอเตอร์ไซค์ดำหมด ไม่แน่หรอกเขาอาจจะชอบที่ผมเป็นแบบนี้ก็ได้ ถ้าได้ไปอยู่ในงานแบบนั้นจะรู้เลยว่ามันเป็นอะไรที่สนุก แต่บางคนที่เห็นแต่ภาพนิ่งอาจจะแบบโอ้โห ถอดเสื้อด้วยเหรอ ดูซิมีกล้ามท้องมั้ย กล้ามหน้าอกมั้ย แต่ถ้าได้ไปอยู่ในงานแบบนั้นคงไม่มีใครมาจ้องแต่ซิกแพ็กหรอกครับ มีความสุขทุกคนสนุก”

เผยรับช่วงเลี้ยงกุมาร “พี่โดด - พี่โด่ง” ต่อจากพ่อ บอกถึงไม่เชื่อ แต่ไม่ลบหลู่
“จริง ๆ เราไม่เคยขอโชคอะไรนะ แต่เป็นความเชื่อของคุณพ่อ คุณพ่อบูชามาตั้งแต่เด็ก ก็ถือว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว เลี้ยงมานานแล้วครับ พอคุณพ่อเสียคุณแม่ผมก็ดูแลต่อ มีไปไหนมาไหนกับเรามั้ยก็ไม่รู้ครับ อาจจะอยู่ตรงนี้ก็ได้ (ยิ้ม) แต่ถามว่า เชื่อเรื่องนี้มั้ย ผมก็เฉย ๆ นะ ไม่ได้ไปลบหลู่อะไร ผมเองจะค่อนข้างเชื่อความคิดมากกว่า ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริงเขาเป็นสิ่งที่มีพลังอำนาจดีเขาต้องรู้ว่าคนกำลังทำอะไร ผมก็ค่อนข้างจะเชื่อว่าคิดดีทำดีอะไรมันจะเกิดมันต้องก็เกิดครับ”

“เวลาเห็นเวลาไปไหว้เราก็จะคิดถึงคุณพ่อมากกว่าครับ เพราะคุณพ่อเคยสอนเคยบอกว่าพี่โดดพี่โด่งเป็นใคร เวลาไปไหนผมก็มีเรียกไปบ้างนะ ถ้าเกิดที่ที่ผมไปมันต้องใช้พลังเยอะหน่อย เช่นเวลาที่ผมจะขี่รถไปที่มืด ไม่คุ้นชิน ขี่มอเตอร์ไซค์ไกล ๆ ก็จะคิดเอาไว้ในใจ ทุกวันนี้อากาศมันจะบอกเองแหละว่ามันอันตรายหรือไม่อันตราย เวลามืด ๆ ฟ้าผ่าผมก็จะบอกว่าอยู่กับผมนะ ดูแลผมนะ จริง ๆ อยู่ที่ความเชื่อแหละครับ มันไม่มีใครรู้หรอก ผมว่าอยู่ที่เราศรัทธาแบบไหน ผมไม่ได้งมงายเรื่องพวกนี้นะ แต่ผมไม่ลบหลู่เท่านั้นเองครับ เราผูกพันเพราะพ่อเพราะแม่ครับ แต่จะบอกให้พี่เขาไปขอหวยอะไรผมไม่เชื่อแบบนั้น เขาก็ไม่เคยมาแกล้งเรา แต่มีคนอื่นเคยเห็น”



กำลังโหลดความคิดเห็น