“โอปอล์” เผย “พระโอ๊ค” บวชเงียบ ไม่เกี่ยวแก้บน บอกแค่อยากให้เกิดสิ่งดี ๆ กับครอบครัว ย้ำคงไม่ถามฤกษ์สึก เพราะไม่เหมาะสม ใจชื้นลูกแฝดอาการดีขึ้น หลังเจอเหตุการณ์สุดพีค ป่วยหนักต้องแอดมิดด่วน
เห็นคุณพ่อลูกอ่อนอย่าง “หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล” บวชกะทันหันหลาย ๆ คนเลยคิดเป็นการบวชแก้บนหรือแก้เคล็ดให้กับลูกแฝดทั้งสองคนหรือเปล่า พอได้เจอตัวภรรยาสุดเปรี้ยวอย่าง “โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล” เจ้าตัวเลยเผยว่าเป็นความตั้งใจตั้งแต่ปีที่แล้ว และไม่ใช่เพื่อแก้บนแต่อย่างใด
“จริง ๆ ตั้งแต่เรื่องที่เกิดขึ้นในปีที่แล้ว เรื่องลูก เรื่องปอ เข้าโรงพยาบาล พี่โอ๊คเขาก็ตั้งจิตไว้ว่าถ้าทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีก็ตั้งใจจะบวชค่ะ ตั้งใจจะบวชในปีนี้ เพราะน้องสาวพี่โอ๊คจะคลอดเดือนหน้า ถ้าน้องสาวพี่โอ๊คคลอดก็น่าจะต้องเบรกงานที่คลินิกไป เพราะพี่โอ๊คเปิดคลินิกกับน้องสาว ทีนี้พี่โอ๊คก็ต้องทำงานคลินิกเต็มตัว ก็เหลือเวลาแค่เดือนนี้ก็เลยตัดสินใจบวชเลย และด้วยความที่เป็นพี่โอ๊คและปอ เราไม่ชอบงานอะไรที่เป็นพิธีใหญ่ ก็เลยบวชเงียบ ๆ ในงานก็มีพ่อแม่ ปอ แล้วก็น้องสาวพี่โอ๊ค รวมเพื่อน ๆ แล้วก็ประมาณ 10 คนเท่านั้นเองค่ะ”
“จริง ๆ ตั้งใจบวชตั้งแต่ปีที่แล้ว และพอรู้ว่าน้องพี่โอ๊คจะต้องคลอดเดือนหน้า พี่โอ๊คก็เลยรีบหาวัน ในที่นี้ก็คือฤกษ์สะดวก ลาโรงพยาบาลได้ 2 อาทิตย์ก็เลยบวชค่ะ (ยิ้ม) แต่อันนี้ไม่ใช่บวชแก้บนนะคะ ไม่ใช่แก้เคล็ดด้วย คือ ใจพี่โอ๊คอยากจะบวชอยู่แล้ว เขาแค่รู้สึกว่าเรื่องราวร้าย ๆ ผ่านไปแล้ว หลังจากนี้จะได้มีเรื่องราวดี ๆ สักที บวชให้เหมือนเริ่มต้นใหม่กับชีวิต ไม่ได้กะทันหันค่ะ เราแพลนไว้อยู่แล้วว่าจะบวช”
เผยยังไม่มีฤกษ์สึก แต่ “พระโอ๊ค” ก็ตั้งใจศึกษาธรรมะอย่างจริงจังมาก
“ในส่วนตัวของปอไปทุกวันเลย อุ้มลูกไปทุกวัน ไปถวายเพลบ้าง ไปใส่บาตรบ้าง แล้วเนื่องจากสมัยเรียนหลวงพี่ก็เป็นเด็กเนิร์ด พอบวชเข้าไปแล้วอยู่วัดบวรฯ ก็ต้องเรียนพระธรรมแบบจริงจัง ทำวัดเช้าเสร็จหลวงพี่ก็ต้องไปฉันเพล พอเสร็จก็ต้องเรียนไปถึงทำวัดเย็น แล้วก็เรียนต่อ หลวงพี่ก็จะโฟกัสตรงนั้นมาก คือบวชเพื่อเรียนจริง ๆ ศึกษาพระธรรมจริง ๆ ค่ะ หลวงพี่เคร่ง ตอนเรียนท่านก็เนิร์ด พอบวชท่านก็เลยเป็นพระที่เคร่ง (ยิ้ม) คือ ท่านไม่เคยมีตรงกลางในเรื่องการเรียนอยู่แล้ว และในคณะที่ท่านอยู่ที่วัดบวรฯ ก็ค่อนข้างเคร่ง เราก็จะกรี๊ด ๆ กร๊าด ๆ ไม่ได้”
“เราก็อนุโมทนาบุญมาก เพราะเราก็เป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่ง และความเป็นผู้หญิงเราบวชไม่ได้อยู่แล้ว พอหลวงพี่ตั้งใจจะบวชเราก็ตั้งจิตโมทนาเต็มที่ค่ะ (ยิ้ม) ฤกษ์สึกยังไม่ทราบ เนื่องจากว่าหลวงพี่ท่านเพิ่งบวชได้ 1 อาทิตย์ ครั้นโยมจะไปถามฤกษ์สึกเกรงว่าจะไม่เหมาะ (หัวเราะ) แค่โยมไปทุกวันโยมก็เกรงใจมากแล้วค่ะ (ยิ้ม)”
เผยพีคมาก ลูกป่วยหนักต้องแอดมิดเข้า รพ. บอกต้องดูแลเพราะคลอดก่อนกำหนด ไม่แข็งแรงเท่าเด็กคนอื่น
“ตอนนี้ลูกสาวหายเป็นหวัดแล้วค่ะ แต่เรื่องหัวใจก็ต้องรอทำบอลลูนเดือนกันยายนอยู่ดี ตอนนี้เลี้ยงลูกคนเดียวพีคมากค่ะ หลวงพี่บวชวันอังคาร ปอจำได้ว่าเช้าวันจันทร์น้องอลินไข้ขึ้นตอนตี 4 ผื่นขึ้นเต็มตัวน่ากลัวมากก็ต้องขับรถไปโรงพยาบาล ลูกแอดมิด 1 คืน ปอก็รู้สึกว่าคนไทยเนี่ยก่อนบวชเขาจะไม่ให้ออกนอกบ้าน ก็เลยให้หลวงพี่กลับมาบ้านก่อน แล้วบวชพี่ก็บวชวันอังคาร”
“ปอพาลูกออกจากโรงพยาบาล 8 โมงเช้ารีบขับรถกลับมาบ้าน อาบน้ำแต่งตัวพาหลวงพี่ไปวัดบวรฯ ให้ทันฤกษ์ปลงผม พอบวชเสร็จกลับไปดูลูก ซึ่งก็ต้องจับแยกห้องกับลูกชาย ปอก็นอนกับลูกสาว ประคบประหงมแล้วก็วิ่งไปดูลูกชาย สักพักลูกชายติดเพราะดิฉัน ก็กลายเป็นลูกทั้งสองคนป่วย แม่ก็ต้องตื่นทุกชั่วโมงคอยเช็ดตัวให้ลูก”
“แต่ตอนที่ลูกป่วยไม่ได้บอกหลวงพี่มาก คือ ตอนนี้เป็นกิจของสงฆ์แล้ว เราจะไม่ยุ่งเลย อยากให้ท่านสงบจริง ๆ เพราะท่านมีเวลาแค่ 2 อาทิตย์ แล้วท่านตั้งใจจริง ๆ ที่จะบวช ทางเราก็คิดว่าจัดการได้ เพราะว่ามีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยายอยู่ครบ แต่ก็พีคมาก ปอไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตเราจะมีความทานทนได้ขนาดนี้ ปอนอนไม่เกิน 2 ชั่วโมงมาเป็นอาทิตย์ เพราะเราตั้งนาฬิกาปลุกไว้เพื่อจะวัดไข้ลูก เพราะลูกปอคลอดก่อนกำหนด เขาไม่แข็งแรงเท่าเด็กคนอื่นอยู่แล้ว ถ้าไข้เขาขึ้นสูงมีโอกาสชักได้ เราก็ทนไม่ได้ ต้องตื่นมาวัดไข้ เช็ดตัว ก็ร้องเพลงค่าน้ำนมคลอไปตลอดตอนเช็ดตัวลูก (ยิ้ม) แต่เหนื่อยแค่ไหนพอตื่นมาเห็นหน้าลูกเราก็โอเคค่ะ (ยิ้ม) ตอนนี้ก็ยังไออยู่ค่ะ แต่ก็โอเคแล้ว แค่ไข้ลดเราก็แฮปปี้แล้ว ตอนนี้ความสุขคือแค่อยากนอนเท่านั้นเอง (หัวเราะ)”