“เมฆ” เฮิร์ตเหรอ…ไม่มั้ง! “วีเจจ๋า” ลั่นรักเงียบยิ่งกว่าป่าช้า

“จ๋า ณัฐฐาวีรนุช” แจกใบสมัคร เปิดทางให้หนุ่มเข้ามาจีบ ขอคนจริงจังไม่อยากเสียเวลา บอกเด็กกว่าก็ได้แต่ต้องมีอนาคต พ้อหัวใจเงียบยิ่งกว่าป่าช้า ยิ่งเหงายิ่งแย่ ไม่รู้ “เมฆ จิรกิตติ์” ยังเฮิร์ต เปรยไม่ใช่เรื่องต้องรักต้องลืมเพราะยังไม่เคยคบกัน

หมดลุ้นแบบชัวร์ๆ ทำให้ตอนนี้พระเอกหนุ่ม “เมฆ จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์” ถึงกับซึมเศร้า เปิดใจแบบเหงา ๆ ว่ายังไม่ลืม “จ๋า ณัฐฐาวีรนุช ทองมี” ด้านสาวจ๋าเผยว่าชีวิตต้องไปต่อ ส่วนตนหัวใจเงียบเหงายิ่งกว่าป่าช้า

“หัวใจตอนนี้เงียบสนิทยิ่งกว่าอะไรในโลก ยิ่งกว่าป่าช้า (หัวเราะ) ไม่มีค่ะตอนนี้ (ยิ้ม) ก็เหงาเป็นช่วง ๆ นะ วันไหนที่เหงามากแล้วเพื่อนไม่ว่างก็จะรู้สึกแย่ ก็มีเหมือนกัน แต่จริง ๆ อยู่คนเดียวได้อยู่แล้ว จ๋ามีกิจกรรมทำเยอะเหมือนกัน แต่แค่บางจังหวะที่ทุกคนไม่ว่างพร้อมกัน แล้วเราดันว่างอยู่คนเดียว งานก็ไม่มีวันนั้นก็จะมีเหงาบ้าง (ยิ้ม)”

“ช่วงนี้ไม่ได้คุยับเมฆเลยค่ะ เขาดูเฮิร์ตเหรอ ก็ไม่หรอก ชีวิตมันก็ต้องเดินต่อไป เราก็ให้กำลังใจในสิ่งที่เราทำได้ ชีวิตยังอีกยาวไกลค่ะ (ยิ้ม) เขายังไม่ลืมเหรอ จ๋าว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ต้องรัก ต้องเลิก ต้องลืม เพราะเรายังไม่ได้คบกัน ไม่ได้ทำอะไรที่มันไม่ดีต่อกัน ถ้ามีเรื่องอะไรที่เป็นกำลังใจดีๆ ให้ได้ก็ยังเป็นให้อยู่ค่ะ ยินดีเป็นที่ปรึกษาทุกเรื่องค่ะ (ยิ้ม)”

“จริง ๆ จ๋าไม่ได้กำหนดเรื่องอายุนะ ขอแค่ว่าถ้าแก่กว่าก็แก่ที่สามารถยังเดินด้วยไหว (หัวเราะ) ยังเดินออกไปข้างนอกด้วยกันได้ ถ้าเกิดเด็กกว่าก็เป็นเด็กที่ยังดูแลเราได้ ไม่ใช่เด็กที่ยังไม่มีอนาคต ก็ดูว่าเราเข้ากันได้หรือเปล่าดีกว่า ตอนนี้แจกใบสมัครอยู่นะคะ (หัวเราะ) ก่อนหน้านี้ก็มีเข้ามาจีบบ้างนะคะ แต่เหมือนไม่ใช่คนที่จะมาจีบจริงจัง สักพักก็หายไปเอง ถ้ามาเล่นๆ ก็ไม่ต้องมาค่ะ เสียเวลาค่ะ (หัวเราะ)”

เผยถูกทาบเป็นอาจารย์ประจำแต่ตนยังไม่พร้อม บอกแค่บรรยาย 2 - 3 ชม. ตนยังเครียดต้องซัดพารา
“ตอนนี้มีโอกาสได้ไปพูดตามมหาวิทยาลัยบ้างแล้วค่ะ หลังจากที่เรียนจบมาก็มีคนชวนไปพูดในหัวข้อต่างๆ กันไปค่ะ พูดได้สองอย่าง อย่างแรกคือรัฐศาสตร์ที่เรียนจบมา ก็มีโอกาสได้ไปพูดเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกอย่างที่พูดได้เลยก็คือสื่อสารมวลชนค่ะ (ยิ้ม) ก็เครียดนะ มีครั้งหนึ่งจ๋าไปพูด 3 ชั่วโมง ตอนเบรกครึ่งจ๋าซัดพาราไป 2 เม็ดเลย (หัวเราะ) คือไมเกรนขึ้นเลยทันที เพราะเวลาเราพูดทุกคำเราต้องรับผิดชอบ เพราะสิ่งที่ส่งออกไปมันเป็นความรู้ จะไปตลกกลบเกลื่อนก็ไม่ได้ (หัวเราะ) ก็ต้องทำการบ้านหนักค่ะ ยิ่งถ้าพูดอะไรที่ค่อนข้างเป็นวิชาการจะต้องทำการบ้านเยอะ”

“ก็มีมหาวิทยาลัยติดต่อมาให้เป็นอาจารย์ประจำนะ (ยิ้ม) แต่ว่ายังไม่ได้ตอบรับค่ะ บอกไปว่าเราขอเป็นพิเศษก่อน เนื่องด้วยความรับผิดชอบถ้าเป็นอาจารย์ประจำมันต้องเต็มมาก จ๋าก็ไม่อยากทำอะไรแล้วทำได้ไม่ดีค่ะ ขอฝึกวิชาก่อนให้เรารู้สึกว่ามั่นคง มั่นใจ ขนาดตอนนี้แค่ 2 - 3 ชั่วโมงยังกินพาราเลย (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าค่อย ๆ ดีกว่า และด้วยเวลาของเราด้วย เพราะจ๋าจะต้องมีงานอะไรอีกหลายอย่าง จ๋าอยากทำให้ดีที่สุดทุกอย่างค่ะ”

“ลูกศิษย์ก็น่ารักค่ะ เขายังมองเหมือนกับเราเป็นพี่ เขาก็เลยกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น ก็มีการหยอกล้อกันบ้าง จ๋าก็รู้สึกว่ามันก็ดี ดูไม่เครียดค่ะ ก็ไม่ค่อยแซวนะ แต่พอหลังคลาสก็จะถ่ายรูปเล่นกัน จ๋าก็ไม่ดุนะ ลำพังตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ไม่ดุค่ะ ไม่มีปัญญาดุใคร (หัวเราะ) แต่ถามว่าต้องปรับลุกส์ให้เข้มขึ้นไหม จ๋าก็ไปตามกาลเทศะค่ะ ถ้าเกิดไปพูดตามมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนก็ไปสไตล์เสื้อเชิ้ต สแล็กอะไรก็ว่าไป แต่ด้วยบุคลิกจ๋าคิดว่ามันไม่ต้องปรับ แค่แต่งกายให้ถูกกาลเทศะก็พอ และสิ่งที่เราส่งออกไปให้มันใช่ มันถูกต้องดีกว่า อย่างวันนี้เป็นงานสนุกสนาน อากาศก็ 38 ขนาดนี้ (หัวเราะ) ก็คงไม่เสื้อเชิ้ตมา (ยิ้ม)”