“มิน พีชญา” รอเวลาหิ้วกระเป๋าแอร์เมสจากสิงคโปร์ เผยฝากไว้กับผู้ใหญ่ใจดี ย้ำกล้าซื้อก็กล้าใช้ เป็นความสุขเล็ก ๆ แยกแยะกระแสวิจารณ์ได้ ย้อนให้โชว์ใบเสร็จภาษีเป็นเรื่องสมควรแล้วหรือ ท้าชนดราม่าให้หาหลักฐานมาโชว์หลังถูกระบุว่าตนขนกระเป๋าออกช่องลับ ซัดอย่ากล่าวหากัน
เคลียร์กรณีดราม่าซื้อกระเป๋าแอร์เอส 10 ใบ ผ่านด่านศุลกากรมาได้อย่างไรแต่เรื่องก็ยังไม่จบ เพราะโซเชียลท้าทายให้นางเอกสาว “มิน พีชญา วัฒนามนตรี” งัดใบเสร็จภาษีมาโชว์เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เจอตัวสาวมินที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในงาน Garnier Skin and The City ณ สยามสแควร์ วัน เจ้าตัวขอชี้แจงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง ย้ำกล้าซื้อก็กล้าใช้ และมันสมควรหรือที่ตนต้องโชว์ใบเสร็จภาษี
“ก็อย่างที่มินเรียนไว้ครั้งที่แล้ว ยังเหมือนเดิม แต่ก็คงเร็ว ๆ นี้ล่ะค่ะ เพราะมันก็คือของมีค่า ยังไงก็ต้องรีบเร็วๆ นี้แน่นอนค่ะ ตอนนี้คือมินฝากไว้กับผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ท่านหนึ่ง อยู่ที่สิงคโปร์ค่ะ”
“มันก็อยู่ที่คิวงานค่ะ เพราะจริง ๆ มินอยากกลับไปเอามาเองนะ แต่ว่าถ้ามันไม่ทันจริง ๆ แล้วมันยืดยาวออกไป เราก็กลัวว่ามันจะนานเกินไป ก็สามารถไปได้นะคะก็น่าจะไปเอง แต่ถ้าไม่ได้ก็คงให้พี่เขาหิ้วกลับมาให้”
ย้ำไม่กังวล ทำทุกอย่างถูกต้อง พร้อมเสียภาษีเป็นเรื่องปกติ
“ไม่ได้เตรียมตัวเลยค่ะ เพราะนำเข้ามายังไงเราก็ต้องผ่านอยู่แล้ว ก็ทำตัวปกติ ไม่ได้มีความกังวลหรืออะไรเลย คือเราก็ต้องทำทุกอย่าง อย่างถูกต้อง ของก็มีจำนวนมากจริง ๆ แหละ ครั้งที่แล้วก็ไม่สามารถนำกลับเข้ามาได้จริง ๆ”
“กรมศุลกากรก็ไม่ได้เรียกไปชี้แจงอีกค่ะ แต่ก็มีการตรวจสอบ ซึ่งมินยินดีให้ตรวจสอบได้เต็มที่ และทางเจ้าหน้าที่เขาก็ทำตามระเบียบทุกอย่าง ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งถ้าเกิดนำเข้ามาก็ต้องมีการเสียภาษีเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วค่ะ”
ก่อนซื้อคิดดีแล้ว เป็นเงินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง ลั่นกล้าซื้อต้องกล้าใช้
“ถามว่าจะกล้าใช้มั้ย กล้าสิคะ ถ้ามินเอากลับมามินต้องใช้แน่นอน เพราะว่ามูลค่า ถ้าซื้อมาแล้วไม่ใช้จะซื้อไว้ทำอะไรคะ (หัวเราะ) อีกอย่างไม่ใช่แค่เรื่องมูลค่าด้วย แต่มันคือของหายาก คือเราซื้อมาได้มาในวันเกิด ยังไงเราก็ต้องถือแน่นอน ถ้าเห็นมินโพสต์กับกระเป๋าเมื่อไหร่ก็แสดงว่าเอากลับเข้ามาแล้ว”
“มันก็มีมูลค่าตามเรตของมันนั่นล่ะค่ะ ถามว่าถึงล้านไหม ก็ประมาณหนึ่งเลยค่ะ มินคิดว่าคุ้มค่ะ เพราะว่าจริง ๆ แล้วเรื่องราคามินว่ามันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การได้ของมา มันเป็นอะไรที่ยากกว่า ยากกว่ามากๆ (ยิ้ม) ก่อนซื้อมินคิดดีแล้วค่ะ จริงๆ เราก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คือมันก็เป็นเงินของมินที่มินหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของมิน แล้วมินก็คิดว่ามันก็คงไม่ผิดอะไรหากเราอยากที่จะซื้อของขวัญให้ตัวเอง”
เมินกระแสวิจารณ์ ยึดมั่นสิ่งที่ตัวเองเป็น
“จริง ๆ แล้วมินก็ไม่ได้อ่านเยอะนะคะ เนื่องจากว่ามีหลายเสียง แล้วมินก็ยังต้องทำงานทุกวัน แน่นอนว่ามินคงไม่สามารถฟังทุกคนได้ แต่ถามว่าเราทำดีที่สุดแล้วมั้ย มินก็ยังยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเป็น แต่ถ้าหากสุดท้ายแล้วมันจะมีหลายความเห็น เราก็คงเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ถามว่าบั่นทอนมั้ย มินคิดว่ามันเป็นข้อคิดเห็นนะคะ ซึ่งถ้าเกิดว่าเราใช้คำว่าแยกแยะเข้ามาในชีวิต เราก็สามารถมีความสุขได้อยู่แล้ว”
ตอก!! ให้โชว์ใบเสร็จภาษีสมควรแล้วหรือ
“จริง ๆ มินก็สามารถโชว์ได้นะคะ แต่ถามว่าการนำเงินมาโชว์อย่างนั้นมันเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วหรือเปล่าคะ ถ้าสังคมสามารถรับได้ มันก็ต้องมานั่งเถียงกันอีกที เพราะไม่อย่างนั้นหากมีคนซื้อแอร์เมสและมินเป็นต้นแบบในการเอาใบเสร็จออกมาโชว์ ต่อไปทุกคนจะต้องนำมาโชว์หรือเปล่าคะ คือมินก็มีประเด็นต่อมาว่ามันควรหรือเปล่าที่จะต้องถ่ายขนาดนั้น เพราะจริง ๆ มินไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ตราบใดที่เราสามารถยืนยันได้”
ท้า!! งัดหลักฐานออกช่องลับมาโชว์ ซัดอย่ากล่าวหากันลอย ๆ
“ทุกอย่างมินมีหลักฐานในการตรวจสอบ หลังจากที่เป็นข่าวก็ยืนยันว่ามินทำตามกฎระเบียบ แล้วก็ทางกรมศุลกากรไม่ได้นิ่งดูดาย เขาก็มีการตรวจสอบ ทุกอย่างถูกต้องค่ะ แล้วมินก็ยืนยันอีกครั้งเลยนะคะว่าไม่ได้ออกช่องลับที่ไหนในสนามบินทั้งสิ้น จริง ๆ อันนี้มินไม่ได้อ่านเอง แต่มินได้ยินมาก็ไม่แน่ใจว่ามีจริงหรือเปล่า ถ้ามีก็ยืนยันได้เลยค่ะว่ามินเดินออกประตูปกติ ถ้าเกิดว่าใครมีหลักฐานก็สามารถนำมาโชว์ได้นะคะ เพราะหลายคนก็พูดเรื่องนี้ไปลอย ๆ เหมือนกัน”
แยกแยะได้ก็มีความสุข
“จริง ๆ มินมองว่ามันก็เป็นความสุขเล็ก ๆ ของมินนะคะ ในการที่มินทำงานทุกวัน แล้วมินจะซื้อของขวัญวันเกิดให้ตัวเองบ้าง จริงๆ แล้วปีนี้มินมองว่ามันก็เป็นเรื่องดี ๆ ที่ทำให้เราได้เติบโตขึ้น มินไม่มองว่าเป็นบทเรียนหรอกค่ะ เพราะมินมองว่าชีวิตคนเรามันก็มีหลายข้อคิดเห็นเข้ามาในชีวิต ซึ่งอะไรที่ทำให้เราเติบโตได้และมีความสุข เราก็เก็บมาแยกแยะแล้วก็ปรับปรุงตัวไป อะไรที่มันได้เสียหายก็มีความสุขกับมันค่ะ ซึ่งมินมองว่าถ้าทุกคนเข้าใจประเด็นนี้จริง ๆ แล้วแยกแยะได้ มันก็ไม่มีอะไร”