“หญิงแย้” น้ำตาไหลพราก! เปิดใจเตียงหักเพราะทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ต่างกัน ลั่น “หมอสอง” ติดบ้านแต่ตนไม่ชอบ ทนตลอด 9 ปีจนเป็นปัญหาสะสม โต้หน้าเงินได้สินสอด 100 ล้านแล้วชิ่ง ยกมือขอโทษสังคมโกหกสินสอด 30 ล้าน ลั่นได้แค่แหวนเพชรแต่คืนไปแล้ว แย้มเป็นช้างเท้าหน้ามาตลอด บอกทุเรศมากถ้าหากตนใช้วิธีนี้โปรโมตสินค้า พ้อเข็ดแล้วชีวิตคู่
จากกรณี “หญิงแย้ นนทพร ธีรวัฒนสุข” พริตตี้ชื่อดังประกาศเลิก “หมอสอง นพ.นพรัตน์ รัตนวราห” สามีซึ่งคบหากันมา 9 ปี แต่เพิ่งแต่งงานอยู่กินได้เพียงแค่ 3 เดือน โดยเผยเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจแยกทางว่าชีวิตถูกกดดันและบังคับมากเกินไปจนไร้ความสุข ด้านคนสนิทได้ออกมาแฉว่าตั้งแต่แต่งงาน เจ้าตัวยังไม่ได้สินสอด 30 ล้านสักบาท
ด้านหมอสองได้โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมยาวเหยียดเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ย้ำตนไม่เคยบีบบังคับ แค่อยากให้ลดสังสรรค์ไม่อยากให้กลับบ้านดึก และไม่อยากให้โพสต์รูปโป๊เกินไป ยืนยันยังรักหญิงแย้ อยากให้มาเคลียร์แต่ติดต่อไม่ได้ และอยากให้เคลียร์จบก่อนฝ่ายหญิงแถลงข่าว
ล่าสุดหญิงแย้ได้นัดสื่อมวลชนเปิดใจประเด็นเตียงหัก ณ ร้าน Spec Bar ซ.เอกมัย 13-15 โดยเปิดใจทั้งน้ำตา ยอมรับไลฟ์สไตล์ต่าง พยายามปรับแล้วแต่ทำไม่ได้และกลายเป็นปัญหาสะสม
“เรื่องราวของแย้มันเป็นเรื่องที่ไม่อยากป่าวประกาศให้สังคมรู้เลย แต่ในเน็ตมันอ่านแล้วทำให้สะเทือนใจ จริงๆ ตั้งแต่เลิกกับคุณหมอ แย้ไม่เคยออกมาพูดอะไรเลย และไม่อยากจะพูดด้วย อยากจะเก็บไว้เป็นความลับเฉยๆ เพราะมันเสียหายกับแย้ แต่ในโลกโซเชียลมันไม่ได้กระทบกับแย้คนเดียว มันกระทบไปที่พ่อแม่และครอบครัวแย้ด้วย”
“สาเหตุที่เลิกกันเป็นเรื่องของทัศนคติและไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน 9 ปี ที่ผ่านมาแย้เรียนรู้ ปรับมาตลอด เพราะแย้รักเขามาก และยังเด็ก ทำให้เชื่อฟัง เคารพเขาทุกอย่าง สิ่งที่เขาสั่งเขาสอนแย้ทำตามตลอด ทั้งๆ ที่แย้ไม่ใช่คนแบบนั้น แย้คิดว่าการเปลี่ยนตัวเองมันต้องมีความอดทนอยู่แล้ว แย้คิดว่าแย้รักเขา และอยากให้เขามีความสุข และคิดว่าความรักจะทำให้อุปสรรคแบบนี้ก้าวผ่านไปได้ แต่สุดท้ายเหมือนเราต้องถอยออกมา มันมีจุดแตกหักด้วยทำให้เราแยกเขา”
เผยถูกเคอร์ฟิวให้กลับบ้านสี่ทุ่มครึ่ง ซึ่งตนปฏิบัติตามตลอด ชนวนแตกหักเพราะอึดอัดถูกต่อว่าทำตัวสำมะเลเทเมา ตัดสินใจถอดแหวนและเก็บข้าวของออกมา
“เรื่องสังสรรค์แย้ถูกทุกคนมองเลยว่าแย้เป็นผู้หญิงปาร์ตี้ แย้มีเคอร์ฟิว ต้องกลับบ้าน 4 ทุ่มครึ่ง ปฏิบัติมาตลอด ถ้าวันไหนเลยเวลาคุณหมอจะอยู่ด้วยตลอด คุณหมอทราบดี ถ้าได้ย้อนกลับไปดูไอจี แย้เป็นหุ้นส่วนของร้านอาหารหลายอย่าง ไม่สามารถอยู่บ้านได้ ต้องออกมาข้างนอก การประชุมกลางวันมันน้อย เราเอาใจลูกค้าเป็นหลัก จนวันนี้ไม่มีคุณหมอแล้ว แย้ก็ยังเชื่อฟังในสิ่งที่เขาปูทาง”
“แย้ยอมรับว่าแย้ใจร้อน ย้อนกลับไปตอนสี่ทุ่มครึ่ง วันนั้นกำลังจะกลับบ้าน แต่เพื่อนถามไปต่อกันไหม แย้ก็อยากไป เพราะไม่เที่ยวนานแล้ว เลยโทร.หาคุณหมอ จะชวนไป แต่โทร.ไม่ติดเลย โทร.ตลอด แย้เลยทิ้งข้อความไว้ คุณหมอติดต่อมาเที่ยงคืน เขาต่อว่าทำไมไม่กลับบ้าน ทำไมยังเที่ยว ยังสำมะเลเทเมา นี่คือสิ่งที่เขาพูด”
“แย้ยอมรับว่าอยากไปเที่ยวจริงๆ เลยชวนเขา เราใจเย็นก็ฟังเขา แต่พอเรากลับถึงบ้าน เขาก็ว่าเราประโยคเดิม เป็นอะไรที่อึดอัดมาก แย้ไม่คิดว่ามันจะสะสมมานาน คิดว่าไม่ไหวแล้ว ณ จุดนั้น เลยถอดแหวนแต่งงานวางไว้หน้าเขา และเก็บของบางส่วนออกมา พร้อมพูดว่าเขาคงไม่ดีพอสำหรับตัวเองหรอก คุณหมอมองหน้าอย่างเดียว ไม่พูด ไม่ห้ามอะไร เขาคงคิดว่าเดี๋ยวแย้คงกลับมา หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยหลังจาก 16 เม.ย.”
ร่ำไห้อยากให้มาง้อแต่ไม่ง้อ บอกวันเกิดตนแสนเศร้าไร้เซอร์ไพรส์ ไร้การติดต่อ ตัดสินใจเดินออกจากชีวิต
“พอ 20 เม.ย. เป็นวันเกิดแย้ เป็นสิ่งที่เศร้ามาก เราก็คิดว่าต้องมีเซอร์ไพรส์แน่ๆ เราไม่ได้บล็อกไลน์ บล็อคโทร.ก็ไม่ได้ทำ แย้อยากให้เขาติดต่อ (ร้องไห้) แต่เขาเงียบ ไม่ติดต่อมาเลย เราออกจากบ้านเที่ยงคืนก็ไม่ติดต่อมาเลย แน่นอนผู้หญิงคนหนึ่งเพิ่งแต่งงานหวังว่าเขาจะมา แต่สุดท้ายคือเซอรไพรส์ตัวเองไม่มีอะไรเลย”
“หลังจาก 20 เม.ย.แย้ก็ตัดสินใจเองว่าต้องออกจากชีวิตผู้ชายคนนี้แล้ว เพราะชีวิตคู่มันต้องเป็นห่วงกันมากกว่านี้ไง เลยตัดสินใจเริ่มต้นใหม่ จน 26 - 27 เม.ย.พ่อแม่แย้ยังไม่ทราบนะ แย้ก็บอกว่าเลิกกับคุณหมอแล้วนะ ท่านก็ไม่ได้ขัด เข้าใจ แย้ก็ดีลีทคุณหมอออกจากกลุ่มไลน์ครอบครัวของแย้ ไม่นานเขาก็ไลน์มาหาพ่อแม่แย้ว่าอยากคุย ถ้าอยากจบ อยากจบด้วยดี และเขาก็โทร.มาง้อแย้ แต่แย้ไม่คืนดี ขอจบตรงนั้น”
ถูกปล่อยคลิปขอแต่งงานทั้งที่ตนยังไม่พร้อมแต่ง
“ไม่ได้อยากแต่งงาน ยอมรับเคยบอกเลิกคุณหมอก่อนแต่งงาน เรื่องของเรื่องคือวันก่อนที่จะปล่อยคลิปขอแต่งงานบอกไปว่าไม่พร้อม แต่เขาก็มีเหตุผล วันรุ่งขึ้นเขาก็ปล่อยคลิปขอแต่งงานเลยค่ะ”
โต้หน้าเงินได้สินสอด 100 ล้านแล้วเลิก! ยกมือไหว้ขอโทษ สารภาพโกหกได้สินสอด 30 ล้าน ลั่นได้แค่แหวนเพชรซึ่งตนก็คืนไปแล้ว
“เรื่องสินสอดไม่เกี่ยวข้องในการเลิกกันครั้งนี้เลย มีอีกประเด็นที่ว่าแย้หน้าเงิน ได้สินสอดแล้วเลิกเลย ที่มีข่าวว่าร้อยกว่าล้าน แย้ขอแบ่งเป็นสองส่วน รพ.ของคุณหมอเป็นชื่อของคุณหมอผู้เดียว รถยนต์ก็ของคุณหมอ ไม่มีชื่อแย้ ส่วนสินสอด 30 ล้าน แย้ต้องขอประทานอภัยสังคมทุกๆ คนเลยว่า ตอนหมั้นแย้บอก 30 ล้าน แต่จริงๆ ไม่ได้อะไรนอกจากแหวนเพชร ซึ่งคืนไปแล้ว ต่างหูเพชรอยู่บ้านคุณหมอ กำไรเพชรอยู่ที่แย้ ซึ่งไม่ได้มีปัญหา เพราะก่อนแต่งงานเราได้ตกลงกันไว้ว่าบอกเพื่อให้เกียรติแย้และครอบครัว ถ้าจะเอาคืนไปพ่อแม่แย้ก็ไม่ว่าอะไร เพราะยังไงชีวิตคู่ต้องอยู่ด้วยกัน เลยไม่ได้เอาสักอย่าง”
“ส่วนเรื่องแย้กับครอบครัวคุณหมอ เขาไม่ได้บีบบังคับอะไร และแย้ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับครอบครับเขาด้วยค่ะ จากนี้เราเดินออกมาได้พอสมควรแล้ว ได้มีอิสระในความคิด ตัดสินใจอะไรเอง ยอมรับว่าแย้ไม่ได้อยากแต่งงานแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ด้วยความรัก คิดว่าต้องผ่านพ้นอุปสรรคได้ ที่แต่งให้เพราะอยากมีลูก”
ประกาศไม่กลับไปคืนดี ย้ำประเด็นที่บอกว่าเหมือนทาสอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน
“ถ้าเขาง้อจริงๆ จังๆ แย้คิดว่าแย้ไม่กลับไปค่ะ แย้เจ็บมากตั้งแต่วันที่แย้ออกจากบ้านเขา เราควรจบกันด้วยดีนะ ส่วนที่บอกว่าเหมือนทาส คืออาจจะเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะทาสไม่มีมานานแล้ว เหมือนเราอยู่ข้างนอกทำงานเยอะ เหนื่อย อยากผ่อนคลาย รีแล็กซ์ แต่พอกลับมาต้องมาดูแล มาเอาใจอีก”
ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ มั่นใจตัดสินใจถูกต้อง ร่ำไห้หันไปทางไหนก็เห็นแต่ “หมอสอง”
“ล่าสุดที่เขาโพสต์ แย้คิดว่าไม่มีอะไรต้องเคลียร์นะคะ แย้เคลียร์ตัวเองแล้ว แย้ได้ทบทวนตัวเองมากขึ้น เลยคิดว่าตัดสินใจถูกแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้อะไรเลยก็ตาม แต่ทุกวันนี้ยังรักและเคารพกันอยู่”
“เรื่องนอกใจ ไม่มีแน่นอน ไปเกาหลียกขโยงไปเยอแยะมาก ฝ่ายคุณหมอก็ไม่มีแน่นอน แย้เสียใจนะ ตอนนี้ 29 อยู่กับเขามา 9 ปี 10 ปี เราไม่โทษเขา ทุกคนมีข้อเสีย และแย้ผิดเองที่คิดว่าความรักทำให้ทุกอย่างผ่านมาได้ ภาพไหนมันก็มีแต่พี่หมอ หันไปทางไหนก็เป็นพี่หมอ (ร้องไห้) ทั้งๆ ที่เมื่อสามเดือนที่แล้วยังอยู่ด้วยกัน”
ยันอีกครั้งเลิกเพราะทัศนคติ และไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน ลั่นตนเป็นฝ่ายที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะมากจนไม่เป็นตัวเอง
“คือแย้เคยบอกเลิกคุณหมอแล้วก่อนแต่งแต่ไม่สำเร็จ เพราะยังรักและใจอ่อน แต่มันเป็นเรื่องที่สะสมที่ ไม่อยากจะแจกแจงว่าอะไรบ้าง แต่แย้คิดว่าอายุไม่เกี่ยว หลักๆ เลยคือทัศนคติ คุณหมอชอบอยู่ในบ้าน แต่แย้ชอบออกมาข้างนอกแย้รู้มาตลอดและปรับเปลี่ยนตัวเองมาตลอด ไม่เป็นตัวของตัวเอง อยากให้ถามเขาว่าเคยเปลี่ยนแปลงเพื่อเราบ้างไหม อยากให้เขาได้พูด แต่แย้ แย้เปลี่ยนตัวเองเยอะ”
เผยเป็นช้างเท้าหน้ามาตลอด ขอรับผิดไม่คู่ควรเอง
“แย้เคยอธิบายให้หมอฟัง เขาก็เข้าใจนะ ยอมรับว่าคนที่เป็นเวิร์กกิ้งวูเมนคือช้างเท้าหน้า เหมือนเราเป็นช้างเท้าหน้าทั้งคู่ แย้พยายามเป็นเท้าหลังแต่ไม่สำเร็จ”
“ถามจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไหม เป็นเรื่องอนาคตค่ะ ไม่กล้าตอบตรงนี้จริงๆ แย้คิดว่ามันน่าอายนะ ถ้ากลับมามันอายตัวเอง แย้ขอยอมรับความผิดทั้งหมดไว้ดีกว่าว่าแย้ไม่คู่ควรกับเขา”
“ถ้าวันนี้ย้อนกลับไปต้องเจอแบบนี้ แย้คงไม่อยากแต่งแล้วค่ะ ส่วนสร้างกระแสเพราะมาจากจอดำ ไม่เกี่ยวค่ะ อันนั้นเป็นสินค้า แต่อันอื่นเป็นเรื่องจริงค่ะ ไม่ได้โปรโมต เพราะเรื่องนี้มันเซ็นซีทีปมาก ถ้าโปรโมตด้วยวิธีการแบบนี้ก็คงทุเรศมาก”
เข็ดแล้วการแต่งงาน ขอบคุณ 9 ปีทำให้เข้มแข็ง ชี้เป็นบทเรียนความรักไม่ใช่ทุกอย่าง
“อยากฝากถึงหมอว่าขอบคุณสำหรับ 8-9 ปี ที่ผ่านมา ทำให้แย้ได้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ อย่างที่พี่หมอบอกว่าถ้าวันหนึ่งเขาไม่อยู่ แย้มีลูก แย้ต้องเข้มแข็งและดูแลลูกได้ แย้อยากให้เก็บความทรงจำดีๆ เรื่องราวดีๆ (ร้องไห้) เอาไว้ดีกว่า แย้ไม่ได้จดทะเบียนตั้งแต่ต้นค่ะ”
“บทเรียนของแย้คือความรักไม่ใช่ทุกอย่าง ชีวิตคู่มีอุปสรรคเยอะมาก ถอยหลังคนละก้าว ถ้าเราต้องเปลี่ยนตัวเองมากๆ เพื่อใครสักคน สักวันก็ต้องเป็นตัวเองอยู่ดี เข็ดกับการแต่งงานนะ ถ้าไม่มีคนรู้จัก หรือมีกระแสสังคมมาต่อว่า แย้โอเคกว่านี้นะ ทำไมต้องว่าแย้เกาะเขา แย้จะหาเงินเองไม่ได้เลยเหรอ”