หากคนไทยรู้จักและยกย่อง เดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ ในฐานะราชาแห่งมายากลของโลกเจ้าของโชว์เสกเทพีเสรีภาพให้หายไปต่อหน้าต่อตาคนดู หรือจะเป็น เดวิด เบลน เจ้าพ่อสตรีทเมจิคที่นักมายากลรุ่นใหม่ต่างยกให้เป็นไอดอล ชื่อของ แซค เมอร์ซา (Zack Mirza) ก็ควรเป็นอีกชื่อที่เราไม่ควรพลาดที่จะทำความรู้จัก เพราะเด็กหนุ่มมาดเข้มวัย 27 จากแคนาดารายนี้นั้นน่าจับตามองในฐานะนักมายากลดาวรุ่งคนใหม่เจ้าของรายการ Illusions of Grandeur (อิลูชั่น ออฟ แกรนเดอร์) รายการที่จะนำมายากลแนวสตรีทโชว์มาผสานเข้ากับความพิศวงของ 12 ตำนานท้องถิ่นใน 12 เมืองทั่วอเมริกาที่แซคเลือกที่จะไปสร้างความบันเทิงปนฉงนให้แก่เหล่าคนเดินถนนและผู้ชมทางบ้านแบบอยู่หมัด โดยรายการได้ฤกษ์ออกอากาศครั้งแรกในเอเชีย ทุกวันศุกร์เวลา 20.00 น. เริ่ม 6 พ.ค. นี้ ทางช่อง KIX (CTH และ GMMZ)
หลังจากถูกเชิญให้ขึ้นไปร่วมแจมบนเวทีมายากลในงานคาร์นิวัลเมื่อตอนอายุ 10 ขวบ แซคเหมือนได้ถูกจุดไฟความฝันในการเป็นนักมายากลตั้งแต่นั้นมา และนั่นก็ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ความฝันกิ๊กก๊อกทั่วไปของเด็ก แซคโตขึ้นและเอาจริง เขาออกไปพบปะคนเดินถนนทั้งหลายเพื่อฝึกฝนทักษะนักมายากลแนวสตรีทโชว์ โดยมีเพื่อนของเขาคอยช่วยอัดวิดีโอและนำมาตัดต่อลง Youtube ก่อนจะไปเข้าตาผู้ผลิตรายการทีวีเข้าอย่างจังและชักชวนให้มาทำรายการ Illusions of Grandeur ไม่ใช่เพราะว่าเขาในวันนี้นั้นประสบความสำเร็จสูงสุดแล้วหรือจะมาแทนที่ตัวพ่อคนไหน แต่เส้นทางการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเพื่อทำสิ่งที่ตัวเองรักสำเร็จต่างหาก ที่ทำให้เรานั้นอดประทับใจและเปิดใจยอมรับในฐานะลูกผู้ชายล่าฝันตัวจริงคนนึงที่เราควรทำความรู้จักไว้เชียวล่ะ
เหตุผลที่คุณตัดสินใจเข้าสู่ถนนมายากล
ใครที่ดูรายการ Illusions of Grandeur ตอนแรกจะรู้ว่าผมจริงจังกับการฝึกมายากลมาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าผมจะเรียนในสาขาแอนิเมชั่นก็ตามแต่ผมก็เลือกที่จะเดินหน้าเต็มสูบบนถนนสายนี้ โดยเฉพาะการฝึกซ้อมและออกแสดงต่อหน้าผู้ชมบ่อยๆเพื่อต้องการรู้ว่าโชว์ของผมเวิร์คไหม ผมอยากเป็นนักมายากลที่เก่งขึ้นเรื่อยๆ
ใครคือนักมายากลที่คุณยกให้เป็นไอดอลเลย
แน่นอนว่าต้องเป็น เดวิด เบลน (นักมายากลแนวสตรีทโชวืชาวอเมริกันระดับตัวพ่อ) เขาคือคนที่ทำให้ผมรู้ทันทีว่าจะเจริญรอยตามเขาทันทีที่ได้เจอ จริงๆก็มีนักมายากลอีกหลายคนที่เป็นแรงบันดาลผมนะ อย่างเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ก็ใช่ เขาคือราชานักมายากลสาย theatrical stage ที่ผมเองก็เคารพมากเช่นกัน
แล้วไอดอลที่ไม่ใช่นักมายากลละ
ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ เท่านั้น เขาเป็น innovator creator และ ศิลปินที่มากพรสวรรค์ของวงการบันเทิงเลย แล้วจะไม่ให้ผมยกเป็นไอดอลได้ยังไงล่ะ
พูดถึงที่มาของรายการ Illusions of Grandeur ให้ฟังหน่อย
ผมเริ่มอัดวีดีโอที่ผมโชว์ลงยูทูปเพื่อต้องการพัฒนาฝีมือด้านมายากลของผมอย่างเดียวเลยจริงๆ โชคดีมากที่เพื่อนผมมีฝีมือด้านการทำวิดีโออยู่แล้วด้วย ทำให้เรามีโอกาสได้ไปตะลุยลองวิชากันที่นิวยอร์กประมาณ 6-7 ครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่นิวยอร์กทำให้ผมได้ฝึกฝนและลับคมฝีมือแบบก้าวกระโดดเลยนะ ทั้งการแสดงหน้ากล้อง การตัดต่อและอัพโหลดลงบนยูทูปเพื่อที่จะดูฟีดแบคจากผู้ชมโดยตรงเลย จนไปเข้าตาบริษัทผู้ผลิตรายการนี่แหละ เลยออกมาเป็นรายการนี้
อย่างที่รู้ๆกันว่ามายากลต้องอาศัยการแสดงสดเพื่อเล่นกับปฏิกิริยาคนดูให้เชื่อ อะไรคือความท้าทายเมื่อต้องทำให้อยู่ในรูปแบบรายการทีวี ยิ่งเป็นยุคที่ special effect และมุมกล้องอย่างทุกวันนี้ด้วย
ความท้าทายคือการทำให้ผู้ชมทางบ้านรู้สึกได้ว่าทุกปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในรายการนั้นเป็นของจริง เพราะเราไม่มีนักแสดง ไม่มีหน้าม้า ผมต้องทำให้ทุกอย่างในรายการเป็นธรรมชาติและจริงที่สุด คุณจะเห็นในรายการว่ามีคนที่ผมเข้าไปเล่นด้วยแล้วไม่เล่นกับผมก็มี (หัวเราะ) มันเป็นเรื่องที่วางแผนอะไรแน่นอนไม่ได้ เพราะเราเล่นกับคนจริงๆ ภาพที่ออกมาจะดิบจริง นี่แหละคืออีกด้านของมายากลแนวสตรีทโชว์ที่คนยังไม่ค่อยเห็นกัน อีกเรื่องคือเวลา เรามีเวลาในการถ่ายทำแต่ละเมืองแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น มันสั้นเหมือน 2 -3 วันเอง ผมกับทีมเลยต้องทำทุกอย่างแข่งกับเวลาด้วย
เห็นว่าตอนแรกของรายการคุณก็เจองานหินเข้าให้เลย มันหินอย่างไรล่ะ
มันยากมากเลยระ ทั้งหมดทั้งมวลมันเป็นเรื่องของกระบวนการเรียนรู้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะการรับมือเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง และยิ่งต้องยืนต่อหน้าผู้คนที่มองผมจากหลายมุมมอง ผมยอมรับเลยว่าประหม่าและตื่นเต้นแทบจะที่สุดในชีวิตแล้วมั้ง ผมได้เรียนรู้ว่าเมื่อคนเราผ่านเรื่องยากๆ มันไม่ได้ทำให้เราเพอร์เฟคขึ้นหรอก มันทำให้เราได้พัฒนาและโตขึ้นต่างหาก
ตอนแรกของรายการคุณได้นำโชว์คลาสสิคมาโชว์ในรูปแบบที่ทันสมัยและมีความเป็นตัวคุณอย่างชัดเจนด้วยแล้วคนดูก็ชอบมาก
ผมโชคดีที่ได้ร่วมงานกับทีมที่เก่งหาตัวจับยาก พวกเขาคอยช่วยยกระดับโชว์ของผมให้พิเศษและไม่เหมือนใคร แม้กับโชว์คลาสสิคที่คนดูคุ้นเคย พวกเขาจะช่วยหาจังหวะที่เหมาะและขยี้กลเพื่อเอาคนดูให้อยู่หมัดจนออกมากลายเป็นโชว์ที่ไม่ธรรมดาได้ ผมว่าการเป็นนักมายากล เราต้องใส่ความเป็นตัวเองลงไปในโชว์ ไม่ว่าคุณจะหยิบอะไรขึ้นมาโชว์ให้ คนดูจะต้องรู้สึกถึงการเชื่อมโยงระหว่างกลและตัวคนเล่น คนดูถึงจะรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าเป็นของจริง
คุณได้สอดแทรกเกล็ดประวัติศาสตร์มายากลใส่ลงไปในรายการของคุณด้วย ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ชมรายการชื่นชอบมาก คุณคิดว่าเรื่องราวประวัติศาสตร์มายากลนั้นจำเป็นต่อนักมายากลไหม
ก่อนหน้านี้ผมมีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์มายากลน้อยมากแต่ผมก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆหลังจากทำงานตรงนี้มา ผมบอกถูกหรอกว่ามันจำเป็นไหม แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกคือรากฐานที่ผู้คนในอดีตได้สร้างเอาไว้อย่างน่ามหัศจรรย์เป็นสิ่งที่เรานำมาต่อยอดมาใช้ในทุกวันนี้ และผมก็เคารพในจุดนี้มาก หากเรารู้จักที่จะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เราก็สามารถหยิบยกมันมาทำให้สิ่งที่ทำในปัจจุบันดูพิเศษขึ้นได้ อย่างโชว์ในรายการผมนี่ไง
ช่วยบอกเหตุผลที่คุณเลือก 12 เมืองที่คุณไปถ่ายทำในรายการนี้หน่อยสิ
นิวยอร์คคือเมืองที่ผมสนใจและหลงใหลมากอยู่แล้ว ส่วนที่เหลือผมเลือกอิงจากประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของสถานที่นั้นๆ ที่จะมาสามารถนำมาผูกกับโชว์ของผมได้ ยิ่งศึกษามากเท่าไรก็ยิ่งตะลึงกับเรื่องราวในสถานที่นั้น อย่างเมือง นิวออลีนส์ที่ขึ้นชื่อเรื่องมนต์ดำวูดู ผมก็นำมันมาสร้างเป็นโชว์ที่จะทำให้ผู้ชมนั่งไม่ติดเก้าอี้ได้ คอยดูสิ
บทเรียนสำคัญที่ได้จากรายการนี้คืออะไร
ความซื่อสัตย์และซื่อตรงตัวเอง ยิ่งเราฝึกฝนและพยายามมากเท่าไหร่ เราก็จะได้จากมันมากเท่านั้น จริงๆก็กับทุกเรื่องในชีวิตเลย ไม่ใช่แค่เฉพาะการเป็นนักมายากลหรอก ตราบใดที่เรายังมั่นคงว่าเรากำลังทำสิ่งๆนี้เพื่ออะไร พยายามอยู่เพื่ออะไร แน่ใจว่ามันคือ passion ของเราจริงๆและพร้อมที่จะฝ่าฟันแม้ว่าจะยากแค่ไหน เราก็สามารถเอาชนะได้หมดทุกอย่างแหละ
ยังไงก็ยังหลงใหลในมายากลแนวสตรีทโชว์ใช่ไหมใช่ มายากลแนวสตรีทโชว์คือแนวที่ผมรักและถนัดที่สุด ผมรักการได้เล่นกับผู้คนอย่างใกล้ชิด จริงๆผมก็กำลังลองฝึกแนว theatrical stage ซึ่งก็น่าสนใจดี ผมพยายามจะลองหลากหลายแนวนะ เพื่อจะได้ดูว่าเราสามารถทำอะไร ต่อได้นอกจากสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้ว
อยากฝากอะไรถึงคนที่สนใจอยากเป็นนักมายากล
คำแนะนำของผมคือฝึกกับฝึก! และออกไปเจอโชว์ให้ผู้คนได้ดูและได้สัมผัสบ้าง เพราะการรับมือกับปฏิกิริยาผู้คนนี่แหละ ที่จะลับคมทักษะนักมายากลให้เก่งได้
ถึงจุดนี้แล้ว อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณเป็นนักมายากลที่เก่งขึ้นแล้ว
ความคล่องตัวที่มีมากขึ้น แน่นอนว่าผมยังแอบจิตตก ประหม่าและตื่นเต้นอยู่ทุกครั้งที่โชว์ แต่การฝึกฝนจะทำให้คุณคล่องตัวและผ่อนคลายมากขึ้น ถ้ารู้ว่าเรากังวลในจุดไหนอยู่ ก็ควรเตรียมตัวและฝึกให้ดีในจุดนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าคนแล้วคุณก็จะรู้สึกว่าควบคุมมันได้ อ้อ! สำคัญคือการหาโอกาสโชว์ให้บ่อยๆ ออกจากห้องไปเจอผู้คน เล่นกับคนดูให้มากๆ เพราะยิ่งฝึกมาก ฝีมือก็จะคมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำตัวเองให้ชินกับผู้คนและพร้อมโชว์ตลอดเวลา นี่แหละคือจุดที่ทำให้รู้สึกว่าเราเป็นนักมายากลที่เก่งขึ้นแล้วนะ
ไม่ว่าจะอยากเก่งหรืออยากดีขึ้นในฐานะอะไรก็ตาม แซคทำให้เราเห็นถึงความสำคัญของการฝึกฝนและทุ่มเทอย่างจริงจัง สิ่งที่เด็กหนุ่มวัย 27 คนนี้กำลังบอกเราอยู่นั้นทำให้เราเห็นภาพและเข้าใจได้อย่างง่ายดายถึงวิถีของความพยายามเพื่อความสำเร็จ แม้ว่าเจ้าตัวอาจจะยังไม่ได้ยืนอยู่จุดสูงสุดของวงการนักมายากล หรือ ประสบความสำเร็จจนแฟนมายากลยกเป็นไอดอล แต่บอกได้เลยว่าความเป็น “ตัวพ่อ” นั้นอยู่ไม่ห่างไกลชายผู้นี้แน่ๆ ติดตามรายการ Illusions of Grandeur ครั้งแรกในเอเชีย ทุกวันศุกร์เวลา 20.00 น. เริ่ม 6 พ.ค. นี้ ทางช่อง KIX (CTH และ GMMZ)