“ดีเจพล่ากุ้ง” เฉลยแล้ว! คลิปเสียงอ้อนแฟนสุดสยิวแค่ไวรัลโฆษณา ยอมรับแหกตาแต่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน บอกให้มองเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง รับได้หากถูกสังคมประณาม ลั่นขอรับงานไวรัลตัวสุดท้าย ชี้คำว่าแตกในไม่เกี่ยวกับเซ็กซ์ แต่เกี่ยวกับยางไม่แตกคอนเซ็ปต์ตรงสินค้า ไม่ขัดศีลธรรม
จากกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดระบุเป็นดีเจสายฮาอ้อนแฟนสุดสยิว เนื้อหามีการพูดถึงเรื่องแตกใน คล้ายไม่ใส่ถุงยาง ต่อมาโซเชียลระบุว่าดีเจคนดังกล่าวน่าจะเป็น “พล่ากุ้ง วรชาติ ธรรมวิจินต์” ต่อมายังมีคลิปเสียงหลุดซ้ำ โดยน้ำเสียงคล้ายไม่พอใจที่มีการปล่อยคลิปดังกล่าว ด้านดีเจดังได้โพสต์อินสตาแกรมขอเวลาแล้วจะกลับมาพร้อมคำอธิบายจนฮือฮาไปทั้งโซเชียล
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 เมษายน หลังจากดีเจดังได้นัดสื่อมวลชน ระบุว่า พร้อมแถลงเปิดใจทุกเรื่องที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ปรากฏว่า เมื่อไปถึงสถานที่นัดหมาย กลายเป็นงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยางรถมอเตอร์ไซค์ AIR LOCK ซึ่งดีเจพล่ากุ้งโดดรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยเจ้าตัวยังเต้นประกอบเอ็มวี ซึ่งมีท่าเต้นและเนื้อหาเพลงล่อแหลมอยู่ไม่น้อย งานนี้เจ้าตัวยกมือไหว้ตลอดทั้งการให้สัมภาษณ์ ก่อนเปิดใจเป็นแค่ไวรัลโฆษณาเท่านั้น
“สิ่งที่ทุกคนได้รับรู้ทางโซเชียล และทางคลิปต่าง ๆ ถ้าเรียกเป็นภาษามาร์เก็ตติ้ง ก็คือ ไวรัลคลิป นั่นเอง เป็นไวรัลที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนช็อกกับเหตุการณ์ และรับรู้ถึงสินค้าที่จะขายให้เร็วมากขึ้น”
“ตอนแรกที่ผมคุยกับทีมงาน ผมก็ได้ศึกษากับสินค้าชนิดนี้เป็นอย่างดีแล้วนะครับ และสาเหตุที่ผมรับงานนี้ก็เพราะผมชอบในตัวสินค้า มันเป็นสินค้าที่คนไทยคิดเอง และมีประโยชน์ต่อโลกใบนี้ครับ”
“ก็ยอมรับว่าในคลิปเสียงภาษาค่อนข้างรุนแรง เพราะในคลิปมีคำว่าแตกใน แต่จริง ๆ แล้วคำ ๆ นี้ มันคือกิมมิกของสินค้าตัวนี้ชัดเจนเลย ไม่ได้มีการดัดแปลงให้คำมันลงล็อกใด ๆ ทั้งสิ้น มันเป็นคำที่ชัดเจน และก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องใช้คำอื่น”
มั่นใจเฉลยแล้วไม่ทำให้สินค้าดูแย่ ย้ำคำว่าแตกในเป็นสคริปต์ทีมงาน
“อันนั้นมันเป็นสคริปต์ของทางทีมงานนะครับ แต่ผมเองก็ต้องกล่าวว่าถ้าหากมีใครที่เดือดร้อนจากการที่ผมทำไวรัลคลิปตัวนี้ ผมก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับผม (หัวเราะ)”
“ถามว่าพอเฉลยแล้วจะทำให้สินค้าดูแย่ไหม อย่างที่บอกครับ สินค้าตัวนี้มันดีกับโลกจริง ๆ และคำ ๆ นี้มันก็เป็นรากของสินค้าตัวนี้เลย คือ คำว่าไม่แตกใน ซึ่งก็คือยางไม่แตกในนั่นเอง”
โต้ใช้สื่อเป็นเครื่องมือแหกตา บอกคงไม่มีใครเดือดร้อนจากไวรัลคลิปตัวนี้
“จริง ๆ แล้วตั้งแต่คลิปนี้เผยแพร่ออกไป มันก็มีระยะเวลาประมาณ 5 วัน อีกอย่างตอนแรกผมไม่คิดว่ามันจะมีกระแสด้วย เพราะผมไม่ใช่ดาราดัง แต่เผอิญว่าโซเชียลยุคนี้มันเร็ว ก็เลยทำให้มีคนเข้ามาถามผมเยอะเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะทุกคนเป็นห่วง แต่พอผมได้เล่าเจตนาต่างๆ เล่าคอนเซ็ปต์ต่างๆ ให้เขาฟัง เขาก็โอเคนะครับ ดังนั้นผมคิดว่า 5 วันกับการเข้าใจผิด และมันมีตอนจบที่ออกมาชัดเจน ก็ไม่น่าจะมีคนเดือดร้อนอะไรมากมายจากไวรัลตัวนี้ครับ”
“ถ้าถามถึงผลกระทบ ที่ผมอ่านในคอมเมนต์ส่วนใหญ่เขาจะเข้าข้างผมนะครับ บางคนก็บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องที่คุยกันสองคน ผู้หญิงปล่อยทำไม ประจานตัวเองหรือเปล่า บางคนก็บอกว่าเป็นไวรัลสินค้า ซึ่งส่วนมากเดาเป็นถุงยางอนามัย ดังนั้นพอวันนี้มีการเฉลยปุ๊บ ทุกคนก็น่าจะเข้าใจไม่มีปัญหาอะไรครับ”
“ผมไม่แน่ใจนะครับว่าใช้สื่อเป็นเครื่องมือหรือเปล่า แต่ผมขอใช้คำว่าเดี๋ยวนี้คนที่ดู คนที่เสพสื่อ เขาก็เชื่ออะไรยากขึ้นนะครับ”
ไม่ขอระบุค่าตัวรับงานสุ่มเสียงถูกวิจารณ์ ย้ำเป็นการหาเงินแนวหนึ่ง
“ตอนแรกที่ฟังคอนเซ็ปต์ผมก็คิดว่าแรง แต่พอได้ลงรายละเอียดมันจริง ๆ ผมกลับรู้สึกชอบสินค้าตัวนี้ ส่วนเรื่องค่าตัวถามว่าได้เยอะไหม เพราะผมเองก็ต้องเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ อันนี้ขอไม่ระบุดีกว่าครับ หน้าตาอย่างผมไม่ได้อะไรเยอะแยะมากมาย ถามว่าได้คุ้มเสียหรือเปล่า ถือว่าเป็นการทำงานหาเงินในอีกแนวหนึ่งละกันครับ ผมพร้อมยอมรับทุกข้อกล่าวหาครับ ใครจะว่าผมโน่นนี่นั่น ถ้าคุณได้ลองศึกษาสินค้าจริง ๆ คุณก็จะเข้าใจมันครับ”
ประกาศขอรับงานไวรัลโฆษณาตัวนี้เป็นตัวสุดท้าย
“เสียงผู้หญิงในคลิปเป็นเสียงของเอเจนซี่ท่านหนึ่งครับ ที่คิดว่าเนียนที่สุดมาคุยกับผม และทีมงานก็ชอบเลยเลือกคนนี้ (กลัวต่อไปคนไม่เชื่อไหม?) ถ้ามีไวรัลแบบนี้อีกผมไม่รับแล้วนะครับ ผมจะทำตัวนี้เป็นตัวสุดท้าย แต่ถ้าเกิดมีสินค้าที่ผมรู้สึกว่าดีและไม่ใช่คอนเซ็ปต์แบบนี้ผมก็จะรับครับ”
รับได้ถ้าถูกสังคมประณาม เชื่อไม่ขัดศีลธรรม เป็นแค่งานศิลปะชิ้นหนึ่ง
“ผมคิดว่ามันช็อกคนดูมากกว่า เพราะพอมีการเฉลยออกมามันก็ไม่ได้ขัดอะไร อีกอย่างสำหรับตัวผมเองตอนที่ผมนั่งอยู่หลังเวที ผมก็เกรงใจพี่ ๆ สื่อมวลชนทุกท่านนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ชอบบรรยากาศที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ บางคนเข้าใจผมผิด แต่ก็ครับเข้าใจผิดได้ เพราะว่าทางสื่อที่มีการนำเสนอออกไปมันก็มีหลายแง่มุม”
“ถามว่าตอนปล่อยคลิปสงสารสังคมไหม ผมรู้สึกว่าสังคมออนไลน์สมัยนี้มีเรื่องหนักกว่านี้เยอะครับ เยอะจริงๆ แต่ถามว่าผมหนักใจไหม ผมไม่หนักใจครับ เพราะผมมีเฉลย ๆ มีขั้นมีตอน เป็นงานเป็นการ ไม่ใช่ทำแล้วหาย ทำแล้วหนี เราทำและมีตัวตนยืนยันตรงนี้ครับ”
“ถ้าจะมีคนประณามผมยอมรับและกราบขอโทษคุณจริง ๆ ครับ ถือว่าความคิดเราไม่ตรงกัน งานศิลปะชิ้นหนึ่ง คนดูสิบคน ตีความไม่เหมือนกัน ดังนั้น สิ่งนี้ผมถือว่าเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งละกันครับ”