“เพ็ชร ฐกฤต” ดี๊ด๊าครอบครัวอนุญาตให้ซื้อมอเตอร์ไซค์หลักแสนเป็นของขวัญวันเกิด ลั่นไม่ต้องห่วงอันตราย ตนซื้อมาซิ่งแถวบ้าน เอาไว้ขับเท่ๆ เตะบอลเท่านั้น รับตา 2 ชั้นเริ่มเข้าที่ ยังไม่มั่นใจหน้าใหม่เต็มร้อย
ถือเป็นวันเกิดที่ได้ของขวัญสมใจอยากสุดๆ สำหรับหนุ่ม “เพ็ชร ฐกฤต ตะวันพงค์” ที่วันเกิดปีนี้ครอบครัวอนุญาตให้ซื้อมอเตอร์ไซค์หลังจากเจ้าตัวขอคุณพ่อคุณแม่มานานแสนนาน โดยหนุ่มเพ็ชร เปิดใจว่า เป็นสิ่งที่ตนรัก และชอบ อยากซื้อมาเก็บเอาไว้ และขับเท่ๆ เตะบอล
“ขอคุณแม่นานครับ ก็คุยกับเขาว่าขอแค่เรื่องเดียวให้ในสิ่งที่เรารักหน่อย คือท่านเป็นห่วงครับ เพราะว่าปกติรถยนต์เราก็ขับเร็วอยู่แล้ว เวลาเราเร่งรีบ แต่พอเป็นมอเตอร์ไซค์ก็เป็นหนังหุ้มกระดูก พ่อแม่เขาก็เป็นห่วงไม่อยากให้ขับ แต่ด้วยความที่เราชอบ และบอกว่าเราไม่ได้ขับออกไปไหนไกลๆ นอกจากออกทริปกับพี่ๆ แค่นั้น ก็ถ้าเป็นคนรู้ใจเขาไม่ให้ซื้อหรอกครับ เขาก็เป็นห่วง ขนาดพ่อแม่ก็เป็นห่วงแต่ด้วยความที่เรารัก เราชอบ ก็เลยอยากซื้อมาเก็บไว้”
“ยังไม่ได้ไปทำบุญเลยครับ เช้ามาก็ต้องมางาน เดี๋ยวคงจะได้ไปทำบุญกับครอบครัวครับ คงไปทำบุญกับคนพิการด้วย ปีนี้คงอยู่ทานข้าวกับครอบครัวครับ ไม่ได้เอิกเกริกอะไรมาก ไม่มีอะไรพิเศษครับ วันเกิดก็คือวันปกติครับ”
“ของขวัญปีนี้คุณพ่อคุณแม่ให้ซื้อมอเตอร์ไซค์ เราชอบมอเตอร์ไซค์ก็เลยสั่งมอเตอร์ไซค์ไป แต่จริงๆ ทีแรกเขาไม่ชอบให้เราขี่มอเตอร์ไซค์เพราะมันอันตราย คุณพ่อคุณแม่เขาก็เป็นห่วงครับ เราชอบมานานแล้ว อยากได้ ถามว่ามีเวลาขับไหมก็ไม่มีหรอกครับ ก็เอาไว้ขับในหมู่บ้านแล้วกัน หรือเอาไว้ขับไปทำกิจกรรมข้างนอกไปเตะบอล”
“ราคาไม่ถึงล้านครับ หลักแสนเองครับ เบาๆ ขับสบายๆ ไม่ได้ใหญ่ขนาดบิ๊กไบก์ คือคันที่เพ็ชรซื้อมันเป็นคลาสสิก เหมือนกัปตันอเมริกา ขับเท่ๆ ไม่ได้ขับเร็วขนาดนั้น”
นานาจิตตังถูกวิจารณ์ทำตา 2 ชั้น รับยังไม่มั่นใจหน้าใหม่เต็มร้อย
“อย่างที่บอกว่าแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน บางคนก็บอกตาเก่าดีกว่า บางคนก็บอกตาใหม่ดีกว่า ดูสดใสขึ้น ดูเด็กลง ตาเก่ามันหล่อแต่ไม่ได้ดูดีเหมือนตาใหม่ พอได้ทำเนี่ยมันรู้สึกเข้าที่แล้ว แต่ในส่วนของเพ็ชรถามว่ามั่นใจมากขึ้นไหม ก็มั่นใจแต่ไม่เต็มร้อย คือเราก็ไม่รู้ว่ามันดีพอแค่ไหน แต่ขอให้ทุกคนเชื่อว่าสิ่งที่เราทำมันต้องดีกับเราแล้ว”
เช็กกระแสคนวิจารณ์ รับแอบนอยด์ทุกครั้งที่ส่องกระจก
“เช็กฟีดแบ็กบ้างครับ เพราะการที่เราทำเราไม่ได้ตัดสินใจคนเดียว เราถามคุณพ่อคุณแม่ และคนรอบข้าง รวมไปถึงแฟนๆ ละครของเราด้วย แฟนคลับของเราด้วย ก็ถามว่ามันเป็นยังไงบ้าง มันเข้าที่หรือยัง แรกๆ มองตัวเองในกระจก ทำไมตากูหวานขนาดนี้วะเนี่ย เวลาคนวิจารณ์คนเรามันมีความแอบนอยด์อยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เราตัดสินใจไปแล้ว สิ่งไหนที่เราอ่านได้เราก็อ่าน เขาติมาเราก็อ่านเอามาแก้ไข แต่ถ้ามันออกมาดีแล้วเราก็ต้องเชื่อมั่นในตัวเองครับ”