“แหวน ฐิติมา” เผยรักษามะเร็งเต้านมราบรื่น ทำคีโมครั้งสุดท้ายเรียบร้อย หมอคว้านเนื้อร้ายยัดซิลิโคน ไม่ต้องตัดเต้านมเดิมออก ขอบคุณมะเร็งเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ดีขึ้น บอกเล็งตรวจมะเร็งปากมดลูกเพิ่ม โล่งใจไม่ถ่ายทอดพันธุกรรมให้ลูกสาว
ทำเอาแฟนเพลงค่อนประเทศตกใจไม่น้อย ที่อยู่ ๆ ก็มีข่าวว่าร็อกเกอร์สาวรุ่นเดอะ “แหวน ฐิติมา สุตสุนทร” ป่วยด้วยโรคมะเร็งเต้านม และรักษาอาการมาตลอดร่วมปี ล่าสุด ได้เจอเจ้าตัวในงาน Meet The Press Love & Hurt : Super Rock Ballads Concert ณ MIX BAR ชั้น 1 (บริเวณ Lobby) โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ เจ้าตัวเผยว่าตอนนี้ได้ทำคีโมครั้งสุดท้ายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เพิ่งรักษาเสร็จไปเมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมาค่ะ เป็นวันที่ฉายแสงครั้งสุดท้ายค่ะ ก็คือ เสร็จสิ้นกระบวนการรักษา แต่ตอนนี้สิ่งที่เราจะต้องดูแลตัวเอง ก็คือ ในเรื่องของผิวก่อน เพราะฉายแสงแล้วเราต้องพยายามทำผิวให้แห้ง ส่วนที่ฉายแสงประมาณ 2 - 3 อาทิตย์ จะไม่ให้โดนน้ำ พยายามอย่าไปอยู่ในที่ที่เหงื่อออก ก็พยายามซับให้แห้ง เพราะไม่อย่างนั้นผิวมันจะร่อนออกเร็วเกินไป นี่คือ ที่คุณหมอแนะนำมา ซึ่งของเราก็มีบ้าง เราก็พยายามอยู่ห้องแอร์ เปิดให้โล่ง ๆ สบาย ๆ เดือนนี้ก็ยังไม่ได้รับงานอะไร แต่ปรากฏว่ารายการติดต่อมาเยอะมากเลย แต่ส่วนใหญ่ห้องสตูฯ มันก็มีแอร์ อย่าให้มันอับ”
“สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือทานยาต้านฮอร์โมน 5 ปี วันละ 1 เม็ดแค่นั้นเอง แล้วก็ไปพบหมอตามนัดค่ะ (ยิ้ม) จริง ๆ ก็รักษามาไม่ถึงปีนะคะ ตั้งแต่เริ่มไปตรวจคือพฤษภาคมปีที่แล้ว อีกหนึ่งอาทิตย์ก็ไปฟังผล อาทิตย์ถัดมาคุณหมอก็นัดผ่าตัด ก็พักอยู่ประมาณหนึ่งเดือนครึ่ง เพราะว่ามีงานค้างอยู่ จริง ๆ หนึ่งเดือนก็ให้เคมีบำบัดได้เลย แต่เราขอไปอีกสองอาทิตย์เพราะมีงานค้าง ก็พอดีแผลหาย แต่ยังไม่ได้ให้คีโมนะคะ ก็ไปทำงานที่ค้างอยู่”
“หลังจากนั้น ก็เริ่มให้คีโม จริง ๆ ก็ยังมีงานค้างช่วงเดือนสิงหาคม กันยายน คิดว่าถ้าไปได้ก็จะไป ทีนี้พอให้เข็มที่สองจะมาเข็มสาม ผมก็เริ่มร่วง แต่มันเป็นของธรรมดาอยู่แล้ว เราก็เตรียมทำวิกเอาไว้แล้ว ก็คิดว่าถ้าไม่แพ้ก็จะไปรับงานที่สัญญาไว้ แต่ปรากฏว่ามีอยู่งานหนึ่งเสียงมันหายไป เราก็เลยไม่อยากรับงาน เพราะถ้าเกิดเราไปร้องแล้วไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ คนดูก็จะรู้สึกว่ายังหอบสังขารมาร้องอีกเหรอ เราก็เลยขอแคนเซิลไปกับงานที่เตรียมรับไว้ แล้วก็ไม่รับงานเพิ่ม ก็แคนเซิลงานที่รับไว้ตั้งแต่สิงหาคมเป็นต้นมา”
“แล้วก็รักษามาเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าจะแพ้หรือเปล่า ผลจะเป็นยังไง แต่พอดีว่ามันไม่ได้แพ้มาก แต่เอฟเฟ็กต์มันก็มี อย่าง 4 เข็มแรกไม่ค่อยเป็นอะไร แต่พอ 4 เข็มหลังมันจะเป็นอีกตัวยาหนึ่ง แต่ละคนที่เป็นสูตรในการรักษาเขาบอกว่ามีเป็นร้อยสูตรเลยว่าใครให้กี่เข็ม ให้ยาอะไร ซึ่งคุณหมอถึงจะทราบ แต่ของเราเขาก็ดูจากอาการ พอมา 3 เดือนหลัง เปลี่ยนตัวยา เขาก็จะเปลี่ยนมาให้เป็นอาทิตย์ละเข็ม คุณหมอบอกมันดีกว่า เพราะมันเป็นการทยอยให้ทีละน้อย เพียงแต่เราต้องมีเวลา ถ้าเกิดเราไม่ใช่นักร้อง แต่ต้องทำงานประจำ เราก็สามารถไปทำได้ แต่ทีนี้เราใช้เสียง กลัวว่าพอรับงานมาแล้วเกิดเราเป็นอะไรไปแล้วต้องแคนเซิลบ่อย ๆ มันก็ไม่ดี ก็เลยพัก”
“แต่ถ้าเราไม่ใช่นักร้องก็แค่ป้องกันไม่ควรอยู่ในที่ชุมชน อย่างเช่นโรงหนังหรือในห้าง ต้องทานอาหารที่สะอาดและสุก เพราะเกล็ดเลือดของเราจะต่ำกว่าคนปกติ เพื่อป้องกันการติดเชื้อแค่นั้นเองค่ะ ซึ่งเราก็ผ่านมาได้ดีไม่มีอะไร บางคนอาจจะอาเจียน ทานอะไรไม่ได้ ก็ต้องบำรุงด้วยอาหารเสริมที่โรงพยาบาลแนะนำ ซึ่งเราไม่ได้อาเจียน แต่ก็บำรุงทั้งอาหารเสริม ทั้งทานเยอะขึ้น บังคับตัวเองให้ทาน จนเกล็ดเลือดของเราขึ้นมาแข็งแรง แล้วก็อ้วนขึ้น (หัวเราะ) ร่างกายสมบูรณ์มาก”
“ก็ผ่านมาได้ด้วยดี ไม่เคยต้องหยุดเลย เพราะถ้าหยุดการรักษาก็จะช้าไป แล้วก็มาให้ยาเข็มสุดท้ายวันที่ 30 ธันวาคมปีที่แล้ว ก็พักไปหนึ่งเดือน แล้วต้องมาเจอคุณหมอเอายาต้านฮอร์โมนไปทาน แล้วก็มาเจอคุณหมอฉายแสงเพื่อนัดฉายแสง เริ่มวันที่ 1 ก.พ. มาเสร็จเอาวันที่ 7 มี.ค. จริง ๆ ควรจะเสร็จวันที่ 4 มี.ค. แต่เผอิญมีอยู่วันหนึ่งเป็นวันมาฆบูชา เขาจะหยุดเสาร์-อาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ ก็เลยมาเสร็จเอาวันที่ 7 ค่ะ (ยิ้ม)”
เผยไม่ได้ตัดเต้านมทิ้ง เพียงแต่ใช้วิธีผ่าตัดใหม่ คว้านเนื้อร้ายออกเท่านั้น
“เรื่องผ่าตัดเปลี่ยนเต้า คือมันมีหลายแบบ ของเราเป็นที่ข้างซ้าย พอดีคุณหมอที่เป็นคนผ่าตัดให้ได้ไปเรียนการผ่าตัดเต้านมใหม่ให้กับคนที่เป็นมะเร็ง ซึ่งมันจะยากกว่าการเสริมเต้านม ซึ่งคุณหมอเขาทำอยู่แล้ว สบายมาก แต่อันนี้ยากกว่าเยอะเพราะมันเป็นการทำเต้านมขึ้นมาใหม่ บางคนก็จะใช้เนื้อจากท้องขึ้นไปใส่เป็นเนื้อ ในบางรายที่อาจจะทำข้างเดียว คือ ผ่าข้างเดียว เขาก็อาจจะทำครั้งเดียว แต่บางคนเขาก็แนะนำว่าผ่าไปเลยสองข้างถ้าเป็นเยอะกันมันลามก็มี หรือบางคนกลัวก็ตัดไปเลยก็มี ฉะนั้นก็อยู่ที่เราตกลงกับคุณหมอ”
“ทีนี้ของเรามันเป็น 2 เม็ด ซึ่งค่อนข้างจะเยอะอยู่เหมือนกัน อยู่ในระดับที่ 2 มีเม็ด 2 เซนฯ 1 เม็ด และอีกเม็ดที่เป็นเม็ดเล็ก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่ามันมี 2 เม็ด แต่พอไปอัลตราซาวด์ถึงเห็น พอตรวจพบว่าใช่ ความจริงถ้าเราไม่ได้ทำเต้านมใหม่ก็ต้องตัดไปเลยทั้งเต้าอยู่แล้ว และมีสิทธิที่จะตัดอีกข้างด้วย เพราะไหน ๆ ก็ตัดไปแล้ว แต่พอมันมีศัลยกรรมอันนี้ขึ้นมาก็เลยตกลงทำ ผ่าตัดโดยการเสริมเต้านมใหม่เข้าไป ของเราใช้เนื้อจากด้านหลังบวกกับซิลิโคนเป็นบางส่วน เพราะคุณหมอบอกว่าต้องฉายแสงก็เลยต้องเอาเนื้อจริงมาใส่ อีกข้างหนึ่งก็ทำไปด้วยค่ะ มันจะได้เหมือน ๆ กัน”
“มันก็ไม่ได้ตัดเต้าเดิมนะคะ เหมือนคว้านออกไป ผิวเรายังอยู่คล้าย ๆ เดิม พูดง่าย ๆ ยังมีหัวนมอยู่ ผิวข้างบนเหมือนเดิม เหมือนคนเสริมเต้านมเลย เพราะเราไม่ได้โกยเอาเนื้อมาใส่ มันแค่คว้านออก แล้วใส่ซิลิโคนเข้าไป แผลก็จะเล็กมาก เพราะมันไม่ได้ทำเยอะ แต่อีกข้างแผลอาจจะเยอะหน่อยเพราะมันจะต้องทำแผลเดียว ต้องเปิดขึ้นมาแล้วเอาเนื้อมาใส่”
เผยตรวจพันธุกรรมแล้ว ไม่ติดต่อไปถึง “ปันปัน เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ลูกสาวเพียงคนเดียวแน่นอน
“ก็ใช้ชีวิตปกติเลยค่ะ เราก็รักษาไป ไปตามที่คุณหมอนัด ไม่เคยจิตตกเลย คิดแต่ว่าเมื่อไหร่จะเสร็จๆ เพราะจะไปทำงาน (หัวเราะ) อยากให้เสร็จเร็ว ๆ ถึงบำรุงตัวเองจนอ้วนเพื่อที่จะไม่ให้มีปัญหา ทำสุขภาพจิตเราให้ดี เพราะรู้สึกว่าขั้นสองมันก็ยังไม่ถึงกับเยอะ มันต้องรักษาได้ เชื่อในความสามารถของคุณหมอแต่ละท่านด้วย ซึ่งเราก็ไปตรวจพันธุกรรมด้วย เหมือนกรณีของ แองเจลินา โจลี ที่เขาผ่าทำเต้านมใหม่โดยที่เขายังไม่ทันเป็นมะเร็งเต้านมเลย เพราะเขาไปตรวจเจอว่าเขามีโอกาสจะเป็นมะเร็งถึง 87% เราก็เลยอยากจะรู้บ้าง เพราะมันเป็นผลต่อไปถึงลูก เราก็เลยตรวจพันธุกรรมด้วย แต่ปรากฏว่าเราเป็นปกติ ทีนี้ก็จะไม่มีผลต่อลูกเรา เพราะมันไม่ได้ถ่ายทอดไปถึงลูก”
“ก็สบายใจขึ้นนะ (ยิ้ม) มีผลต่อการทำประกันด้วยนะ ถ้าลูกเราจะไปทำประกันแล้วประวัติคุณแม่เป็นเนี่ย คุณหมอบอกว่าเอาใบนี้ให้ประกันดูเลยว่าเราไม่ได้เป็นคนถ่ายทอดพันธุกรรมไปให้ลูก แต่ถ้าเขาจะเป็นก็เป็นของเขาเอง เพราะเราทุกคนเป็นได้เอง แต่ถามว่าตอนนี้หายขาดไหม อันนี้ไม่ทราบจริง ๆ มันอยู่ที่ตัวเราค่ะ แต่ตอนนี้เสร็จในการรักษาที่เราเป็นแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ทานยาต้านฮอร์โมนและติดตามอาการ คุณหมอก็จะนัดทุก 3 เดือน แล้วอาจจะเป็น 6 เดือน”
“เดี๋ยวอาจจะไปขอคุณหมอตรวจมะเร็งปากมดลูก แต่เราก็เคยตรวจสแกนคอมพิวเตอร์ ตับ ไต ไส้ พุงก็ตรวจได้ถ้าตรวจพบนะคะ แล้วก็คงจะปรึกษาคุณหมอว่าควรจะตรวจอะไรอีกบ้างหลังจากนี้ เพราะว่าวันที่ 25 นี้จะบินไปหาน้องปันปัน ไปประมาณ 2 อาทิตย์กว่า ๆ แล้วก็กลับ”
“จริง ๆ มันก็มีโอกาสจะกลับมาเป็นอีกนะ เพราะว่าเราไม่มีสิทธิรู้เลย แต่มีคนที่รู้จักตอนที่ไปทำคีโม ก็มีเคสหนึ่ง ภายใน 10 ปี เขาเป็นมะเร็ง 3 ครั้งนะ แล้วเขาก็ยังมายืนคุยได้ปกติเลย เขาก็สู้มาผ่านมาได้ หนักกว่าเราอีก เขาเป็นที่กระดูกด้วยซ้ำ ซึ่งกระดูกมันรักษายาก มันไม่สามารถตัดทิ้งได้ แต่แบบเรามันตัดทิ้งได้ ลำไส้ยังตัดทิ้งได้ แต่บางที่มันรักษายาก เช่นตับมันก็ตัดไม่ได้ มันมีอันเดียว ของเราแพร่ไปที่ต่อมน้ำเหลืองถึง 6 ต่อม ก็ตัดทิ้งไปเลย”
เผยชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ บอกไม่กลัวตายอีกแล้ว
“คือชีวิตเรามันก็ต้องเจออะไรผ่านเข้ามาในชีวิตบ้าง แต่ใจเราสำคัญที่สุด เพราะถ้าใจเราแข็งแรง มันก็จะผ่านพ้นไปได้ ใจเรามันต้องสู้ด้วย ไม่งั้นร่างกายเราก็จะอ่อนแอ เราก็ไม่ได้ถึงกับว่าสู้กับเขานะ เพราะเราก็ไม่เคยโกรธเขาเลยมะเร็งเนี่ย เพราะการที่เขาเข้ามาเยี่ยมเยียนมาเกิดในตัวเรามันสร้างสิ่งดี ๆ ให้เราหลายอย่างมากเท่าที่เราทบทวน ไม่ว่าจะนิสัยใจคอ ความรู้สึกนึกคิด มันสอนเรา เพราะเราได้เจอในสิ่งที่ไม่เคยเจอ คนที่ลำบากยากไร้ ความเห็นแก่ตัวของเราอาจจะน้อยลง ความวีนมีน้อย”
“รู้สึกว่าตัวเองคิดดีขึ้นนะ เพราะเขาสอนเราว่าคิดดีมันดีกว่านะ แต่ถ้าสมัยก่อนอาจจะมีบ้างเวลาไม่ได้ดั่งใจมีวีนบ้าง แต่ตอนนี้ใจเย็นขึ้น ขับรถยังช้าลงเลย ไม่รู้จะรีบไปทำไม (ยิ้ม) เรามองเห็นความตายมั้ง แต่เราผ่านมาได้ ความตายจะมาเมื่อไหร่เราก็ไม่กลัว ห่วงแต่คนที่เขาอยู่กับเรา แล้วเราจะมีประโยชน์ช่วยเขาได้เท่านั้น แต่ตัวเราไม่กลัวแล้ว เป็นแล้วเราก็รักษากันไป แล้วก็หายได้ และอาจจะเป็นอีกก็ได้ อาจจะตายก็ได้มันก็เป็นได้หมด เราก็ทำวันนี้ให้มันดีที่สุดแล้วกัน (ยิ้ม)”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม