“ยังอยู่ดีมีชัยค่ะ”
คือคำตอบที่ “ทับทิม-มัลลิกา” ตอบไว้ในไอจี ต่อคำถามที่แฟนคลับถามเข้ามาเกี่ยวกับสถานภาพของเธอกับ “ปลื้ม- สุรบถ หลีกถัย” หลังจากที่เธอเป็นฝ่ายโพสต์รูปและข้อความว่าซื้อบ้านหลังใหม่ให้กับตัวเอง
แต่กระนั้นก็ไม่อาจดับกระแสข่าวลือที่หนาหูว่าชีวิตคู่ของ 2 พิธีกร VRZO ถึงกาลอวสานลงแล้ว สังเกตจากที่ระยะหลังในไอจีส่วนตัวของทั้งคู่ ไม่ค่อยได้ลงภาพคู่สวีตหวานกันเช่นแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นไอจี @ tubtimofficial รวมถึงเฟซบุ๊ก TubTimMallika ของฝ่ายหญิง ที่ไม่ได้โพสต์ภาพคู่กับหนุ่มปลื้มมานานแล้ว ขณะเดียวกันที่ไอจี @ pleum_official นั้น หลังจากที่มีการ โพสต์ภาพคู่ในวันเกิดของภรรยาเมื่อประมาณ 8 สัปดาห์ที่แล้ว ก็ไม่มีการโพสต์ภาพคู่อีกเลย รวมถึงในเฟซบุ๊ก pleumvrzo ก็เช่นกัน
จุดสังเกตต่อมา ก็คือชื่อของทับทิมในเครดิตท้ายรายการ ก็ถูกเปลี่ยนจาก “มัลลิกา หลีกภัย” กลับมาเป็น “มัลลิกา จงวัฒนา” อันเป็นนามสกุลเดิม
ยังไม่นับเรื่องที่ปลื้มอันฟอลโลไอจีของทุกคน แม้แต่ภรรยาของตัวเอง
ต่อเมื่อนักข่าวถามย้ำกลับไปที่ทับทิม ก็ได้รับคำตอบในเชิงแบ่งรับแบ่งสู้ว่า รอให้ฝ่ายชายเป็นผู้ออกมาพูดเองจะดีกว่า
จนเมื่อกระแสข่าวลือเริ่มถาโถมเข้ามาหนักเข้า ปลื้มจึงได้ตัดสินใจออกมาชี้แจงโดยการโพสต์ข้อความในไอจีของตัวเอง ยอมรับว่าได้เลิกกับทับทิมจริงตามข่าว
"ตามที่เห็นข่าวของผมกับทับทิม และผมได้คุยกับทับทิมแล้ว ผมจึงได้รับหน้าที่เป็นคนชี้แจงข่าวครับ ผมขอชี้แจงว่า "ครับ เราเลิกกันมาสักพักแล้ว" แต่ไม่ใช่เพราะว่าเราทะเลาะกันหรือมีเรื่องไม่พอใจต่อกันครับ เราคุยกันดี และเราเข้าใจกัน เราต่างรู้ว่า "เรารักกันมากแค่ไหน" แต่เราเพิ่งมารู้ว่า "เรามีความรักและความห่วงใยกันแบบเพื่อน" อาจเป็นเพราะเราเริ่มกันมาแบบเพื่อน เราห่วงใยกัน ดูแลกัน ผูกพันกัน เราเข้าใจกัน เราเลยคิดว่ามันเป็นความรักแบบคนรัก แต่หลังจากมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เราจึงเพิ่งเข้าใจว่า "มันไม่ใช่แบบคนรักแต่มันเป็นแบบเพื่อน มันไม่ใช่ในรูปแบบชีวิตคู่" ทับทิมคือเพื่อนที่แสนดีของผม เราดีต่อกันมาตลอด และต่อจากนี้เราก็จะดีต่อกัน กราบขออภัยทุกท่านที่ติดตามนะครับ ขอให้ทุกท่านโปรดเข้าใจและเคารพในการตัดสินใจของเราทั้งสองด้วย ทั้งหมดมันมีเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณครับ/ค่ะ...ปลื้ม/ทับทิม"
จากนั้นจึงมีข้อความจากฝั่งของทับทิมตามออกมา หลังคำถามที่ค้างคาใจถูกฝ่ายชายเฉลย
"ชีวิตนี้ ไม่ได้หวังว่าจะเจอวันแบบนี้เหมือนกันค่ะ... แต่ยังไงแล้ว ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้... ทับทิมอยากพูดแค่คำว่า ขอบคุณ.. ขอบคุณเพื่อนรักและทีมงานทุกคนที่อยู่เคียงข้างและเข้าใจ สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกันไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ตาม ... ตัวทับทิมไม่ได้มีโอกาสถ่ายรายการให้แฟนๆ ได้ติดตามทางช่องหลักแล้ว เนื่องจากได้ขอลาออกเมื่อสิ้นเดือนมกรา ทับทิมขอโทษแฟนๆ น้องๆ ที่ไม่สามารถทำรายการให้มีต่อไปได้อีก ถึงแม้จะรักรายการมากและไม่อยากทิ้งมันไปก็ตาม...ขอบคุณมากนะคะทุกคน .. ชีวิตนี้ไม่มีอะไรดีเท่า มีครอบครัวที่ดี มีเพื่อนที่ดี มีคนที่รักเรา แค่นี้ก็มากพอแล้วจริงๆ ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว.. ส่วนน้องเดค บ้านใหม่แม่เสร็จเมื่อไร ไปรับลูกมาอยู่ด้วยแน่นอนจ้า"
แต่ถึงอย่างนั้น เหตุผลที่ปลื้มบอกว่า..... เราคุยกันดี และเราเข้าใจกัน เราต่างรู้ว่า "เรารักกันมากแค่ไหน" แต่เราเพิ่งมารู้ว่า "เรามีความรักและความห่วงใยกันแบบเพื่อน"… ดูเหมือนทุกคนที่ติดตามอ่านข่าวจะปักใจว่าเป็นเพียงเหตุที่สวยหรูที่ยกมาอ้าง มากกว่า เพราะเสียงส่วนใหญ่มั่นใจว่าเหตุผลของการเลิกราจะต้องมีเงื่อนงำอะไรมากไปกว่านั้น
โดยเฉพาะปมปัญหา “แม่ผัว-ลูกสะใภ้” !!!
ที่ถูกโยงมาเป็นประเด็นหลัก เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูข้อความในช่วงเดือนธันวาคมที่ฝ่ายมารดาของปลื้มโพสต์ไว้ในไอจี @vrzomom ซึ่งถูกขุดคุ้ยโดยสมาชิกของเว็บ www.pantip.com หมายเลข 1208739 แม้ไม่ได้ระบุถึงแบบตรงๆ แต่ก็แฝงนัยชวนให้คนคิด
โดยเนื้อหาในข้อความนั้น เขียนตำหนิถึงการกระทำของคน ในเชิงเปรียบเปรยกับสุนัข ความว่า
..... สุนัขที่เลี้ยงไว้ มีแต่ความซื่อสัตย์ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทนอะไรสักอย่าง ไม่มีกระแดะหน้าไหว้หลังหลอก ไม่ต้องปรุงแต่ง เลี้ยงหมามันรู้จักบุญคุณน้ำข้าว ไม่มีอกตัญญู ไม่เคยแว้งกัด ไม่เคยลืมตัว .....
และที่แรงสุด ก็เห็นจะเป็นข้อความที่เปรียบเปรยต่อว่า
..... ไม่เคยหายออกจากบ้านไปติดสัดเป็นอาทิตย์ อยู่บ้านเป็นกุลสตรีหมา ไม่เคยทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่ครอบครัวที่อุตส่าห์ขุนมันมา .....
ซ้ำเมื่อมีคนมาโพสต์ให้กำลังใจ ฝ่ายมารดาของปลื้มก็ยังโพสต์ตอบกลับไปอีกว่า
..... ขอบคุณที่ให้กำลังใจแม่ค่ะ แต่เรื่องบางเรื่องมันสามหาวเหิมเกริมเกินกว่าจะให้อภัย ชีวิตช่วงนี้สอนให้รู้ว่า เลี้ยงหมาดีกว่าเลี้ยงคนคิดคดทรยศอยู่เป็นอาจิณ เหมือนเลี้ยงอสรพิษอยู่ข้างกาย มันช่างน่ากลัว แม่ก็เลยตัดสินใจต่อไปนี้ตาต่อตา ฟันต่อฟัน.....
แต่ครั้นถูกตั้งข้อสังเกตว่า ข้อความดังกล่าวมีเจตนาพาดพิงถึงลูกสะใภ้ ก็ออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง แถมยังท้าว่าจะฟ้องหมิ่นประมาทเสียอีก
"เพิ่งทราบข่าวว่ามีปัญหาเป็นเรื่องราวไร้สาระ มีการเข้าใจผิดกันอย่างใหญ่หลวง แม่ไม่เคยว่าหรือมีปัญหาใดๆ กับทับทิม ตั้งแต่แต่งงานมาก็อยู่กันอย่างปกติสุข ทับทิมเป็นลูกสะใภ้ที่ดีมีความประพฤติเหมาะสม ไม่เคยทำอะไรให้แม่เสียใจ ข้อความใดที่มีใครคิดว่าแม่กล่าวถึงทับทิม แม่ขอปฎิเสธโดยสิ้นเชิง ถ้ามีใครอ้างคำพูดว่าแม่กล่าวร้ายทับทิมและทำให้เขาและแม่เสียหายในโซเชียล มีเดีย โดยการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต คอมฯ เครื่องมืออีเลคโทรนิคทุกชนิด โทรศัพท์ โทรสาร แม่ขอนำเนินคดีทางกฎหมายในข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียงจนถึงที่สุด ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็กๆ ขออยู่อย่างสงบสุขบ้างได้ไหมคะ ขอบคุณที่บอกค่ะ ตอนนี้ตั้งทนายเก็บข้อความทุกเพจ ทุกคอมเม้นต์ และกดแชร์ แพร่ข้อความอันเป็นเท็จที่ใส่ร้ายว่าร้ายให้แม่และทับทิมเสื่อมเสียชื่อเสียงแล้วค่ะ ขอยืนยันว่าแม่ไม่เคยว่าทับทิม เขาเป็นลูกสะใภ้ที่ดี ซื้อขนม อาหารที่แม่ชอบมาให้รับประทานอยู่เสมอ มีความประพฤติเรียบร้อย จบและหยุดแค่นี้เถอะค่ะ ไปสนใจในเรื่องที่มีประโยชน์ ต่อปากท้องของประชาชน ยังมีคนลำบากอีกเยอะที่รอคอยความเอาใจใส่ ความช่วยเหลือเป็นหูเป็นตาในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินอีกมาก เรื่องไร้สาระ เรื่องส่วนตัวพูดไปก็มันปากสนุกดี แต่คนตกเป็นข่าวเจ็บปวดมาก ใครไม่โดนกับตัวเองไม่รู้หรอกค่ะ เตรียมตัวไปเที่ยวปีใหม่ทำใจให้สบาย ปีหน้าจะได้มีความสุขความเจริญ พูดอะไรไปโดยไม่รู้ความจริงเป็นบาปกรรม และก็ต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาลฉลองปีใหม่กันเปล่าๆนะคะ"
เมื่อถึงวันที่ปลื้มกับทับทิมประกาศว่าแยกทางกันแล้วจริงๆ จึงไม่แปลกที่ข้อความเหล่านี้ จะถูกนำกลับมามาทบทวนและตีความอีกครั้ง ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับมูลเหตุที่ทำให้ชีวิตรักของทั้งคู่ต้องปิดฉากลง
ขณะเดียวกัน “พลอย-พงษ์รตี เจริญ” หรือ “พลอย เดอะ กิ๊ก” แฟนเก่าของปลื้ม ที่เคยเปิดศึกกับทับทิมผ่านโซเชียลฯ มาแล้ว ก็ถูกดึงเข้ามาอยู่ในกระแสข่าวอีกครั้ง เมื่อถูกตั้งคำถามว่ารู้สึกอย่างไรที่ทั้งคู่เลิกกัน ซึ่งพลอยก็มีการโพสต์ข้อความ (แขวะ) ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวแบบแรงๆ ตามสไตล์ว่า (รูป 33-35)
“ขอตอบอินบ๊อกซ์ตรงนี้นะค้า (เผื่อใครเข้าใจผิดไปอีก) ไม่ได้ยินดีอะไรทั้งนั้นเลยยยย อย่างเดียวเลยเวลาเห็น...>>>ความรู้สึกเหมือนตอนเจอแมลงสาบแค่นั้น..บาย"
สำหรับความรักของปลื้มกับทับทิมนั้น ต้องเรียกว่าพรหมลิขิตบันดาลชักพา และเป็น “รักแรกพบ” จริงๆ ทั้งคู่พบกันครั้งแรกกลางรายการ VRZO (Ep.3 ตอนที่ 1:47- 2:07) ซึ่งเป็นตอนที่ปลื้มในฐานะพิธีกรประจำรายการ พุ่งเข้าไปหาทับทิม (รูป 36) เพื่อขอ “3 คำ” ในหัวข้อ “ถ้าแฟนคุณมีกิ๊กคุณจะตัดหรือไม่?” ก่อนที่จะเริ่มต้นสานต่อความสัมพันธ์โดยการชวนให้มาเป็นพิธีกรร่วม โดยไม่รู้ว่า ทับทิมเป็นเอง ก็เคยเป็นพิธีกรรายการวัยรุ่น “สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก” มาก่อน
เมื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกัน ความสัมพันธ์ก็พัฒนาขึ้นเป็นลำดับ ก่อนที่จะตัดสินใจแต่งงานกัน เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2555 โดยได้รับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ วังสระปทุม ขณะที่ปลื้มมีอายุ 25 ปี และทับทิมมีอายุ 24 ปี แม้หลายจะมองว่ายังเด็กเกินไปที่จะใช้ชีวิตคู่ แต่ฝ่ายชายก็ยืดอกบอกว่า
"ปลื้มมองว่า สิ่งสำคัญในชีวิตของมนุษย์มีอยู่แค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งการแต่งงานมีคู่ครอง ก็ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่ปลื้มให้ความสำคัญ เมื่อเจอคนที่ใช่ในเวลาที่เหมาะสมแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรอ"
กว่า 3 ปีของการครองคู่ ทั้งปลื้มและทับทิมได้ร่วมทุกข์ ร่วมสุข และฝ่าฟันด้วยกันมาไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อตอนที่ทับทิมโดนกระแสข่าวโจมตีเรื่องการโฆษณาสรรพคุณของครีม Celeb เกินจริง โดยอวดอ้างว่าสามารถลดข้อเข่าเสื่อม ลดขาโก่ง ขับสารพิษ ทำให้ผิวพรรณดี ผมดกดำ หน้า V-Shape แถมยังแก้อาการเส้นเลือดในตาแตกอีกด้วย ซึ่งตอนนั้นฝ่ายปลื้มก็ยังออกมาปกป้องภรรยา
จากเรื่องสรรพคุณครีมเกินจริง ก็บานปลายกลายเป็นเรื่องแฉลากไส้ เมื่ออดีตตากล้องของรายการ VRZO ออกมาให้ข่าวว่าถูกหลอกใช้ให้ทำงานจนล้มป่วย แต่กลับถูกทอดทิ้งอย่างไม่ไยดี ก่อนจะมีเรื่องอื่นตามมาอีกเป็นขบวน ทั้งเรื่องมาทำงานสาย , หยาบคาย ,ขโมยของ ลามไปถึงเรื่องแฟนเก่าของทับทิม
แต่ท้ายที่สุด ทุกข์-สุขที่ร่วมฝ่าฟัน ต่อสู้กันมา ก็ไม่อาจทำให้ทั้งคู่ประคับประคองชีวิตคู่ให้อยู่รอดต่อไปได้ โดยได้ประกาศว่าเลิกกันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ขดแสดงความเสียใจกับวันคืนเก่าๆ ของ VRZO ที่กลายเป็นอดีตไปเรียบร้อยแล้ว
สมาชิกในทีมแยกย้าย ลงท้ายด้วยชีวิตคู่ล่มสลาย !!
ล้อมกรอบ
“ปลื้ม- สุรบถ หลีกภัย” เกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2530 เป็นบุตรเพียงคนเดียวของ “นายชวน หลีกภัย” อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ของประเทศไทยกับ “นางภักดิพร สุจริตกุล” ชื่อ “สุรบถ” เป็นชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แปลว่า “ท้องฟ้า”
ได้รับฉายา “ใบมีดโกนน้อย” ตามฉายา “ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง” ที่บิดาเคยได้รับ สืบเนื่องจากการที่เคยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแบบคมคาย แต่สุดท้ายกลับโด่งดังในฐานะของผู้ผลิตรายการ ที่ดูเผินๆ เหมือนว่าไร้สาระ แต่กลับกลายเป็นรายการยอดนิยมในหมู่วัยรุ่น
ข้อมูลจำเพาะ
ชื่อ สุรบถ หลีกภัย
ชื่อเล่น ปลื้ม
วันเกิด 8 ธันวาคม 2530
การศึกษา ปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
การทำงาน
ช่วย “ชวน หลีกภัย” ผู้เป็นพ่อหาเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์อย่างสม่ำเสมอ
ผู้ช่วยโฆษกกระทรวงวัฒนธรรม (10 สิงหาคม 2553 - 8 สิงหาคม 2554)
ผู้บุกเบิกและพิธีกร รายการ VRZO
“ทับทิม-มัลลิกา จงวัฒนา” เป็นลูกสาวคนที่ 3 ในจำนวน 4 คนของพ่อและแม่ เติบโตมากับการเลี้ยงดูที่คล้ายผู้ชาย จึงดูเป็นคนแก่นเซี้ยวและเปรี้ยวซนมากกว่าลูกคนอื่นๆ เป็นคนมองโลกในแง่ดี มีนิสัยขี้อ้อน แต่ก็มุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ
แจ้งเกิดในฐานะเน็ตไอดอล ก่อนที่จะถูก ”ตุ๊ก-จันทร์จิรา จูแจ้ง” ทาบทามให้มาเป็นพิธีกรรายการสตรอเบอรี่ชีสเค้ก ตั้งแต่ปีแรกที่รายการนี้ออกอากาศ ก่อนจะมีโอกาสพบกับ “ปลื้ม-สุรบถ หลีกภัย” และถูกชักชวนให้มาเป็นพิธีกรรายการ VRZO
ข้อมูลจำเพาะ
ชื่อ มัลลิกา จงวัฒนา
ชื่อเล่น ทับทิม
วันเกิด วันที่ 1 ธันวาคม 2531
การศึกษา คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
การทำงาน พิธีกรรายการ สตรอเบอรี่ชีสเค้ก
พิธีกรรายการ VRZO
ที่มานิตยสาร ผู้จัดการ 360 องศา สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 326 6-12 กุมภาพันธ์ 2559