“ดีเจนุ้ย” สะพรึง! ถูกอิทธิฤทธิ์ลูกเทพของ “ดีเจบุ๊คโกะ” ตามบีบคอถึงบ้าน เจ็บร้าวไป 3 วัน ฐานไปตะเบงเสียงใส่ ลั่นไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่ เตือนคนเลี้ยงอย่าตามกระแส ถ้าเลี้ยงไม่ดีอาจเข้าตัว เผยไม่ต่อสัญญาค่ายเอไทม์ ยังจูบปาก “เจ๊ฉอด” ปฏิเสธน้อยใจเลยขอลาออก ยิ้มรับตำแหน่ง “นางฟ้าฟรีแลนซ์” รับสัมปทานต่อจาก “แพนเค้ก”
กลายเป็นกระแสฮือฮาอีกครั้งหลังจากทั้งสายการบิน และร้านบุฟเฟ่ต์ พร้อมใจกันออกกฎต้อนรับการนำ “ลูกเทพ” เข้ามาใช้บริการกันยกใหญ่ จนกลายเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง ล่าสุด “ดีเจนุ้ย ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร” ก็ได้เล่าถึงประสบการณ์ถูกลูกเทพบีบคอจนร้าวไปทั้งร่าง พร้อมยังเผยถึงสาเหตุที่ไม่ต่อสัญญากับเอไทม์ ยืนยันว่า ไม่ได้ทะเลาะหรือน้อยใจกับ “เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” แต่อย่างใด
“เป็นคนไม่ได้เชื่อแต่ก็ไม่ได้ลบหลู่เรื่องลูกเทพ เพราะยังนับถือในศาสนาพุทธอยู่ และมีสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคือพระอยู่ แต่ก่อนหน้าที่จะมารู้จักว่าลูกเทพเป็นของบุ๊คโกะ เราจะรู้ว่าลูกเทพเขามีหลายสาย สายดำ สายขาว สายดำเขาจะมีเถ้ากระดูก ผม ของคนเสียชีวิตอยู่ในตัว และมีการห้อยน้ำมันพรายเอาไว้ เราก็ตีความไปหมดว่าลูกเทพทุกองค์ต้องเป็นแบบนี้หมด เราเลยรู้สึกกลัวจริง ๆ เวลาเราเจอลูกเทพของบุ๊คโกะ เราก็จะพูดว่ากลัว ๆ เล่นใหญ่นิดหนึ่ง พอมีอยู่ครั้งหนึ่ง คือ เราทำงานมาตลอดชีวิต เราตะเบงเสียงมาตลอดก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ แต่วันนั้นหลังจากเจอลูกเทพของบุ๊ค แล้วเราตื่นขึ้นมา เรามีความรู้สึกว่าเราโดนบีบคอ มันเจ็บร้าวขึ้นไปทั้งสองข้างของคอ เราเลยมานั่งวินิจฉัยเอา เพราะมันเหมือนมีคนมาบีบคอเรา มันเจ็บจริง ๆ วิเคราะห์ว่านอนตกหมอนก็ไม่น่าจะใช่ แต่มันก็ยังหายใจได้ปกติ ซึ่งก็เจ็บร้าวไป 3 วัน”
“และพอมันเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เราก็เลยวิเคราะห์ขึ้นมาเองว่าต้องเกิดจากลูกเทพแน่ ๆ เราเลยไปบอกบุ๊คโกะ เพราะวันนั้นเราเล่นแรงจริง ๆ เราเล่นแบบกระชากอารมณ์มาก ๆ คือ เล่นใหญ่มาก และตอนที่เรากำลังเล่นกับเขา ในจิตใต้สำนึกของเรา เรายังคิดเลยว่าเราเล่นเยอะมาก พอเรารู้สึกเล่นเยอะเราเลยคิดว่าน่าจะใช่แล้วล่ะ”
“ก็โทร.ไปคุยกับบุ๊คโกะว่าลูกของหนูบีบคอเจ๊นะอะไรประมาณนี้ และก็มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่รถยางแตก แต่จำไม่ได้ว่าใคร แต่น่าจะเป็นพี่มดดำนะ ไปล้อเล่นเขา ส่วนดีเจอาร์ตอ้วน ๆ ก็ไปท้าทายว่าขอให้มีอีเวนต์คู่กับบุ๊คโกะ ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่น่าจะมี แต่ก็มีในอาทิตย์นั้นเลย เพราะบุ๊คโกะยังเคยเล่าให้ฟังว่าตอนเอามาใหม่ ๆ ก็เปิดปิดไฟหลังรถเอง หรือจะเป็นลูกเทพของดีเจซันเดย์ ที่เลี้ยงเป็นสายดำ วันดีคืนดี ขับรถออกมาจากบ้านและอาจารย์คนที่ให้มาเนี่ยก็ โทร.มาบอกว่า เปิดม่านให้น้องเขาหน่อยนะ เพราะน้องเขาชอบดูวิว คือบ้านซันเดย์ปิดม่านเอาไว้”
“แต่โดยส่วนตัวนุ้ยไม่เชื่อนะ เพราะว่านุ้ยกลัว ซึ่งเราไม่ลบหลู่ จะมีจริงหรือไม่เราไม่รู้แต่เราไม่เลี้ยง เพราะเรามีความเชื่อว่ามันต้องมีความรับผิดชอบ อยากจะบอกเลยว่าลูกเทพเขากินบุญ ถ้าละเลยเขามันจะมีผล นุ้ยมองว่าการที่เราจะขอมันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน และถ้าเราเลี้ยงจริง ๆ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะเบื่อวันไหน”
ยอมรับไม่ต่อสัญญากับเอไทม์ ปัดทะเลาะ “เจ๊ฉอด สายทิพย์” บอกอีกฝ่ายเปิดโอกาสให้ไปเติบโต กระชากฉายา “นางฟ้าฟรีแลนซ์” ต่อจาก “แพนเค้ก เขมนิจ”
“ก็มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งการเปลี่ยนแปลงมันก็มีในทุก ๆ ปี เราก็อยากจะเปลี่ยนแปลงบ้าง ดีเจคนนี้อยู่ คนนั้นไป และพอดีคู่ที่เราจัดด้วยกันนั้นเขาไปไง เราก็เลยตัดสินใจขออนุญาตผู้ใหญ่ คือ ไม่ได้ออกแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เราคุยกันกว่า 3 รอบ คุยกันในรายละเอียดเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งการที่พี่ปอไม่อยู่มันก็คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจว่าเราจะอิสระ เพราะว่าเราจัดวิทยุและอยู่เอไทม์มากกว่า 9 ปี และพอการเปลี่ยนแปลงที่เป็นภาพใหญ่ขึ้นมา เราเลยลองพิจารณาดู เราก็อยากได้อะไรใหม่ ๆ บ้าง พอเขาอยากเปลี่ยนแปลงซึ่งมันก็ไม่ได้กระทบเราโดยตรงหรอกนะ แต่เราก็อยากเปลี่ยนบ้าง”
“จริง ๆ แล้วบ้านเดิมที่เราเคยอยู่ เขาให้อิสระเรามากอยู่แล้ว อยู่หรือไม่อยู่ก็เหมือนปกติแล้ว เพราะเราไม่อยู่เราก็ยังรู้สึกดีกับเอไทม์เหมือนเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม นุ้ยออกมาก็ยังมีละครเรื่องเพื่อนรักเพื่อนร้ายอยู่เลย ในส่วนของเรื่องการปรับเปลี่ยนที่มันกระทบต่อตัวเรา ก็มีทั้งการปรับให้เราไปอยู่กลางคืน และก็ตอนเช้า เราก็เลยคิดว่าเราทำวิทยุมานาน เราก็เต็มอิ่มกับมันแล้ว และก็อยากได้อะไรใหม่ ๆ แต่ใหม่ ๆ ไม่ได้หมายถึงว่าจะหาบ้านใหม่นะ (ยิ้ม) ซึ่งพอเรื่องนี้ถึงหูนาย นายเป็นคนที่ให้โอกาสทุกคนและทุกครั้งอยู่แล้ว ซึ่งคราวนี้ก็เช่นกัน พี่ฉอดก็เปิดโอกาสให้เราไปโต ให้เราออกมาใช้ชีวิตด้วยตนเอง”
“ยืนยันตรงนี้ว่าไม่ได้ทะเลาะกัน (เสียงสูงสไตล์นุ้ย) ไม่มีทะเลาะกันแน่นอน แต่ด้วยเนื้องานทั้งหมด เพราะพอปี ๆ หนึ่งมันก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง มันก็จะมีการคัดเลือกอยู่แล้ว และเราก็ต้องอยู่ในจุดที่ถูกคัดเลือกว่าเราจะไปอยู่ในจุดไหน และตัวนุ้ยเองก็ไมได้รีเควสว่าเราต้องมีรายการ 3 รายการ เราไม่ได้มีสิทธิ์ต่อรองอยู่แล้ว ภาพที่ออกมาเราก็เหลือแค่ละคร เพราะวิทยุเราตัดสินใจแล้วว่าเราไม่จัด เพราะทุกวันนี้ก็ยังไปถ่ายละครอยู่ ซึ่งถ้ามีอะไรก็เรียกใช้นุ้ยได้เสมอ ขาดคนจัดรายการวิทยุนุ้ยก็ไปทำแทนได้ เพราะนุ้ยเป็นฟรีแลนซ์ เป็นนางฟ้าฟรีแลนซ์ (ยิ้ม) รับมอบตำแหน่งแทนจากแพนเค้ก เพราะคนนั้นเขาก็มีสังกัดแล้ว”
“ถามว่าพอมาเป็นฟรีแลนซ์แล้วมันแตกต่างจากเดิมยังไงหรือเปล่า นุ้ยจะเล่าให้ฟังว่าตอนที่อยู่เอไทม์ เขาค่อนข้างที่จะเปิดโอกาสให้เรามาก คุณเป็นแค่เป็นพนักงานประจำเท่านั้นที่มาตอกบัตรในช่วงเวลาทำงานของคุณ พอเราออกมาเราก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม เพราะงานที่ติดต่อเข้ามาก็เป็นงานที่ติดต่อผ่านเรามาโดยตรง ปกติตอนอยู่บริษัทก็ไม่ได้มีงานอะไรติดต่อผ่านบริษัทอยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่าไม่ต่างกันมาก ยังมีงานติดต่อเข้ามาปกติเหมือนเดิม แต่การเป็นฟรีแลนซ์ในตอนนี้ของนุ้ย นุ้ยได้ทำอะไรที่เป็นอิสระมากกว่า มันได้ลองทำอะไรใหม่ ได้คิดและตัดสินใจด้วยตนเอง”
“โดยอาชีพหลักของนุ้ย คือ การออกรายการโทรทัศน์ คือ จะเป็นอย่างนี้ตลอดทั้งปีทั้งชาติ มันก็มีเข้ามาไม่ขาดสายเลย และทุกปีที่มีการปรับเปลี่ยนก็จะมีบริษัทต่าง ๆ ติดต่อเราเป็นเรื่องปกติ เลยไม่รู้สึกเกี่ยวกับเรื่องงานว่าเปลี่ยนไปไหม เพราะงานก็มีตลอดและน้อมรับใช้ทุกค่าย ทุกช่อง ทุกรายการ (ยิ้ม) แต่ก็มีคนมาดีลให้เราไปเซ็นสัญญา ซึ่งสวยเข้าไปอีก มีทั้งวิทยุและโทรทัศน์ให้ไปเซ็น และก็ไปจัดรายการ แต่เราเพิ่งออกมาก็ไม่อยากจะทำอะไรให้มันเยอะแยะมากมาย เพราะเราก็เกรงใจบริษัทเก่าอยู่ และก็ขอดูก่อนว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่ แต่แค่เรียกนุ้ยไป นุ้ยก็ยินดีพร้อมรับใช้อยู่แล้ว”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม