ถูกวิจารณ์จากโลกโซเชียลอย่างหนักสำหรับภาพยนตร์ไทยเรื่อง "เจ้าชายมือใหม่ The..new..prince" (ชื่อเดิม "เจ้าชายมือใหม่หัวใจงุ๊งงิ๊ง")
ทีมข่าว "Super บันเทิง" ลองตรวจสอบถึงรายละเอียดของหนังเรื่องนี้ก็พบว่ายิ่งลงลึกในรายละเอียดมากเท่าไรก็ยิ่งมีข้อชวนสงสัยมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม" ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้จัดทำโครงการภาพยนตร์เรื่องนี้
ทำไมถึงน่าเคลือบแคลง ทำไมถึงชวนสงสัยลองมาดูกัน...
- วันที่ 15 ม.ค. 2558 ทาง "STAR CLUB TV ONLINE" ได้มีการโพสต์คลิป "เก็บตกเบื้องหลังกองถ่ายภาพยนตร์ เจ้าชายมือใหม่หัวใจงุ๊งงิ๊ง" ผ่านเวบไซต์ยูทูบ พร้อมกับให้รายละเอียดของภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ค่อนข้างจะละเอียดดังนี้
- ตรวจสอบไปยัง "บริษัท ณัฐมาศ จำกัด" พบว่าเพิ่งจะมีการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลไปเมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม 2558 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท วัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการผลิตภาพยนต์และวิดีทัศน์ทุกประเภท รายการวิทยุ โทรทัศน์ ละคร รายการบันเทิง โดยบริษัทตั้งอยู่ที่ 99/26 หมู่บ้านวิวไม้ 2 หมู่ที่ 3 ถนนเก้ากิโล ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110 และไม่ปรากฏเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ (ดูรายละเอียดที่ http://idewblog.net/0205558020626.html)
- จากนั้นตรวจสอบไปยังแฟนเพจ "ธนบดี สยามมงคลฟิล์ม" ซึ่งถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนับสนุนหนังเจ้าชายฯ ร่วมกับ "บริษัท ณัฐมาศ จำกัด" กลับปรากฏแต่ข้อมูลของ "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม" พร้อมเบอร์ติดต่อ
-ทีมข่าวติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ ที่ถูกระบุไว้เบอร์แรกปลายสายตอบว่าไม่รู้จักชมรมที่ว่า อีกเบอร์ไม่สามารถติดต่อได้
อย่างไรก็ตาม หลังลองหารายละเอียดเกี่ยวกับ "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม" ผ่านทางโซเชียลก็พบเวบไซต์อย่างเป็นทางการ ที่ http://starclubtvonline.circlecamp.com/index.php?page=contact ระบุที่ตั้งของชมรม "สำนักงานใหญ่ : ชั้น2 จันเกษม พลาซ่า แยก 9-1 ซ.รัชดา 36 (ซ.เสือใหญ่), จันทรเกษม จตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900"
- โดยในเวบไซต์ได้บอกถึงที่มาของ "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม" ผ่านคลิปวิดีโอที่ทาง "STAR CLUB TV ONLINE" เป็นผู้โพสต์ว่า...
- เมื่อผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังหมายเลข 029391450 และ 0909955090 ตามที่มีการแจ้งไว้เพื่อขอสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับชมรมฯ ปรากฏว่าเบอร์แรกแจ้งว่า...หมายเลขไม่ถูกต้อง ขณะที่หมายเลขได้ถูกระงับการใช้งานชั่วคราว
- ตรวจสอบผ่านสื่อโซเชียลพบว่า "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม" เคยปรากฏเป็นข่าวที่พอจับต้องได้เมื่อครั้งจัดงานเปิดตัวโครงการภาพยนตร์เรื่อง "ตาดูดาวเท้าเหยียบดิน" และ "คุณหนูคอมพิวเตอร์" เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2556 ในครั้งนี้นมีการระบุถึงประธานชมรมฯ ผู้ก่อตั้งโครงการคือ "นายธนากร ใจภวังค์" หรือ "ปุ้ย" นักเรียนจากโรงเรียน กุนนที ที่ตอนนั้นมีอายุเพียง 17 ปี
- อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการปล่อยคลิปพรีเซนต์หนังเรื่อง "ตาดูดาวเท้าเหยียบดิน" ออกมาแล้วก็ไม่ปรากฏเลยว่าหนังเรื่องนี้เคยถูกสร้างต่อและออกฉายช่วงไหน เช่นเดียวกับ "คุณหนูคอมพิวเตอร์" ที่ไม่ปรากฏเป็นข่าวถึงคืบหน้าใดๆ ออกมาอีกเช่นกัน
- ที่ผ่านมาตราสัญลักษณ์ "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่ามีจริยธรรม" ที่ปรากฏอยู่ตามคลิปต่างๆ มีถึง 3 รูปแบบด้วยกัน
- และเป็นที่หน้าสังเกตว่า ตราสัญลักษณ์ "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม" กับภาพโพรไฟล์ที่ "STAR CLUB TV ONLINE" ใช้นั้นคือภาพเดียวกัน
- นอกจาก "STAR CLUB TV ONLINE" ยังมี PE Association ที่โพสต์คลิปของ "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม" โดยทั้งสองต่างก็มีตราสัญลักษณ์ที่คล้ายๆ กัน
ทีมข่าวเข้าไปไล่ตรวจสอบ "STAR CLUB TV ONLINE" และ PE Association พบว่ามีการโพสต์คลิปเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ของของชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรมไว้ดังนี้
"ผีดุ" มีสองคลิป คือ Official Trailer (เผยแพร่เมื่อ 17 ม.ค. 2013) โดยในตอนท้ายหนังระบุข้อความว่า..."ภาพยนตร์เรื่องแรกจากนักแสดงวัยรุ่นกว่า 100 ชีวิต...ที่ใช้เวลาถ่ายทำมากกว่า 2 ปี มีปัญหาในการเปลี่ยนนักแสดงมากที่สุดและใช้สถานที่ในการถ่ายทำมากที่สุด แต่บัดนี้พร้อมแล้ว! เมษายน 2556 ทุกโรงภาพยนตร์" ขณะที่อีกคลิปนั้นเป็นคลิปทีเซอร์ของหนัง เผยแพร่เมื่อ 8 พ.ค. 2014 ซึ่งในตอนท้ายได้ปรากฏข้อความเดียวกัน แต่ทิ้งท้ายไว้ว่า..."เร็วๆ นี้ทุกโรงภาพยนตร์"
"ผ่าหน้ากาก" รายละเอียดระบุว่าเป็นภาพยนตร์ที่จะส่งเข้าประกวดระดับโลก ส่วนในคลิปเป็นการเปิดรับสมัครนักแสดงเข้าร่วมงาน (เผยแพร่เมื่อ 14 มี.ค. 2014)
"ตาดูดาวเท้าเหยียบดิน" (เผยแพร่เมื่อ 11 ก.ย. 2013) เป็นวิดีโอพรีเซ็นต์รายละเอียดของหนัง สถานที่ถ่ายทำ รายชื่อนักแสดง พร้อมข้อความสุดท้ายที่ว่า "พบกับเรา เร็วๆ นี้ ตาดูดาวเท้าเหยียบดินทุกโรงภาพยนตร์"
"ตะเคียน" มีอยู่ 2 คลิปคือ "ภาพจากภาพยนต์ ตะเคียน" (เผยแพร่เมื่อ 17 ก.ย. 2014) และคลิป "ทดสอบภาพ tailer movie HD ตะเคียน" (เผยแพร่เมื่อ 26 ธ.ค. 2014) ทั้งสองคลิปไม่มีรายละเอียดใดๆ นอกจากเนื้อหาเกี่ยวกับหนังที่ระบุไว้แต่เพียงว่า "ตำนานรักนางพญาต้นไม้พันปี" และข้อความ "เร็วๆ นี้ทุกโรงภาพยนตร์"
"เจ้าชายมือใหม่หัวใจงุ้งงิ้ง" ในคลิปที่ระบุว่าเป็นเพลงประกอบหนัง (เผยแพร่เมื่อ 16 พ.ค. 2015) แต่เพลงที่ใช้กลับเป็นเพลง Tong Hua (Fairy Tale) ของศิลปินจีน "กวางเหลียง" (Guang Liang) และอีกคลิปเป็นคลิปหนังตัวอย่างที่มีการเปลี่ยนชื่อเป็น "เจ้าชายมือใหม่" THE NEW PRINCE ที่ถูกโพสต์ออกมาเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2015
ในคลิปตัวอย่าง "เจ้าชายมือใหม่" THE NEW PRINCE แม้จะระบุไว้อย่างชัดเจนว่านี่คือ Official Trailer แต่กลับมีคำว่า "กำลังปรับแต่ง" ต่อท้าย ซึ่งนอกจากจะไม่ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับหนังแล้ว แล้วทีมงานเองยังมีการโพสต์ตอบโต้ประชดประชันไปยังคนที่เข้ามาแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์อีกต่างหาก
- ในคลิป "เก็บตกเบื้องหลังกองถ่ายภาพยนตร์ เจ้าชายมือใหม่หัวใจงุ๊งงิ๊ง" ระบุชื่อผู้กำกับคือ "พุฒิพงษ์ ชูชื่น" แต่ในโปสเตอร์ชื่อผู้กำกับคือ "กรกฎ กรกฎา" ซึ่งเมื่อลองเสิร์ชหาข้อมูลในสื่อโซเชียลก็ไม่พบรายละเอียดเลยว่าเจ้าตัวเป็นใคร? เคยมีผลงานอะไร?
- เอเยนซี Artist Siam Agency entertainment ที่ขึ้นชื่อปรากฏอยู่ในคลิป "เจ้าชายมือใหม่หัวใจงุ้งงิ้ง เพลงประกอบ" ครั้นพอในคลิปตัวอย่างหนังกลับมีการเปลี่ยนชื่อ-แปลงโลโก้เป็น ARTIST SIAM (ARSA) ซึ่งจากการตรวจสอบทางโซเชียลก็แทบจะไม่พบรายละเอียใดๆ เลยเกี่ยวกับเอเยนซีแห่งนี้เช่นกัน
- แฟนเพจอย่างเป็นทางการของหนังมี 2 แฟนเพจคือ "เจ้าชายมือใหม่หัวใจงุ๊งงิ๊ง 왕자 버피 마음 야마구치 플 레이และ "เจ้าชายมือใหม่" โดยแฟนเพจแรกมีการอัพเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคมและไม่มีการอัพเดตอะไรอีกเลย ขณะที่แฟนเพจหลังยังคงมีการอัพเดตอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่ที่แปลกไปกว่าแฟนเพจหนังเรื่องอื่นๆ ก็คือทั้งสองแฟนเพจหาได้ให้รายละเอียดใดๆ เลยเกี่ยวกับตัวหนังของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องย่อของหนัง ตัวผู้กำกับ ฯ แต่กลับเน้นภาพและกิจกรรมที่นักแสดงซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่คุ้นทั้งหน้าและชื่อแทน
- หนัง "เจ้าชายมือใหม่" มีกำหนดเข้าฉายในโรงเครือเมเจอร์วันที่ 26 พ.ย. แต่เมื่อตรวจสอบไปยังเวบไซต์ www.majorcineplex.com กลับยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหนังนี้ปรากฏ
- ล่าสุดวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2558 มติชนออนไลน์ได้รายงานข่าวได้อ้างถึง "แหล่งข่าว" ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่หนังมีสัญลักษณ์ของ "การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" ปรากฏอยู่บนโปสเตอร์ รวมถึงกระแสข่าวอวดอ้างทำนองว่าหนังได้รับการรับรองจากกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) อย่างเป็นทางการแล้วว่าเป็นภาพยนตร์ที่ส่งเสริมวัฒนธรรมนั้น เรื่องของเรื่องก็คือ...
- 15 ตุลาคม ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ "กรกฏ กรกฏา" ที่ถูกระบุชื่อว่าเป็นผู้กำกับหนังมีการโพสต์หนังสือยืนยันว่าทางกระทรวงวัฒนธรรมยินดีสนับสนุนหนังเรื่องนี้พร้อมระบุให้ใช้โลโก้ไปปรากฏในสื่อและในผลงานการแสดงของหนังเรื่อง "เจ้าชายมือใหม่หัวใจงุ๊งงิ๊ง" ได้
- ตรวจสอบแฟนเพจเฟซบุ๊ก "กรกฏ กรกฏา" พบว่าไม่มีการให้รายละะเอียดใดๆ ไว้และเพิ่งจะมีการโพสต์ข้อความแรกเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม
- 16 ตุลาคม เฟซบุ๊ก "กรกฏ กรกฏา" มีการโพสต์คลิปวิดีโอที่ตัวผู้กำกับและนักแสดงบางส่วนไปบันทึกเทปรายการ "จิ๊บ จิ๊บ กอสสิปบันเทิง" ทางช่อง NOW โดยในรายละเอียดตัวผู้กำกับยืนยันว่าได้รับการสนับสนุนจากทาง ททท.ที่เพชรบูรณ์, นักแสดงนำที่เล่นเป็นเจ้าชายคัดเลือกมาจากผู้เข้าร่วมประกวดกว่า 1,700 คน, ตอนนี้หนังจำเป็นต้องดึงกลับมาจากการพิจารณาของกองเซ็นเซอร์เพื่อที่จะดูรายละเอียดอีกทีว่ามีอะไรไม่สมบูรณ์ ส่วนโปสเตอร์และหนังตัวอย่างที่ถูกเผยแพร่ผ่านโลกโซเชียลกระทั่งถูกวิจารณ์อย่างหนักทุกอย่างอยู่ในระหว่างการปรับปรุง
เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้โปรเจ็กต์ส่วนใหญ่ที่ "ชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม" จะแทบไม่ได้ออกฉายโรงตามโฆษณาไว้เลย แต่ทางชมรมฯ เองก็มักจะมีการทำวิดีโอพรีเซ็นต์เตชั่น หรือมีการโฆษณาถึงโปรเจ็กต์หนังเรื่องใหม่ๆ เพื่อเปิดหานักแสดงหน้าใหม่คราวละมากๆ และเน้นไปที่เด็กๆ เป็นสำคัญออกมาอยู่เรื่อยๆ
สำหรับ "กรกฏ กรกฏา" นั้นเป็นชื่อใหม่ของ "ไก่ ทรงกลด" แต่ชื่อจริงตามบัตรประชาชนของเจ้าตัวคือนาย "ศิวะรัฐ พูลยอด" ซึ่งเมื่อปี 2553 เคยถูกผู้เสียหายกว่า 7 คนรวมตัวกันฟ้องร้องในข้อหาฉ้อโกงเงินลงทุนในการทำหนังมาแล้ว (ดูรายละเอียด"ไก่ ทรงกลด" ยันไม่มีเจตนาโกงเงินหลบหน้าคู่กรณี ยินดีเคลียร์เงินคืน แฉกลับโดนตามรังควานข่มขู่เช่นกัน)
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเรื่องราวเดิมๆ จะกลับมาอีกครั้งหลังทีมข่าวได้รับการร้องเรียนจาก "แม่รุ่ง" มารดาของ น้องซาร่า พิชญดา เกษตรศรี หนึ่งในนักแสดงเด็กหนัง "เจ้าชายมือใหม่" ได้ออกมาเผยถึงพฤติกรรมที่ส่อไปในทางฉ้อฉลของอีกฝ่าย
ทั้นี้เจ้าตัวได้เปิดเผยว่าทาง "ไก่ ทรงกลด" ได้บอกกล่าวถึงโปรเจ็กต์หนังเรื่องนี้ทำนองว่าเป็นหนังของกระทรวงการท่องเที่ยวและกระทรวงวัฒนธรรม แต่เนื่องจากเบื้องต้นทุนที่จะทำหนังยังไม่มี จึงได้มีการตกลงกันว่าจะเก็บเงินจากบรรดาแม่ๆ ที่ต้องการจะให้ลูกแสดงหนังเรื่องนี้ในอัตราครอบครัวละ 5,000 บาท โดยยืนยันจะคืนเงินจำนวนนี้ให้ พร้อมกับเงินค่าตัวของเด็กๆ หลังจากที่หนังได้เข้าฉายแล้วสองเดือน
"ก็เอาไปให้แกหมดเลย ทั้งหมด 95,000 บาท ทยอยไปให้ทีละเล็กน้อยอีกก็มี แล้วทีนี้เขาก็มาถามเราอีกนะว่าพี่รุ่งเขาจะไปฝรั่งเศส หนังเจ้าชายจะไปในนามกระทรวงวัฒนธรรมหรือไปในนามการท่องเที่ยวอะไรนี่แหละ เหมือนไปแสดงศิลปะอะไรแบบนี้น่ะค่ะ เขาก็บอกว่าถ้าจะไปก็ต้องเสียค่าวีซ่านะ เราก็ถามว่าคนละเท่าไหร่ เขาบอกคนละ 5,500 บาท แล้วแกก็บอกว่าต้องการคนเยอะๆ เพราะว่าตอนที่แกทำเรื่องตาดูดาวเท้าเหยียบดินอะไรก็มีการชวนผู้ปกครองไปที่อเมริกา มีการเก็บค่าทำวีซ่ากันคนละ 5,500 บาทเหมือนกัน แต่ปรากฏว่าไม่ได้ไป"
"แกเลยจะเอาเงินจากตรงนี้ไปจ่ายคืนเขา เราก็เห็นใจ แล้วก็เห็นที่ตัวแกมีความตั้งใจ ก็เลยรับปาก ก็ไปรวมรวมมาได้ 21 คนก็ให้แกไปคนละ 5,500 บาท ก็แสนกว่าบาท"
อย่างไรก็ตามหลังจากที่จ่ายเงินและเตรียมตัวพร้อมทุกอย่างอีกฝ่ายกับมีการเลื่อนนัดจาก 19 พ.ค. มาเป็น 6 ต.ค. แล้วก็เลื่อนใหม่อีกเป็นเดือนธันวาคม ทำให้ตนเริ่มเอะใจ จึงได้สอบถามไปยัง ททท. การกีฬา รวมถึงกระทรวงวัฒนธรรม ปรากฏว่าไม่มีหน่วยงานไหนที่มีงบให้ไปตรงนี้ หรือรู้เรื่องเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลย
"แม่ลองไปสืบๆ ทางกลุ่มแม่ๆ ที่เคยถูกหลอกว่าจะไปอเมริกาก็พบว่ายังไม่มีใครได้เงินคืนเลย แล้วตอนหลังก็มีการทะเลาะกัน เพราะเขาบอกเราทำนองว่าจะไม่คืนเงินให้พวกแม่ๆ แล้ว เราก็บอกไม่ได้นะ เพราะแม่รุ่งเป็นคนไปพาพวกแม่ๆ มา ตอนนี้พวกแม่ๆ ก็มีบางส่วนที่อยู่ทางเราแล้วก็อยู่ทางเขา เพราะเขามีการไปเข้าหากลุ่มแม่ๆ บางส่วนแล้วก็มาด่าเราหาว่าเราไปกีดกันไม่อยากให้ลูกคนอื่นเขาแจ้งเกิด ไม่ให้ลูกเขาดัง"
"อย่างเรื่องไปฝรั่งเศสทุกคนเสียเงินกันไปหมดแล้ว แต่เขาไม่กล้าพูดกัน เพราะบางคนเขาก็คิดว่าอยากสนับสนุนให้หนังลูกๆ ได้เข้าฉายให้เรียบร้อย มีไม่มีก็อีกเรื่องหนึ่ง แล้วบางคนก็ไม่อยากเปิดเผยตัว"
เผยตอนนี้กำลังเตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อยื่นเอาผิดอีกฝ่าย พร้อมยังบอกด้วยว่าไม่เข้าใจว่าการที่คนๆ นี้มักจะอ้างหน่วยงานนั้น หน่วยงานนี้ ทำไมถึงไม่มีใครเข้ามาดูแลตรงนี้ แถมบางทียังกลับมาสนุบสนุนอีก ทั้งที่พฤติกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาของคนๆ นี้้ล้วนแล้วแต่ชวนให้น่าสงสัยทั้งนั้น
"เราก็ไปเห็นเขาทำจิตอาสานะ แม่ก็เคยไปกับเขาครั้งหนึ่ง หรือบางทีก็มีอย่างพวก สสส.เข้ามาในเรื่องของกิจกรรมด้วย ก็ทำให้แม่คิดว่าบางทีเขาก็อาจจะทำให้หน่วยงานนั้นจริงๆ แต่อย่างสมมติว่าเขาทำหนังของกระทรวงวัฒนธรรม แต่อีกส่วนหนึ่งเขาอาจจะออกมาหากิน เอามาแอบอ้างด้วย"
"แล้วอย่างเงินซื้อพวกกล้องขาตั้งอะไรก็เงินของแม่ๆ ทั้งนั้น คือตอนแรกเขาอาจจะไม่มีอะไรเลย หรืออาจจะกล้องรุ่นไหนอยู่เราไม่รู้ค่ะ แต่ทีนี้หลังจากที่เขารู้จักกับแม่รุ่งก็ได้เงินไปเป็นก้อนเลย แล้วเขาก็เอาเงินไปซื้อกล้องกับพี่รุ่งที่ตรงฟอร์จูน หรืออย่างเวลาออกกองเราก็ต้องหารถตู้เราไปเอง แล้วก็จะมีพวกดาราก็จะมากับเรา เพราะเขามีแค่รถตู้คันเล็กๆ คันเดียว อย่างในฉากหนังที่มีรถตู้ก็ของแม่รุ่ง แล้วค่าใช้จ่ายต่างๆ เวลาออกกองก็ของเราเอง"
อีกคนที่ยินดีจะเปืดเผยประสบการณ์ในลักษณะเดียวกันก็คือ คุณแม่น้องบีม "รชต คำรอด"
"ของน้องบีมเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 คือเขาโพสต์งานในนามของชมรมส่งเสริมศิลปะการแสดงและงานบันเทิงอย่างมีจริยธรรม อันนี้มีหลักฐานด้วย เขาโพสต์ว่าจะสร้างหนังเรื่อง ตาดูดาวเท้าเหยียบดิน ให้ส่งโปรไฟล์เข้าไปอีเมลล์นี้ๆ"
"พอเราส่งเข้าไปตอนเที่ยงเข้าก็ส่งกลับมาว่าขอแสดงความิยนดีด้วยนะคะ น้องบีมได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักแสดง แต่เบื้องต้นต้องสมัครเป็นสมาชิกของชมรมก่อน เราเช็คดูว่ามันมีที่อยู่จริงก็โอนเงินเข้าไป 1,000 บาท ในนามของ นายศิวะรัฐ พูลยอด โอนเสร็จเขานัดเวิร์คชอปที่จันทรเกษมพลาซ่า รัชดา 36 ซอยเสือใหญ่ ตรงนั้นเป็นห้องกระจกที่เขาเช่าเป็นชั่วโมง ก็ประมาน 100 คนเลย"
"ทีนี้เขาก็จะมาเริ่มมาถามว่าคุณแม่คุณพ่อทำงานอะไร ทำเหมือนเป็นการตีสนิท เราก็บอกว่าคุณพ่อเป็นวิศวะ แล้วเขาเริ่มที่จะมองว่าใครจะมีศักยภาพในการจ่ายเงินเพิ่ม เขาก็บอกน้องบีมน่ารักมากคุณแม่ เขาบอกได้ไปเดินแบบที่เมืองนอกนะ เขาจะอ้างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับกระทรวงวัฒนธรรมฯ เขาบอกถ้าคุณแม่ไปจะได้เดินแบบ เราก็บอกว่ามันไม่ได้"
"ตอนนั้นก็เริ่มคิดว่ามันไม่ใช่และ แต่เราก็ยังไปอยู่ รอบนั้นมีคนโดนเกือบ 30 คน ซึ่งบางคนก็โดน 5,000 บางคน 10,000 หนักสุดเด็กคนหนึ่งโดน 60,000"
เผยมีโอกาสเตือนคุณแม่คนอื่นๆ แต่ก็จะโดนกล่าวกลับในทำนองว่าต้องการสกัดดาวรุ่งหรืออย่างไร?
"คือแต่ละคนไม่เชื่อเรา บางคนก็บอกคุณไม่ไป คุณไม่มีศักยภาพในการจ่ายคุณไม่ต้องพูด เราก็เลยไม่พูดก็เลยขอสังเกต ซึ่งทุกวันอาทิตย์ที่เขานัดเราก็จะไปนะ จนวันที่ 23 ตุลาคม 2556 เขาจะจัดงานเปิดตัวหนังที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ก็จะเอาเด็กที่ถ่ายหนังทุกคนมาเดินแบบ ตอนนั้นเขาก็คุยว่าจะมีนักข่าวจากสำนักอื่นๆ มาร่วมงานด้วย แล้วเขาก็เปิดขายบัตรให้ผู้ปกครองที่มาดูหนังใบละ 1,600 บาทแต่ละคนก็คิดว่าลูกจะได้เล่นหนังแล้ว"
"แล้ววันที่เขานัดเซ็นสัญญา พอเราถามอะไรเขาก็ตอบเราไม่ได้ บอกมีหน้าที่เซ็นก็เซ็นไป แต่เราอ่านดูแล้วมันไม่ใช่ มันไม่เป็นธรรม ก็บอกว่าเราไม่ขอเซ็น แต่พี่จะไม่ฉีกใบสัญญาพี่จะเอากลับ เขาก็บอกว่าถ้าคุณแม่จะเอาใบเซ็นสัญญากลับบ้านเนี่ยมันผิดกฏหมาย เราก็บอกผิดกฏหมายข้อไหน ก็ท้าให้เขาเอาตำรวจมาจับเลย"
"พอเราเอาใบเซ็นสัญญากลับมาเขาก็โจมตีเลย ตอนนั้นน้องบีมมีถ่ายละครกับที่ลาดหลุมแก้ว เรื่องมนต์นาคราช แล้วไก่ ทรงกลด โทรเขาไปที่ลาดหลุมแก้ว ว่าเด็กคนนี้แม่เขาเป็นคนที่ก้าวร้าว เป็นคนที่ไม่นับถือคน อย่าไปป้อนงานให้ลูกเขาเลย ทางนี้ก็งง เขาก็เรียกเราไปคุยถามว่าคุณแม่ไปมีเรื่องกับโมเดลลิงที่ไหนไหม เราก็อธิบายตรงนี้เป็นลักษณะนี้ ซึ่งทางนั้นเขาก็บอกว่าเขาหลอกคุณแม่แล้ว แต่ก็ดีที่เขาโทรมาทางนี้ทำให้เราได้รู้"
"พอมาเดือนพฤศจิกายนก็มีการถ่ายหนังเรื่องตาดูดาวเท้าเหยียบดิน คือการที่จะไปถ่ายหนัง ไปโลเกชั่นนี้พื้นฐานกองถ่ายต้องนัดเราให้ขึ้นรถตรงนี้นะ อันนี้ไม่ค่ะ เหมารถตู้มาแต่ทุกคนต้องจ่ายค่ารถตู้เท่านี้นะ เขาเหมาแต่เราต้องจ่ายเงิน ซึ่งรถที่ไปก็ไม่มีโลโก้อะไรเลย พอถามเขา เขาบอกของช่อง 3 ซึ่งมันก็ต้องมีโลโก้ช่อง 3 ทำไมมันไม่มี ทุกคนไม่เชื่อแล้วแต่ทุกคนเขาก็ไป แต่คุณแม่ไม่ได้ไปนะ"
"แล้วพอไปถึงสถานที่ทุกคนก็ต้องจ่ายค่าที่พักเพื่อถ่ายหนังนะ ถ้าใครไม่จ่ายเขาก็เอาไปนอนที่ศาลาของโรงเรียนเขาค้อ เวลาบวงสรวงก็ไม่มีของที่จะนำไปบวงสรวง เขาบอกผู้ปกครองคนไหนที่มีผลไม้และของติดตัวมาเอามาร่วมกัน เราจะทำพิธีบวงสรวง แล้วก็มีเรื่องกล้อง เขาก็ใช้กล้องวีดิโอทั่วๆ ไปถ่าย สุดท้ายกลับมาเราก็ทวงค่าตัว เราถามว่าค่าตัวอยู่ไหน เขาก็เอาใบสัญญามาแล้วบอกให้เราพลิกดูตรงหมายเหตุว่าเขาเขียนว่ายังไง"
"เขาหมายเหตุเขียนไว้ว่าหลังที่หนังออกจากโรง 30 - 60 วัน เขาก็บอกจะจ่ายค่าตัวให้ได้ยังไงในเมื่อหนังยังไม่ได้เข้าโรง ซึ่งสุดท้ายหนังก็ไม่ได้ฉาย...พอเรื่องเงียบไป 2-3 เดือน เขาบล็อกเราทุกอย่าง แล้วเขาก็ไปเปิดใหม่ รู้สึกว่าเรื่องนั้นเป็นหนังผีเรื่อง "อยากเล่าเรื่องผี" เราก็ไม่ออกหน้าเท่าไหร่ ใครอยากดันลูกไม่ลืมหูลืมตาก็ดันไปเอง รอบปี 57 ก็มีคนโดนไป และรอบ 58 นี้จริงๆ แล้วมันจะไม่เป็นเรื่อง บังเอิญเด็กที่เรารู้จักไปเป็นหนึ่งในนักแสดงเรื่องเจ้าชายมือใหม่หัวใจงุ้งงิ้งเราก็บอกหนังเรื่องนี้นะคะคุณแม่มันหลอก แต่คุณแม่เขาก็ไม่ฟังและก็โกรธเรา"
"เอาเรื่องมั้ย ตอนนั้นก็รวมตัวเฉยๆ แต่ยังไม่ได้ฟ้อง ตอนเกิดเรื่องของแม่บีมทุกคนเขารวมตัวกันแล้ว และพอจะเอาขึ้นมาจริงๆ ผู้ปกครองทุกคนถอยหมด เพราะว่าอายว่าโดนหลอก สองถ้าสามีรู้ว่าเอาลูกออกมาจากบ้านแล้วโดนหลอกตายเลย บางคนก็บอกคุณแม่เงินแค่นี้เองช่างมันเถอะ ลูกเราจะหาเงินได้เยอะกว่านี้ บางคนก็บอกคุณแม่ถือว่าแล้วก็แล้วกันไป ให้มันเป็นประสบการณ์ ก็มีคุณแม่นี่แหละ คืออยากให้คนที่ดันลูกเข้าวงการสมัยนี้ได้เอะใจสักนิด แต่ในส่วนของผู้ปกครองเซ็ตนี้เห็นว่าเขาจะเอาเรื่องนะ..."