xs
xsm
sm
md
lg

ย้ำไม่เฟก-ไร้อีโก้ “สิงโต” ไม่ท้อดราม่าตัวถ่วง “เดอะวอยซ์” ผิดที่ผมหรือคุณไม่เปิดใจ!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สิงโต นำโชค” เสียการทรงตัวหลังโดนชาวเน็ตสวดยับเสียบ “เดอะวอยซ์” แทน “โค้ชแสตมป์” แล้วไม่สนุก สภาพเหมือนคนเมากาว ลั่นพร้อมปรับปรุง-ไร้อีโก้ วอนอย่าอคติ ไม่สนุกหรือไม่เปิดใจ อ้อนคนไทยไม่ใจดำ ยืนกรานไม่เคยเกาเหลา-ปีนเกลียว “โจอี้ บอย” โอดไม่รู้จะรับกระแสดราม่าได้นานแค่ไหน อีก 2 เดือนอาจต้องเข้ารพ. บ้า!

รายการ “เดอะวอยซ์ ซีซั่น 4" ออนแอร์ได้แค่เพียง 2 สัปดาห์ ก็มีกระแสดราม่าตามมาอื้อ โดยเฉพาะการทำหน้าที่โค้ชของ “สิงโต นำโชค ทะนัดรัมย์” ที่เสียบแทน “แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข” ในช่วงจังหวะที่แสตมป์เป็นที่รักของคนดูทั้งประเทศ งานหนักของหนุ่มคนนี้ที่สังคมต้องเฝ้าจับตา และเขากำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าการพูดและการเอ็นเตอร์เทนไม่เป็นธรรมชาติ สภาพเหมือนคนเมากาวจนมีส่วนทำให้รายการไม่สนุก ถึงขนาด “โค้ชโจอี้ บอย” ต้องออกมาโพสต์อินสตาแกรมขอโอกาสแทนนักร้องดัง

ทั้งนี้ทีมข่าวบันเทิง Exclusive ได้นัดสัมภาษณ์พิเศษเพื่อให้หนุ่มสิงโตได้มีโอกาสชี้แจงในทุกกรณี โดยนักร้องดังยังอารมณ์ดี แต่ยอมรับว่าสะเทือนใจกับกระแสดราม่าไม่น้อย เพราะทำหน้าที่ได้แค่ 2 สัปดาห์ก็โดนถล่มเละซะแล้ว ในขณะเดียวกันพร้อมนำคำติชมมาปรับปรุงแก้ไขเพราะไม่ใช่คนที่มีอีโก้

“2 เทปที่ผ่านไปก็สนุกดี แต่มันก็มีกระแสสังคมที่เข้ามา มันแปลกใหม่ ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ถ้าในมุมของผมเอง มันคือนานาจิตตัง ผมเข้าไปแบบเพียวๆ เลย ทุกอย่างมันใหม่หมดเลย มันเป็นข้อดีที่เราอยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีสคริปต์ ไม่แพตเทิล เพราะพวกพี่ ๆ เขามีแพตเทิลกันหมดแล้ว เราเลยเป็นอะไรก็ได้ที่เป็นเราเลย ซึ่งถ้ามองจริง ๆ ทีมงานก็รู้สึกว่ามันสนุก มันแปลกใหม่ คือมองให้ลึกลงไปกว่าเดิมนะมันอาจจะเพราะด้วยการตัดต่อด้วย มันไม่เฟกดี รู้ก็บอกว่ารู้ ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ ไม่ต้องไปปั้นให้ตัวเองฉลาด อันนี้จะดูน่ากลัวเกินไป”

“ซึ่งทางผู้ใหญ่ก็เลยรู้สึกว่าสนุก เขาก็เลยตัดไอ้ตรงนั้นออกมาเยอะหน่อย พอตัดออกมาเยอะ คนทางบ้านเวลาดู เขาก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องการตัดต่อ เลยรู้สึกว่ามันถี่เกินไปไหม แต่ถามว่าตกใจไหม มันเป็นเรื่องปกติ เพราะเราไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ในสังคม ถ้าเราคาดเดาได้ป่านนี้คงมีเพลงฮิตเป็นร้อยๆ เพลงแล้วล่ะ ไอ้ตัวเราเองก็นึกว่ามันสนุก แต่อยู่ดีๆ คนอื่นบอกว่าไม่สนุกสำหรับเขา แต่มันก็มีบางกลุ่มที่สนุก ส่วนคนที่ไม่สนุกผมก็ยอมรับได้ โอเคเขาอาจจะไม่ชอบอะไรตรงนี้ ซึ่งผมก็สามารถปรับปรุงได้ ไม่ใช่อีโก้มาก ผมปรับเปลี่ยนได้”

“ก่อนที่จะเข้าไปก็คิดว่าเป็นตัวเองนี่แหละ ไม่ต้องปรุงแต่งมาก ผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ทำอัลบั้มแล้ว ไม่ต้องเท่ ก็เป็นคนต่างจังหวัดคนหนึ่งมาทำเพลง พูดอะไรตรงๆ ทำแบบนี้มันสบายใจมากกว่า อย่างที่บอกว่าถ้ารู้ก็บอกว่ารู้ ถ้าไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ ดีกว่าที่เราไม่รู้แต่ต้องแกล้งทำเป็นรู้ อันนี้แหละ ผมไม่สบายใจ แต่ที่ผมสบายใจคือได้ทำอะไรก็ได้ที่เป็นตัวของผมเอง และมาถึงประเด็นที่ถูกคอมเมนต์มา ก็เอามาปรับปรุงเอามาเปลี่ยน”

“แต่อย่างที่บอกว่าถ้าเปลี่ยนมากก็จะเฟกไป อาจจะปรับปรุงทั้งทีมบ้าง รวมถึงในส่วนตัวของผมด้วย อย่างเวลาพูดอาจจะพูดให้ฟังดูง่ายหน่อย ไม่ต้องไปทำให้คนดูตลกมาก พูดแบบภาษาชาวบ้าน เวลาคนดูจะได้เข้าใจ อย่างไดนามิคแปลว่าอะไรเราก็ถามพวกพี่ ๆ ไป แต่บางสิ่งบางอย่างอาจจะไม่โดนต่อมของคนอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่ได้ต่อต้าน เราพร้อมจะปรับปรุงได้ รวมไปถึงทีมงานที่จะไปตัดต่อให้มันดูส่วนผสมลงตัวและเหมาะสมมากยิ่งขึ้น เพราะตอนถ่ายทำทุกคนก็ต้องคอมเมนต์กันทุกคน ความยากมันอยู่ตรงที่ต้องพูด มันต้องขุดขึ้นมาพูด ถึงมันเจ๋งจริง ๆ มันก็จะออกมาจากอินเนอร์ แต่เขาก็ให้พูดเป็นตัวเองเลย”

บอกเทปแรกออนแอร์ปุ๊บโดนโพสต์ด่าปั๊บ ยอมรับสะเทือนใจแต่ไม่เอนเอียงตาม ย้ำทำการบ้านหนักก่อนอัดรายการทุกครั้ง
“ฟีคแบคที่กลับมามันมีสองส่วนด้วยกัน อย่างโซเซียลนี่โดนด่าเลย (หัวเราะ) ดูปุ๊บโพสต์ด่าเลย เหมือนเวลาโพสต์ขึ้นมาปุ๊บฝ่ายหนึ่งก็เอนเอียงไปอีกฝ่ายหนึ่งทันที แต่ถ้ามีอีกฝ่ายโพสต์ขึ้นมาอีก ก็จะเอนไปอีกฝ่ายที่เพิ่งโพสต์ ซึ่งถ้าเราเอนเอียงไปด้วยนั้น เราก็อยู่ลำบาก ผมยอมรับว่าตกใจ สะเทือนใจเล็กน้อย แต่ที่นี้เราไปเอนเอียงตามเขาไม่ได้ แต่ก็มีกลุ่มที่ค่อนข้างโอเคกับงานเรา เขาก็บอกว่าสนุกดี เป็นตัวของตัวเองดี”

“นี่มาจากกระแสที่เราเจอนะ ส่วนสายโพสต์ก็บอกว่าพูดเยอะไป พูดยาวจนจบไม่ลง แต่มันเป็นเรื่องของการตัดต่อไง เรามันใหม่ด้วย ทีมงานก็คิดว่าสนุกไง แต่ถ้ามันซีเรียสไปมันก็ไม่สนุก มันคือความบันเทิง และพี่ ๆ ทั้ง 3 คนเขาก็มาสาระกันอยู่แล้ว ผมก็ต้องพูดอะไรที่ไม่ให้ซ้ำกับที่เขาพูดไปแล้ว ต่อให้เราพูดซ้ำกับพี่เขา ก็ถูกตัดทิ้งอีก ก่อนอัดรายการผมก็ไปทำการบ้านมาเยอะมาก ไปดูเดอะวอยซ์ของทุก ๆ ประเทศมา แต่ไม่ได้ดูแล้วไปก๊อปปี้เขามานะ อย่างที่บอกว่าเป็นตัวเรานี่แหละ ไม่ต้องคิดมาก ผมว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของความรู้สึก ผมไม่ชอบเล่นมุกข่วนหน้า อย่างแฮร่!! เราเล่นแบบนี้ไม่เป็นไง เราไม่ถนัดจังหวะแบบนี้ แต่เราถนัดมุกที่ว่าพูดเอง เล่นเอง ตบเอง และก็ขำบ้าง ไม่ขำบ้าง ซึ่งบางคนก็ไม่เก็ตมุขเราไง ซึ่งบางคนเก็ตก็บอกว่าโอเค”

ย้ำไม่มีอะไรแก้ตัว แต่อยากให้ย้อนถามตัวเองว่าใจอคติ ไม่พร้อมรับโค้ชคนใหม่หรือเปล่า
“ซึ่งถ้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรมันก็ค่อนข้างยาก แต่ถ้าปรับปรุงก็น่าจะทำได้ ซึ่งก็ต้องอยู่ตรงกลาง อย่างสิ่งที่ผมจะปรับปรุงก็คือพูดให้คนดูฟังแล้วรู้เรื่องมากขึ้น แต่ก็ยังเป็นตัวเองอยู่ ซึ่งถ้าลองไปย้อนดูดี ๆ มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรเกินไปหรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้จะมาแก้ตัวอะไรนะ ก็แค่อยากจะถามกลับว่าที่โพสต์กันมันเป็นขนาดนั้นหรือเปล่า ใจเราพร้อมจะเปิดรับสิ่งใหม่ๆ หรือเปล่า ใจเรายังอคติไหม ใจเราจะพร้อมรับโค้ชคนใหม่หรือเปล่า เพราะกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เรามาแทนโค้ชคนเดิมก็รับมาเรื่อย ๆ ซึ่งมันเป็นกติกาของเมืองนอก และตัวผมเองก็ไม่ได้หวั่นไหว หรือว่าสะทกสะท้านแต่อย่างใดเลย และก็ไม่ได้เกร็งที่มาแทนใคร แต่เกร็งที่ว่าเราจะทำได้หรือเปล่า เพราะเราไม่เคยทำ และที่ไม่เกร็งว่าจะมาแทนใคร เพราะถ้าไม่มาแทนเดี๋ยวคนก็ไม่ดูอีก (หัวเราะ) วันหนึ่งยังไงก็ต้องมีคนมาแทนอยู่แล้ว แต่อาจจะรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าไม่เปลี่ยนไม่มีคนมาแทน เดี๋ยวซีซั่นต่อไปก็เลิกดู เดี๋ยวก็ว่าเขาอีกว่าเหมือนเดิม ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยน”

บอกต่อให้เล่นมุกฝืดแต่ถ้าทีมงานเลือกตัดต่อมาออนแอร์ทุกอย่างก็จบ ไม่มีใครรู้สังคมจะชอบ-ไม่ชอบอะไร
“คนที่โพสต์ก็ไม่ได้จะหมายถึงคนที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงนะ บางคนก็ไม่ยอมรับเลยก็มี หรือบางคนอาจจะยอมรับเลยก็มี และบางคนก็ดีด้วยซ้ำที่ให้คำแนะนำเรา แต่ถ้าให้มานั่งชมเราทั้งวันก็ไม่ไหวนะ ผมชอบคำตินะ เพราะติให้ก่อนะ ทีนี้เราต้องใช้คำติให้เป็น ไม่ใช่ว่าถูกติมาแล้วเป๋เลยก็มี ส่วนเรื่องที่เขาติมาก็คือผมพูดไม่รู้เรื่อง พูดแล้วจบไม่ลง เล่นมุกฝืดบ้าง แต่ถ้าเขาตัดต่อมามันก็จบลงนะ (ยิ้ม) แต่ทางทีมงานที่เขาตัด เขาก็คิดว่านี่แหละมันสนุกแล้วไง เขาเลยตัดให้มาเป็นแบบนี้ เขานึกว่าคนดูชอบ คนดูสนุกไปกับมัน”

“ซึ่งไอ้ที่พูดแล้วจบลงมันมี แต่เขาไม่ได้ตัดมาไง ทีมงานเขาก็ทำการบ้านมา แต่เราไม่สามารถเดาได้ว่าสังคมชอบอะไรไง อย่างเวลาเล่นมุกเราก็ไม่ได้เตรียมไปนะ เพราะมันจะออกมาจากตัวของนักร้องเลย ไอ้ที่ฮาก็มี แต่ไอ้ที่ไม่ฮาก็มีแต่ไม่ได้แป้กนะ(ยิ้ม) ถ้าเขาร้องดีเราก็ชม และถ้าดูแล้วเขาไม่ใช่เนื้อแท้ แต่เราพูดว่าเนื้อแท้ อันนี้มันก็ไม่จริง อันนี้คือปลอม ส่วนใครที่แย่ ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะเดอะวอยซ์กว่าจะคัดมา คนพวกนั้นก็เก่งอยู่แล้ว มันอยู่ที่เราจะว้าวหรือไม่ว้าวเท่านั้นเอง”

เลือกอยู่ตรงกลางคำวิจารณ์ ไม่เป๋ไปข้างใดข้างหนึ่ง ชี้กระแสมาเร็วไปเร็ว
“เรื่องนี้อธิบายไม่ได้นะสำหรับคนที่ไม่เปิดใจ มันก็แล้วแต่เขานะ มันทำอะไรไม่ได้เลย มันแก้ไขอะไรไม่ได้เลย เราไม่แก้ไขคนอื่น เราผิดเลยนะ เราต้องแก้ที่ตัวเอง เราต้องมาอยู่ตรงกลางให้มากที่สุด เราต้องกระชับตัวเอง อย่าเป๋ไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เอาคำติชมมาพัฒนาตัวเราไปเรื่อย ๆ ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงแต่ไม่ได้เป๋ไปเลย แต่ก็คงไม่ตามกระแสอย่างที่เขาอยากให้เราเป็น เพราะกระแสมาเร็วและก็ไปเร็ว ทีมงานเขารู้อยู่แล้วว่าแบบนี้ตัดไป เดี๋ยวจะมีฟีดแบ็กกลับมายังไง และที่ตัดออนแอร์ออกไปทางเราคิดว่าสนุกไง ตั้งแต่ร่วมงานกันมา ทีมรายการนี้เขาไม่ได้เอาเรื่องของความดราม่ามาเล่นเป็นตัวหลัก แต่เขาจะเล่นให้มันสนุก เพราะถ้ามีดราม่ามาก ทีมงานก็จะตัดออก”

“คนที่ผมจะเลือกมาอยู่ในทีมค่อนข้างกว้างมาก ซึ่งผมจะเลือกอะไรที่เป็นธรรมชาติหน่อย ไม่ได้ฝืนร้อง ไม่ได้พยายามร้อง ไม่ได้ประดิษฐ์มาก ผมเลือกในสิ่งที่ผมรู้ไง เพราะถ้าประดิษฐ์ไป เวลาขึ้นเวทีมันจะไม่ธรรมชาติ และวิธีเดียวที่ผมจะแก้ไขได้ก็เอาประสบการณ์ในตอนที่เราทำเพลงมาช่วยทำให้เขาธรรมชาติที่สุด ร้องยังไงไม่ให้เขิน”

“ถ้าร้องแบบพยายามเกินไปเราก็จะไม่เลือกไง เราก็เลยไปเลือกคนอื่นแทน และไม่ใช่ว่าคนที่เราไม่เลือกไม่ใช่ไม่ดีนะ แต่เราไม่ถนัดในแนวของเขามากกว่า และเราก็ไม่ได้บอกว่าเราเก่งกว่าใครนะ ทุกวันนี้เราเล่นดนตรีมาก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมาย เพราะคนที่มาประกวดเดอะวอยซ์เสียงมันต้องดีอยู่แล้ว ไม่ได้มาขายหน้าตา แต่ตอนนี้ซีซั่นหลังๆ หน้าตาก็ดีด้วย ผมว่าศิลปินพอมายืนอยู่บนเวทีแล้วมันมีบางสิ่งบางอย่างดูขลัง เดอะวอยซ์พอมันเป็นตัวจริงแล้วมันโคตรเท่เลยอ่ะ”

“ผมก็ไม่ได้กดดันว่าจะถูกเปรียบเทียบกับพี่ ๆ คนอื่น ๆ ไม่ได้กดดันเพราะผมไม่ได้มาแข่งขันกับใคร เพราะสุดท้ายเราก็ต้องทำในสิ่งที่เรารับผิดชอบให้ดีที่สุด มาเลือกคนที่ร้องเพลงที่ดีที่สุด ทำโชว์ให้ดี เรามองว่าสิ่งนี้มันน่าสนุกกว่า เพราะทีมงานเองก็ไม่ได้กดดันในตัวผม ซึ่งถ้าในโลกโซเซียลหรือว่าทางบ้านจะไม่เห็นด้วย หรือจะเอาไปเปรียบเทียบ เรื่องนี้มันเกินความควบคุมของเรา ถามว่ากระแสในโซเซียลมีผลกันเรามากแค่ไหน มันก็มีนะ แต่พอเขาติมาเราก็เอามาปรับปรุง ผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ทำอัลบั้มชุดแรก ๆ ก็ถูกติมาตลอด แต่เราก็เอามาปรับปรุงในอัลบั้มถัดไป คนเราต้องรับอะไรใหม่ ๆ เพราะถ้าไม่รับเลยก็ไม่ดี รับมากไปก็เป๋ไง รับอะไรที่เรารู้สึกว่าดี เราก็เก็บไว้ แต่เวลาเราเลือกก็ต้องเลือกสิ่งดี ๆ มา”

ยังบอกไม่ได้จะรับกับกระแสได้มากน้อยแค่ไหน พูดติดตลกเป็นโค้ชแค่ 2 อาทิตย์ ถ้าอีก 2 เดือนอาจเข้ารพ.บ้า แต่เกิดเป็นคนต้องทนต่อแรงกดดัน ให้สังคมวิจารณ์ได้
“อย่างพี่โจอี้ พี่คิ้มก็บอกว่าอย่าไปอ่านคอมเมนต์พวกนั้นเลย เวลาเราอ่านคอมเมนต์ใจเราต้องดี ใจเราต้องแข็ง (แต่แสตมป์บอกว่าที่ออกเพราะรับไม่ได้กับที่ถูกคนโพสต์ด่า?) ซึ่งตัวผมเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าผมรับกับกระแสพวกนี้ได้มากแค่ไหน ผมไม่ได้มายืนยันว่าผมเจ๋ง ผมเลยตอบไม่ได้ มันเพิ่งอัดไป 2 อาทิตย์เอง ยกตัวอย่างตอนนี้ผมเป็นพ่อของลูกขวบห้าเดือน แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าถ้าเป็นพ่อตอนลูกอายุ 15 ปีจะเป็นไง เรื่องมันยังไม่เกิด ความคิดมันต่างกัน ผมเป็นโค้ชแค่ 2 อาทิตย์ แต่พี่สแตมป์เป็นโค้ชมา 3 ปีเรื่องมันต่างกัน ผมอาจจะเป็นหนักกว่าเขาก็ได้ กับช่วงเวลานี้ผมตอบได้เลยว่าโอเค แต่ถ้าผมตอบไปว่าผมไม่กลัวหรอก พออาทิตย์หน้ามีคนมาด่าเยอะ เราอาจจะรับไม่ได้ อีก 2 เดือนผมอาจจะไปอยู่โรงพยาบาลบ้า แต่ทั้งหมดคือเรื่องมันยังไม่เกิด ผมเลยตอบอะไรไม่ได้ว่าจะรับได้หรือไม่”

“อย่างเพิ่งอัดเทปล่าสุดไป ถ้าทีมงานยังตัดมาเหมือนเดิม ผมก็ยังแฮปปี้อยู่นะ เพราะมันก็ยังมีคนชอบแบบนี้ แต่เราจะทำยังไงให้มันบาลานซ์ซึ่งมันก็ยาก เพราะมันเกิดความควบคุม อีกอย่างผมก็ไว้ในทีมงานของผม ผมก็บอกเลยว่าตัดเลย ผมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ทีมงานเลยบอกมาว่าเทปนี้ตัดโอเคขึ้น แต่ไม่ได้เรียกร้องเอากระแสเลยนะ ผมว่าการที่เราเกิดเป็นคนต้องยอมรับการถูกด่าได้ถึงมันจะเป็นคน แต่ถ้าเราโดนด่าแล้วเราไม่แก้ไข เราก็จะทุกข์ เราต้องมาแก้ที่ตัวเรา ไม่งั้นเราจะรู้สึกว่าชีวิตเราจะลำบาก เกิดเป็นคนต้องโดนด่าได้ พ่อแม่เรายังด่าได้ เราเพิ่งมาทำเราก็ต้องยอมรับและปรับปรุงได้ โอเคคนเขาอาจจะชอบวิธีที่เคยเห็น ของแบบนี้มันปรับมันจูนได้ เราไม่ได้คนแข็งหรือว่าอีโก้ขนาดนั้น”

“ตอนเขาเลือกเรา เราก็ยังรู้สึกว่าเราก็ไม่เหมาะสม แต่ก็มาคิดว่าทำไมเขาถึงเลือกเรา มันมีเหตุผลบางอย่างที่เขาเลือก มันก็ขึ้นอยู่ที่เราแล้วว่าเราจะอยู่ที่เดิมใช้ชีวิตชิล ๆ ไป หรือว่าจะขึ้นไปเจออะไรใหม่ๆ อะไรที่เราไม่เคยเจอ ชีวิตถ้าไม่เจออะไรมากระทบกระทั่งชีวิตมันก็อยู่กับที่ มันต้องมีอะไรมากระทบบ้าง เราถึงจะโต ในเมื่อโอกาสมันมาถึง เราก็ต้องเดินต่อไป ก็เลยได้เจอกระแสอะไรอย่างงี้ มันสนุกดีนะ เพราะความสุขของชีวิตไม่ได้อยู่ที่คำว่าต้องสบายอย่างเดียว”

ลั่นไม่เคยคิดปีนเกลียว “โจอี้ บอย” แค่เล่นปล่อยมุกสนุกในรายการ รับคนดูอาจไม่เก็ต
“สิ่งที่พี่โจ้โพสต์ ผมก็คุยกับพี่เขาตลอดนะ เหมือนอย่างที่บอกว่าเราเล่นมุก สอดแทรกกัน เรานึกว่ามันสนุก แต่คนดูอาจจะคิดว่าพี่โจ้ต้องไม่ชอบสิงโตแน่เลย หมั่นไส้สิงโตแน่ ๆ ซึ่งมันไม่ใช่เลย มันเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ครั้งหน้าเราจะปรับปรุงตัวไม่พูดแทรกแล้ว และสิ่งที่จะได้ออกมาคืออะไร คือความเงียบ ความตึง และไอ้ที่คนเคยชอบ เขาอาจจะออกอาการเซ็งๆ แต่คนที่เขาไม่ชอบเราทำยังไงเขาก็ไม่ชอบอยู่ดี ซึ่งเมืองนอกเขาอาจจะเฉยๆ กับการคอมเมนต์แบบนี้ และเราก็ไม่ใช่คนก้าวร้าวอะไรอย่างนั้น ถ้าคนจะคิดว่าเราปืนเกลียวพี่โจ้หรือเปล่า มันก็เกินที่จะควบคุม แต่ถ้าเราไม่พูดหรือไม่คอมเมนต์อะไร มันก็ดูไม่มีบทบาทอะไร คนดูก็จะคิดอีกว่าจะเลือกมันมาทำไม ที่เขาเลือกมาก็คงให้คุย ให้แย่งกันคอมเมนท์ตามคอนเซ็ปต์รายการ”

ยอมรับสะเทือนใจเหมือนถูกรถชน แต่ซ่อมได้เคลมได้ ไม่ใช่พระเจ้าที่ไหน ฮาแตกชาวเน็ตบอกสภาพเหมือนคนเมากาว
“คือที่ตอบตกลงเลือกมาทำรายการนี้ก็คิดไม่ผิดนะ แต่มันจะสะเทือนไปหน่อยเมื่อถูกกระแสคอมเมนต์ครั้งแรก อารมณ์มันประมาณว่าเคยขับรถชนม่ะ มันเหมือนวูบไปแป๊บหนึ่ง แต่มันซ่อมได้ เรียกประกันได้ ยอมรับว่าเราเองก็ไม่ใช่พระเจ้าอะไรที่ไหน แต่สุดท้ายถ้าเรียกสติกลับมาได้ ทุกอย่างก็จะแก้ไขได้ ต้องมองหาข้อดีเพื่อให้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ ผมมองว่าที่เขาคอมเมนต์เรามา มันสนุกดีนะ อย่างมีคนเมนต์ว่าสิงโตเมากาว มีคนโพสต์ว่าพูดมารู้เรื่อง 5 - 6 ปีไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหร่ แต่พอมาพูดไม่รู้เรื่องนิดเดียว แต่มีคนรู้จักเต็มเลย (หัวเราะ) ดังแล้วนะเนี่ย ควรจะเป็นพรีเซ็นเตอร์กาวยี่ห้อใดดี ผมก็แค่อยากจะบอกว่าเราสบายดี ขอบใจนะ คอมเมนต์มันก็ไม่มีผลอะไรนะ แต่อยู่บ้านมันว่างก็เข้าไปอ่าน อุ้ย...มีคนพูดถึงเรา (หัวเราะ)”

“ก็ไม่รู้จะบอกอะไรกับคนที่ด่า จริง ๆ ก็ไม่มีคนด่าแล้วนะ เพราะคนไทยใจกว้างนะ และหลังจากพี่โจ้โพสต์แล้วนั้น คนไทยก็ให้โอกาสนะ คนไทยน่ารัก คนไทยไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำ เพราะสุดท้ายทุกคนก็มาให้กำลังใจ อย่างอีเจี๊ยบ เลียบด่วนก็ยังมาให้กำลังใจเลย เขาบอกว่าเขาเป็นแฟนเพลงเรามาก่อน และที่ผมเข้าไปคุยกับอีเจี๊ยบ และพี่โจ้ในคอมเมนต์ ก็แซวไปว่าพี่โจ้ไม่ได้รำคาญผมเหมือนที่อีเจี๊ยบพูดใช่ไหม แซวกันไป แซวกันมา มันสนุกดี ไม่ได้มีเกาเหลาอะไร บ้าไปแล้ว”





ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
กำลังโหลดความคิดเห็น