“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ปัดฟาดเงียบ ดารา อ. เผยคบจริงจังแต่ไม่รอด อ้างบ้างาน ไร้มือที่สาม โอดเสียใจไม่อยากเป็นตัวถ่วงอีกฝ่าย บอกไม่เปิดเผยเพราะไม่อยากเป็นตัวอย่างไม่ดีให้เยาวชนเลียนแบบ ฟุ้งธุรกิจนำเข้าปากกาจากญี่ปุ่นฟีดแบ็กดี จัดโปรโมชั่นเสริมแจกจูบ
เล่นเอางงเป็นไก่ตาแตกว่ามีแฟนตอนไหน หลังจากที่หนุ่ม “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” ออกมาคร่ำครวญด้วยความเสียใจว่าเลิกกับดาราสาว อักษรย่อ อ. ไปแล้ว ล่าสุดเจ้าตัวออกมาเผยถึงเรื่องอกหักรักคุด ยอมรับตัวเองเป็นคนบ้างาน ไร้มือที่สาม ย้ำไม่ได้คบกันเงียบๆ แต่ไม่อยากเปิดเผย หวั่นเป็นตัวอย่างไม่ดีต่อเยาวชน
“ก็นั่นแหละครับ มันเป็นเรื่องปกติของความรัก ที่มีรักมีเลิก ก็คบหากันมาซักพักหนึ่งครับ ประมาณเกือบๆ ปีครับ ส่วนที่เลิกก็เลิกกันนานแล้วครับ ไม่ได้เกี่ยวกับมือที่สาม คือผมไม่ได้แอบคบนะครับ ก็บอกมาตลอดว่าผมมีแฟน แต่ผมมองว่ามันไม่ควรไปเน้นเรื่องนั้น ในส่วนตัวผม ผมไม่เน้นเรื่องนี้ ผมเน้นเรื่องงานเรื่องครอบครัวผมมากกว่า เพราะว่าผมก็ไม่อยากให้ตัวเองเป็นแบบอย่างในเชิงแบบนี้ ผมไม่ชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ผมไม่อยากไปมุ่งเน้นให้เยาวชนทำแบบนี้ คือมันไม่ดี ควรจะเรียน ควรจะใส่ใจในความเจริญของชีวิตตัวเองมากกว่า”
“ที่ตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ก็เนื่องด้วยเวลา ตัวผมเองผมมีเวลาที่ไม่มากพอ ก็เป็นเพื่อนกันดีกว่าครับ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนเขาจะเสียใจไหม ผมก็ไม่ทราบนะครับ แต่ส่วนตัวผมเสียใจ แต่มันก็ต้องหยุด เพราะผมก็ไม่สามารถที่จะประคองต่อไปได้ แต่ก็จบกันด้วยดีครับ เลิกก็คือเลิกครับ ก็จบแล้ว คือผมคิดว่ามันไม่ควรไปถ่วงกัน ให้มันจบด้วยดี แล้วอย่างที่บอก ปกติผมชอบทำงาน ผมอยากดูแลพ่อกับแม่ผม ผมไม่อยากดูแลใคร ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่หยุดความสัมพันธ์ไปด้วย”
บอกยังไม่พร้อมมีแฟน ยังไม่รู้จะมีใครเข้ามาอีกเมื่อไหร่
“ตอนนี้ก็ไม่มีใครครับ ผมทำแต่งานครับ คือถามว่าคุณแม่อยากให้ผมมีครอบครัวไหม คุณแม่เขาก็แล้วแต่ผมนะ เขาแล้วแต่ลูกเลยแต่ผมเองต่างหากที่ไม่พร้อมที่จะมี เพราะผมชอบที่จะทำงานมากกว่า แต่ก็ยังไม่ทราบว่าจะมีใครเมื่อไหร่ เพราะเรื่องพวกนี้มันห้ามกันไม่ได้ มาก็มาเลย ไม่มาก็ไม่มาเลย คือถามว่าเกี่ยวกับที่ผมเลือกเยอะด้วยไหม ก็มีส่วน”
โวธุรกิจใหม่นำเข้าปากกาจากญี่ปุ่น วางขายในเซเว่นเพียงอาทิตย์เดียวติดตลาด จัดโปรโมชั่นแจกจูบลูกค้า
“เป็นจังหวะที่ผมได้คุยกับทางผู้บริหารของเซเว่น ซึ่งเขาก็ถามว่าผมอยากทำไรที่เป็นลายเซ็นตัวเองคือปกติผมจะขายลายเซ็นตัวเองอยู่แล้ว ผมมีขายมุ้ง ขายเสื้อผ้า เป้ นาฬิกา แว่น เสื้อเดินป่า คือผมทำพวกนี้มานานมากแล้ว ผมขายลายเซ็นที่เป็นลิขสิทธิ์ตัวเองให้กับมิสทีนบ้าง แคตตาล็อกฟรายเดย์บ้าง ทางเซเว่นเขาก็บอกว่าผมน่าจะมีอะไรซักอย่างที่ขายในเซเว่น ผมก็เลยมองว่าอะไรที่เซเว่นยังไม่มี ผมก็เลยมองเป็นปากกา เพราะมันใช้ทุกวันแล้วก็ตั้งแต่เด็กยันโต ยังใช้กันอยู่เลย แต่ว่าคนชอบมองข้าม ชอบมองว่ามันไม่สำคัญ ผมก็เลยนำมาทำให้สำคัญ ติดตลาดขึ้นมา มันก็เลยดังขึ้นมาอีก”
“ถามว่าทำมานานเท่าไหร่ ก็เพิ่งขายได้สัปดาห์เดียวเองครับ ฟีดแบ็กก็ติดตลาด คนเขาก็ถ่ายรูปส่งกันมา เพราะผมบอกว่าใครที่ซื้อแล้วส่งรูปมาให้ผม แล้วผมจะแจกจุ๊บในไอจี ใครส่งมาผมก็ส่งไปให้เขา แต่ไม่ใช่ไปจุ๊บจริงๆ นะ ลงเป็นตัวพิมพ์ ก็มีฝรั่งบ้าง เด็กๆ บ้างก็ส่งกันมาเต็มไปหมดเลย ก็ทำให้มีกระแสขึ้นมา”
ฟุ้งธุรกิจประสบความสำเร็จ ย้ำปากกาคุณภาพสมกับการนำเข้า ได้ลายเซ็นของตนเป็นของแถม
“ความพิเศษของปากกาคือผมนำเข้าจากญี่ปุ่น แล้วเนื้อเป็นเจล ไม่ใช่หมึก ซึ่งเจลมันจะสมูทอยู่แล้ว มันจะเกาะ จะเหนียว ไม่ใช่เขียนแล้วเยิ้ม แล้วด้ามผมทำเป็นดำด้าน พอจับแล้วจะนุ่มมือ คนก็เลยชื้อ แล้วแถมมีลายเซ็นของเราบนตัวปากกาอีก เซ็นพาดปากกาเลย มันก็มีลวดลาย แล้วคนคงสงสารเห็นทำเยอะ ก็ช่วยๆ มันหน่อยว่ะ (หัวเราะ)ก็ขายดีขึ้นมาเลย”
“คือก็เป็นธุรกิจที่ไปได้ดีมากครับ ตอนแรกผมก็คิดตลกในใจว่าใครจะมาซื้อปากกาเรา เพราะว่าใครๆ ก็มีปากกา แต่ปรากฏว่าคนติด ซึ่งผมว่าเป็นเพราะราคาถูกแล้วก็มีขายในเซเว่น เข้าถึงคนได้ใกล้ชิดมากคนก็เลยติดกัน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ก็ดีใจมากครับ”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
