“น้ำเพชร” ยันโดน “ม่านฟ้า” กับพวกรุมจับล็อกมือตบๆๆ หลายฉาด แถมถ่ายคลิป แฉม่านฟ้าเคยขู่ถ้าไม่พอใจใครสั่งอุ้มฆ่าได้เลย สาบานถ้าตนโกหกให้มีอันเป็นไปโดนฟ้าผ่าตาย แต่ถ้าอีกฝ่ายโกหกว่าไม่ได้ตบขอให้กรรมนี้คืนสนอง ซัดคนดีที่ไหนทำกันแบบนี้
ไปกันใหญ่แล้ว สำหรับความบาดหมางระหว่าง “น้ำเพชร สุณัณณิการ์ กฤษณสุวรรณ” กับ “ไฮโซม่านฟ้า อรปภัตร จันทรสาขา” หลังก่อนหน้านี้ทั้งคู่เพิ่งเปิดศึกฉะกันเละตุ้มเปะ ชนวนเกิดจากที่สาวน้ำเพชรโพสต์อินสตาแกรมส่วนตัวในทำนองสนิทกับม่านฟ้า ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงที่ม่านฟ้าโดนชาวเน็ตแฉว่าเป็นไฮโซปลอมรวยไม่จริง โดยการโพสต์ในครั้งนั้นน้ำเพชรได้ลงภาพคู่กับไฮโซสาวพร้อมข้อความให้กำลังใจว่า “เพชรแท้ก็คือเพชรแท้ สู้ๆนะคะพี่ม่านฟ้า #อยู่บ้านตรงข้ามกับนางมา 2 ปี นางหิวข้าวก็เดินมาหา กินมาม่าก็ได้ น่ารักรักจะตาย” ก่อนจะถูกม่านฟ้าตอกซะหน้าแหกว่าเราสนิทกันขนาดนั้นเลยเหรอ ด้านน้ำเพชรแรงกลับจวกรำคาญผู้หญิงคนนี้ เท่านั้นไม่พอยังมีข่าวปาดหน้าแย่งงานพรีเซ็นเตอร์กันออกมาให้มองหน้ากันไม่ติดเข้าไปอีก
ยิ่งเดือดเพิ่ม เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา น้ำเพชรได้เข้าแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ ว่าถูกม่านฟ้าพร้อมพวกอีก 2 คนรุมตบภายในห้องน้ำศูนย์การค้าดริว ในซอยทองหล่อ 13 โดยแจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ล่าสุดเป็นทางฝั่งของผู้จัดการส่วนตัวม่านฟ้าออกมาโต้ว่าไม่เป็นความจริง ยอมรับว่าสองสาวเจอกันจริงแต่แค่พูดคุยกันในห้องน้ำเท่านั้นไม่ได้มีการรุมตบอย่างที่น้ำเพชรให้ข่าว ส่วนรอยฟกช้ำของอีกฝ่ายก็ไม่รู้มาจากไหน เล่นพูดกันไปคนละทิศละทางทำเอาคนเสพข่าวงงไปตามๆ กัน ไม่รู้จะเชื่อใครไม่รู้ใครพูดจริงไม่รู้ใครโกหก บางกระแสถึงขั้นหาว่าทั้งสองคนเซ็ตเหตุการณ์ตบกันขึ้นมาเพื่อสร้างกระแสให้ตัวเองดังหรือไม่ ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นทีมข่าวบันเทิงASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้สอบถามไปยังน้ำเพชร เจ้าตัวก็ได้เปิดอกเคลียร์ระเอียดยิบว่า….
“โดนตบคืนวันที่ 4 ที่ร้านดริวที่ทองหล่อซอย 13 ในห้องน้ำสาธารณะ แต่ในรูปคดีต้องเป็นวันที่ 5 เพราะว่ามันผ่านเที่ยงคืนมาแล้ว วันนั้นน้ำเพชรไปนั่งชิลล์กับเพื่อนปกติ ตอนที่หนูไปที่ร้านหนูไม่รู้ว่าใครมาก่อนกันเพราะไม่ได้สังเกต แล้วร้านนี้ก็ไม่ได้เป็นร้านประจำของหนูด้วยเป็นแค่ร้านที่เราแวะไปปกติ แล้วเขาก็ให้เพื่อนผู้ชายที่นั่งโต๊ะเดียวกับเขามาขู่เราว่าจะจบมั้ย อารมณ์มาเหมือนนักเลง แล้วก็มาพูดคำสบถใส่ไอ้เ_ียไอ้สัตว์ที่โต๊ะเรา เราก็รู้สึกว่าท่าไม่ดีแล้วก็คิดว่าเดี๋ยวจะกลับ แต่ยังไม่ทันหลับเขาก็ให้ผู้จัดการร้านมาขู่เราอีกรอบว่าคุณม่านฟ้าฝากมาบอกว่าไม่ชอบในการให้สัมภาษณ์ จะจบมั้ย หนูก็บอกเลยว่าเขาไปว่าขอบคุณมากค่ะ เชิญกลับไปได้แล้วค่ะ”
“ผ่านไป 5 นาทีก็มาอีกแล้วก็บอกว่าคุณม่านฟ้าถามว่าจะจบมั้ย มาอารมณ์มาเฟียใช้อำนาจข่มขู่หนู ตอนนั้นก็เลยจะกลับบ้านดีกว่า คือหนูไม่คิดอะไรเพราะปกติคนที่มีวุฒิภาวะ คนดีๆ ทั่วไปเขาคงไม่น่าจะมายกพวกรุมตบเหมือนในละครเลย ก่อนกลับก็เลยเข้าห้องน้ำปกติ พอออกมาก็เจอเขา แล้วเขาก็เรียกหนูอีน้ำเพชร มึงให้สัมภาษณ์ได้เ_ียมาก แล้วหลังจากนั้นทั้ง 3 คนก็มารุมตบหนู คนนึงล็อกมือหนูไว้ข้างหลัง อีกคนถ่ายคลิป อีกคนนึงตบ คนที่ตบคือคุณม่านฟ้า เขาตบหลายทีค่ะ แล้วเลขาเขาก็ตบด้วย มีการถ่ายคลิปด้วย เขาบอกว่าจะถ่ายคลิปตบเราเอาไปประจาน (มันดูแปลกผิดวิสัย คนที่ตบทำไมมาถ่ายคลิป?) หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันแต่เขามีการถ่ายคลิปตอนที่หนูถามว่าเขาต้องการอะไร เขาก็บอกว่ามึงก็รู้นี่ว่ากูต้องการอะไรแล้วเขาก็ถ่ายคลิป ใช้อำนาจข่มขู่ให้หนูพูดขอโทษเขา หนูก็อยากให้จบๆ ไป ถ้าอยากให้ขอโทษก็ขอโทษ ก็ขอเขาว่าขอออกไปข้างนอกได้มั้ย เขาก็ผลักแล้วก็ตบเราอีกที หนูไปที่ร้านนั้น 2 คนกับเพื่อน แต่ตอนเข้าห้องน้ำหนูไปคนเดียว เพื่อนอยู่ข้างนอก ในห้องน้ำก็มีคนอื่นแต่เขาไล่ออกไปหมดเลย เขากักขังหน่วงเหนี่ยวเราด้วย เราก็ร้องให้คนข้างนอกมาช่วยแต่เขาก็ปิดไม่ให้คนเข้า เหมือนในละครเลยค่ะ”
“ช่วงเวลาที่มีเรื่องกันในห้องน้ำไม่นานค่ะ ก็ประมาณ 20-30 นาที ช่วงที่ตบกันไม่นาน แต่ช่วงคุยเจรจากันจะนาน ช่วงที่หนูขอออกจากห้องน้ำ ซึ่งเรื่องที่คุยกันเขาก็บอกว่ามึงไม่มีสิทธิ์มารำคาญกู ขนาดกูขยะแขยงมึงกูยังไม่พูดกับสื่อเลย เขาก็ด่าว่าหนูตอแหล หนูถามหน่อยว่าถ้าหนูตอแหลหนูจะพูดทำไมว่ารำคาญเขา แต่เพราะหนูรู้สึกว่ารำคาญเขาจริงๆ แล้วเขาก็มาด่าว่าหนูตอแหล คำพูดของหนูมีผลทำให้เขาบันดาลโทสะขนาดนี้เลยเหรอหนูไปมีความสำคัญอะไรกับชีวิตเขาหรือเปล่าทำไมเขาถึงต้องมาลงมือทำร้ายกันขนาดนี้ แล้วมีช่วงที่มีคนจะเข้าห้องน้ำเขาก็บอกไม่มีอะไรค่ะๆ หนูก็มีความรู้สึกว่าทำไมผู้หญิงคนนี้เหมือนเล่นละคร เหตุการณ์ที่หนูอยู่ในห้องน้ำเหมือนอยู่ในละครเลย หนูก็งงเหมือนกัน(หัวเราะ)”
“หนูก็มีปัดป้องกลับไปบ้าง หลายๆ คนบอกว่าน้ำเพชรเรียนมวยมาทำไมไม่ใช้ แต่อยากจะบอกว่าถ้าเป็นสถานการณ์นั้นจริงๆ อยากจะลองให้จินตนาการดูว่าจะใช้ได้มั้ย ผู้หญิงโทสะมารุมเรา 3 คนมันตกใจ แล้วในชีวิตที่โตมาถึงไม่ได้เป็นสังคมไฮโซก็จริงแต่ไม่เคยมีการใช้กำลังเกิดขึ้นในชีวิตน้ำเพชรเลย เหตุการณ์วันนั้นจบด้วยการที่หนูขอเขาออกไปข้างนอก เพราะรู้สึกว่าถ้าอยู่ตรงนี้ตัวเราจะต้องแย่แน่ๆ เลยเพราะสามรุมหนึ่งเนาะ หนูก็พยายามพูดให้เขาลดโทสะลง หนูก็บอกว่าพี่หนูขอโทษนะคะถ้าเกิดพี่ไม่พอใจคำสัมภาษณ์ของหนู ซึ่งตอนนั้นหนูก็อ้อนวอนขอออกไปจากห้องน้ำดีๆ แล้วเขาก็ตบเราแล้วก็เดินออกไปเลย หนูเดินออกจากห้องน้ำทีหลังเขานะคะ พอเขาออกไปก็มีเด็กเสิร์ฟและพนักงานในร้านเข้ามาดูเรา แล้วเลขาเขาก็เข้ามาอีกทีนึงผลักประตูเข้ามาแล้วก็ชนน้ำเพชรแล้วก็ตบตวัดหน้าเราทีนึงแล้วก็เดินออกไป เขาไม่มีอาวุธถ้ามีอาวุธหน้าหนูคงเสียโฉมไปแล้ว แต่ที่มันไม่มีร่องรอยเอาแบบชีวิตจริงไม่ใช่ละคร ถ้าร่องรอยฟกช้ำบอบช้ำมันจะต้องของแข็งชน แต่นี่แค่มือตบ ถ้าจะให้มันเขียวช้ำหนูต้องตบตัวเองก่อนแล้วล่ะ”
“พอออกมาจากห้องน้ำหนูก็กลับมาที่โต๊ะเพราะกระเป๋าอยู่ที่โต๊ะ หนูออกมาเพื่อนก็ถามว่าหนูเป็นอะไรมั้ย จริงๆ เพื่อนก็จะโทร.แจ้งตำรวจค่ะแต่เราก็ออกมาทันเวลา แล้วเพื่อนก็เป็นเพื่อนผู้ชายไม่สามารถที่จะเข้าห้องน้ำผู้หญิงได้ แล้วพอออกมาจากห้องน้ำเขาก็ลุกไปกันแล้ว ออกมาก็ไม่เจอเขาแล้ว หนูก็กลับบ้านปกติ กว่าจะได้นอนก็ตีสี่ตีห้า พอตื่นเช้าหนูก็ยังไม่มีเวลาที่จะไปแจ้งความเพราะเรารับงานพิธีกรไว้ที่นครปฐมก็ต้องรีบไปทำงาน พอเสร็จงานถึงกลับมาแจ้งความ ข้อหาโดนทำร้ายร่างกายกักขังหน่วงเหนี่ยว และมีการข่มขู่ แต่ก็คงไม่ถึงขั้นพยายามฆ่าหรอกค่ะ ตำรวจบอกว่าหลังจากนี้ก็ต้องติดตามดูเพราะว่ารู้ตัวคนทำอยู่แล้วว่าเป็นใคร”
เผยปมบาดหมางที่ทำให้โดนรุมตบว่าเกิดจาก…
“หนูขอตอบครั้งนี้ครั้งเดียวและจะไม่ให้สัมภาษณ์ในรายการไหนอีกแล้ว เริ่มแรกเกิดจากการที่เขาโดนรุมแฉเกี่ยวกับประวัติในอดีตของเขา แล้วด้วยความที่ก่อนหน้านี้เขามาอยู่บ้านตรงข้ามเรา เราก็ชอบเขาเพราะเขาสวย เราเป็นเด็กน้อยเราก็อยากไปอยู่ใกล้อยากไปถามเขาชื่ออะไรจนคุยกันสักพักนึง ด้วยความที่แม่หนูเป็นคนต่างจังหวัดเวลาทำกับข้าวก็จะทำหม้อใหญ่ๆ ทำเสร็จก็จะแจกเพื่อนบ้านทั้งหมู่บ้าน รวมถึงบ้านเขาเราก็เอาไปให้ด้วย ก็เลยได้คุยกันบ้างแต่ไม่ได้สนิทไม่ได้เป็นเพื่อนกัน เราปลื้มเขาถึงขนาดเสื้อผ้ามือสองของเขาเรายังเอามาใส่เลย เขาขายต่อเรายังซื้อเลย”
“แล้วพอเกิดเหตุการณ์ที่เขาโดนคนรุมแฉเราก็เป็นคนที่เคยโดนแฉมาก่อน เราก็จะเข้าใจว่าการโดนแฉมันเป็นยังไง มันเจ็บนะ มันท้อแท้นะ แล้วคำพูดที่หนูสื่อออกไปคือ สู้ๆ นะพี่ม่าน เพชรแท้ก็คือเพชรแท้ พี่ม่านเป็นคนน่ารัก นางเป็นคนติดดินนะ นางหิวนางก็เดินมาหาที่บ้าน แล้วหนูเขียนไปว่าพี่กินมาม่าก็ได้ คือจะหนูไปเขียนว่าพี่กินหูฉลามก็ได้ มันก็ไม่ใช่ เพราะบ้านน้ำเพชรจะมีหูฉลามมั้ย(หัวเราะ) ไอ้กินมาม่ามันก็เลยเป็นประเด็นทำให้เขาไม่ชอบใจ แต่ด้วยเจตนาของเรา เราให้กำลังใจเขา และหนูก็จบแค่ตรงนั้นไม่เคยไปให้สัมภาษณ์รายการไหนเลย แต่อีกคนนึงก็ให้สัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ ว่าหนูสร้างกระแสเกาะเขาดัง จนหนูอยากจะจบอยากจะอยู่นิ่งๆ ซึ่งก็ผ่านไปไม่กี่วันมีมาอีกแล้วทั้ง ไฮโซม่านฟ้าชวดงานพรีเซ็นเตอร์น้ำดื่มโลโซ แล้วก็มี น้ำเพชรซดแห้วไฮโซเสียบแทน เราก็เลยมีความรู้สึกว่าถูกคุกคามไม่จบสักที แล้วมันจะผิดมั้ยที่น้ำเพชรจะรู้สึกรำคาญแล้วให้สัมภาษณ์ออกไปแบบนั้นเพราะรู้สึกว่าหนูรำคาญผู้หญิงคนนี้จะอะไรกับหนูนักหนา หนูจะต้องกราบเขาเหรอที่พี่แย่งงานพรีเซ็นเตอร์หนูหรอคะ ขอบคุณมากค่ะ มันก็เป็นไปไม่ได้”
“เราให้กำลังใจเขาแล้วแต่เขาไม่รับเราก็จบตรงนั้นไม่ได้ไปสานต่ออะไรให้มันเป็นเรื่อง คนที่อยู่ใกล้ตัวจะรู้ว่าเราเป็นคนไม่มีอะไร คิดยังไงก็พูดอย่างนั้น ไม่มีเงื่อนงำไม่มีซับซ้อน หนูรักใครก็รักจริงๆ แต่ถ้าหนูไม่โอเคกับใครหนูก็จะไม่ยุ่ง มันเป็นไปไม่ได้หรอกว่าหนูจะไปร่วมแฉหรือไปร่วมทำร้ายเขา เขาหลอนไปเองหรือเปล่า หนูไม่อยากจะพูดถึงผู้หญิงคนนี้เลย หนูกลัว”
ส่วนที่โดนตั้งข้อสงสัยว่าโดนตบหลายฉาดแต่กลับไม่มีร่องรอยปรากฏให้เห็นเท่าไหร่นัก น้ำเพชรบอกว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายใช้มือตบไม่ได้ใช้อาวุธไม่ได้ใช้ของแข็งตบ
“เพราะว่าใช้มือตบไงคะ หนูก็ไม่ได้เป็นคนสำออย ก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์เลยว่าหนูมีแผลฉกรรจ์ ฟกช้ำเลือดตกยางออกไม่ใช่ หนูให้สัมภาษณ์ว่ามีอาการเจ็บ โดยที่เขาใช้มือตบไม่ได้ใช้อาวุธไม่ได้ใช้ของแข็งตบเพราะฉะนั้นร่องรอยเหมือนในหนังก็คงไม่มี แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าเขามายกพวกรุมเราแบบนี้มันก็เป็นคดีอาญาแล้ว หลักฐานที่หนูไปแจ้งความก็มีรอยโดนเล็บข่วนและรอยตบแดงๆ บนหน้า หนูถ่ายรูปไว้และเอาไปให้ตำรวจแล้ว และไปหาหมอมาแล้วก็ให้แพทย์นิติเวชประเมินรอยขีดข่วนรอยช้ำ มันก็ต้องมีร่องรอยเนอะ อย่างเช่นตรงนี้ก็ตกสะเก็ดแล้ว(ชี้ให้ดูรอยโดนข่วนที่หัวไหล่) ก็เป็นรอยเล็บข่วน หนูก็คงไม่สามารถข่วนตัวเองจากข้างหลังได้เนอะ ณ ตอนนั้นหนูกลัวนะคะ (กลัวตายมั้ย?) กลัวมาก หนูเหมือนกำลังเล่นกับคนที่มีอิทธิพล เขาก็มาข่มขู่สารพัดเลย เล่นกับไฮโซไม่มีใครอยากเล่นหรอก หนูก็เป็นคนจนๆ เอาจริงๆ วันนั้นเราต้องกลัวนะเพราะเรามาแค่ 2 คน แล้วเขามาเป็น 10 คน ถ้าโดนรุมก็ตายอย่างหมาเลยนะคะ”
เผยที่ต้องไปแจ้งความไว้เพราะกลัวโดนอุ้มฆ่า แฉม่านฟ้าเคยขู่ถ้าไม่พอใจใครสั่งอุ้มฆ่าได้เลย จวกคนดีๆ ที่ไหนทำแบบนี้
“ที่เขามาตบ หนูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าเขาต้องการอะไร เพราะถ้าต้องการคำขอโทษก็ให้ไปในห้องน้ำแล้ว ก็น่าจะจบในส้วมแล้ว อารมณ์ตอนนั้นกลัวค่ะ กลัวว่าเขาจะทำอะไรมากกว่านี้ ที่หนูไปแจ้งความไว้เพราะเขามีการข่มขู่ไว้ว่าคนอย่างกูสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่มึงคิดอีก หนูก็คิดไปเลยค่ะ จะสาดน้ำกรดมั้ย จะอุ้มฆ่าหนูมั้ย เพราะว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาช่วงที่เขาอยู่บ้านตรงข้ามกับหนู เขาพูดบ่อยๆ พูดเสมอว่าถ้าเขาไม่พอใจใครเขาสามารถสั่งอุ้มฆ่าได้เลย เหมือนตายไปได้เลย หนูก็รู้สึกกลัวก็เลยมาแจ้งความไว้ก่อนดีกว่า เขาน่ากลัวนะ หนูก็ไม่รู้หรอกว่าเขาอาจจะมีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือเขาได้ดี หรือว่าเขาอาจจะมีแบ็กกราวน์ที่ดีอันนี้หนูไม่รู้ แต่หนูเชื่อในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม บ้านเมืองมีกฎหมายถ้าเขามาทำอะไรเรามากกว่านี้เราก็ไม่ยอมหรอก อันนี้พูดถึงคนดีๆ คนปกติ คนที่สติสัมปชัญญะดีๆ เขาก็คงจะไม่ใช้กำลังในการคุยกัน”
เปิดหลักฐานเด็ดเป็นกล้องวงจรปิดที่ร้าน กร้าวทำร้ายร่างการเป็นคดีอาญา มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมกฎหมายบ้านเมือง
“ที่ร้านมีกล้องวงจรปิด ตอนนี้หลักฐานอยู่ที่ตำรวจให้ตำรวจเป็นคนดำเนินคดี (เราเอาเรื่องเจ้าของร้านได้รึเปล่าเพราะปล่อยให้ผู้จัดการร้านมาขู่เราเหมือนร่วมมือกัน?) อันนี้ต้องให้ร้อยเวรดำเนินการ เจ้าของร้านอาจจะไม่รู้เรื่องก็ได้ค่ะเพราะในสถานที่ที่เป็นกลางคืนมันมีคนร้อยพ่อพันแม่มันมีคนทะเลาะกันทุกวัน ตอนนี้น้ำเพชรมองว่าเราทะเลาะกับผู้หญิงคนนี้ ณ โมนเมนต์นี้มันเหมือนกับเรามองขึ้นไปบนฟ้าแต่พอเวลาที่เราไปอยู่บนฟ้าแล้วเรามองลงมาเรื่องที่เราทะเลาะกับผู้หญิงคนนี้มันเล็กนิดเดียว บ้านเมืองมีกฎระเบียบบ้านเมืองมีกฎหมายก็ให้กฎหมายเป็นตัวจัดการไป”
“แต่ตอนนี้หนูยังไม่ทราบเหมือนกันว่าตำรวจได้กล้องวงจรปิดมารึยัง ต้องให้ตำรวจเป็นคนจัดการ เพราะว่ามันเป็นคดีอาญา หลักฐานกล้องวงจรปิดเป็นแค่ส่วนหนึ่งแต่ว่าร่องรอยในการทำร้ายหรือว่าสถานการณ์ที่เกิดจากการทำร้ายมันเป็นคดีอาญา ส่วนคลิปที่เขาถ่ายไปถ้าเขาปล่อยมันก็มีหลักฐานแต่ถ้าเขาไม่ปล่อยมันก็ไม่มีหลักฐานเราก็เหมือนไปกล่าวหาเขาลอยๆ ทางคู่กรณียังไม่ได้ติดต่อมาคุยค่ะ ถ้าติดต่อก็ให้ติดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลคดีได้เลย ทางโน้นยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร หนูไม่ทราบเหมือนกันไม่ขอพูดถึงฝั่งโน้นดีกว่า ตำรวจยังไม่เรียกคู่กรณีไปให้ปากคำเลยทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน (ถ้าม่านฟ้าฟ้องกลับล่ะ?) ถ้าเขาจะฟ้องกลับเขาจะฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายหนูหรอคะ(หัวเราะ)”
ภาพม่านฟ้าที่ออกสื่อเป็นสาวอ่อนหวาน ดูขัดแย้งกับสิ่งที่น้ำเพชรพูดโดยสิ้นเชิง กับเรื่องนี้น้ำเพชรยันไม่ได้ใส่ร้ายอีกฝ่าย แขวะเหรียญมีสองด้านเสมอ
“อาจจะเป็นเพราะเขาบันดาลโทสะมาก็ได้ค่ะ เพราะว่าการโกรธการมาควบคุมอารมณ์ตัวเองมันทำให้คนเราบ้าคลั่งและสามารถทำได้ทุกอย่าง หนูไม่ขอออกความคิดเห็นในเรื่องนี้นะคะ (คนจะมองว่าเราใส่ร้ายเขาหรือเปล่า?) เหรียญมีสองด้านเสมอ คนเราเวลามีอะไรมากระทบกระทั่งมันก็คงจะมีอารมณ์บ้างหนูยังเป็นเลย”
สวนกลับกรณีอีกฝ่ายโต้ว่าไม่ได้รุมตบน้ำเพชรอย่างที่โดนกล่าวหา งานนี้น้ำเพชรซัดตนมีพนักงานร้านเป็นพยานปากเอก
“แล้วหนูทำอะไรรึเปล่า ที่เขาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายเรา น้ำเพชรมีพนักงานที่ร้านเป็นพยานให้ว่าเขากักขังเรา ก็…(นิ่งไป) ไม่อยากจะพูดอะไร โกหกคนอื่นได้แต่โกหกตัวเองไม่ได้”
อยากจบ อยากอยู่ให้ไกลจากผู้หญิงคนนี้
“ตอนนี้ไม่อยากจะอยู่ใกล้ผู้หญิงคนนี้เลย อยากให้เขาจบ ส่วนในเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย (ตอนนี้รู้สึกยังไงกับม่านฟ้า?) ไม่รู้สึกอะไรเลย ขอหยุดแค่ที่ว่าเขาเป็นผู้หญิงที่สวยๆ อยู่บ้านตรงข้ามที่เราเคยปลื้มเขา และครั้งนึงเคยไปให้กำลังใจเขาผ่านอินสตาแกรม เขาเคยเป็นอดีตเพื่อนบ้าน เมื่อก่อนเขาเคยอยู่หมู่บ้านเดียวกัน แต่ตอนนี้เขาไปแล้ว เขาเป็นไฮโซไปแล้ว หนูไม่มีอะไรจะพูดเพราะหนูก็กลัวเหมือนกัน เพราะหนูก็กลัวเหมือนกันว่าถ้าพูดอะไรไปแล้วไม่ถูกใจเขา เขาจะสั่งคนมาเก็บหนูมั้ย”
แต่งานนี้ม่านฟ้าดูจะซวยทั้งขึ้นทั้งร่อง นอกจากโดนแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายน้ำเพชรแล้ว เจ้าตัวยังถูกจับผิดอีกรอบ กรณีเป็นไฮโซรวยแต่ทำไมมาอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับน้ำเพชรได้ ทั้งที่บ้านราคาแค่ 3 ล้านกว่าดูจะไม่สมฐานะไฮโซพันล้านเอาซะเลย พอถามกับน้ำเพชรในฐานะคนเคยรู้จักอยู่บ้านตรงข้ามกันเจ้าตัวรีบออกตัวไม่ตอบ ไม่พาดพิง หวั่นโดนสั่งเก็บ
“เคยตอบไปแล้วว่าไม่สนิท เป็นแค่เพื่อนบ้าน บ้านหนูเป็นแค่คนต่างจังหวัด แล้วอยู่กัน 2 แม่ลูกเวลาทำกับข้าวหม้อใหญ่ๆ ก็เอาไปแจกทุกคน เรามีน้ำใจให้กับเพื่อนบ้านทุกคน หนูเคยไปเดินถือกระเป๋าให้เขาครั้งนึงตอนที่เขาไปทำเล็บที่ห้วยขวาง ซึ่งหลายปีมาแล้วตอนนั้นหนูยังอายุ 17-18 เอง อย่าให้หนูพูดดีกว่า ด้วยความที่เป็นเพื่อนบ้านกันทำอะไรมันก็เห็น(หัวเราะแห้งๆ) ไม่อยากพูด (ม่านฟ้ามีข่าวโดนแฉเป็นไฮโซเก๊ไม่ได้รวยจริง เราเคยรู้จักเขามาก่อน จริงๆ แล้วเขาเป็นไฮโซรวยจริงมั้ย?) ไม่ตอบดีกว่า แล้วแต่คนอื่นจะมองก็คงจะเป็นไฮโซมั้งคะ (มีข่าวว่าเรารู้เรื่องราวตอนที่เขาคบกับ “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” ด้วย?) เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาเนาะ กลัวค่ะ กลัวพูดอะไรไปแล้วกลัวโดนเก็บ มีใครไม่กลัวตายบ้าง บ้านหนูอยู่กับแม่ 2 คน หนูทำงานคนเดียว ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ถ้าหนูเป็นอะไรไป สมมุติว่าเขามาสาดน้ำกรดใส่หนู หนูก็ไม่รู้หรอกว่าเขาจะทำมั้ย แต่ถ้าเขาจะทำมันก็ทำได้แหละ เพราะเขารวยขนาดนั้น เขาจ้างสัก 1-2 แสนมาปิดปากขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วง แต่เงินแสนสำหรับหนูมันมีค่ามหาศาล หนูก็คงไม่อยากเอาเรื่องมาใส่ตัวเองนะ หนูก็เป็นคนธรรมดาทำมาหากินแบบนี้ล่ะค่ะ”
“ตอนนี้เวลาไปไหนมาไหนมันหวาดระแวง ไม่กล้าอยู่คนเดียวเลย เวลาไปไหนมาไหนก็จะมีเพื่อนไปด้วยตลอด มันหลอน น้ำเพชรวิเคราะห์แล้วว่าพวกที่ใช้กำลังคือพวกที่ไม่ปกติ หนูกลัวคนที่สามารถใช้กำลังและบิดเบือนกลบเกลื่อน ว่าไม่มีอะไรค่ะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้ได้ มันแปลก น้ำเพชรกลัวนะ ถ้าเป็นคนปกติอย่างเช่น คุยกันรู้เรื่องเข้าใจ ไม่กลัวเลย ตบกันมาสิตัวต่อตัวมาเลย แต่นี่มา 3 คน หนูมีแค่ 2 มือ 2 ขา แล้วเขา 6 มือ 6 ขานะ หนูจะเอาอะไรไปสู้เขา”
ยันไม่ได้รวมหัวกันสร้างกระแส สาบานถ้าตนโกหกว่าโดนม่านฟ้าตบขอให้มีอันเป็นไป โดนฟ้าผ่าตาย แต่ถ้าอีกฝ่ายโกหกขอให้กรรมนี้คืนสนอง
“หนูขอยืนยันแล้วกันค่ะว่าเรื่องนี้หนูไม่ได้เป็นคนก่อขึ้น หนูขอสาบานให้ฟ้าผ่าตาย(ชู 3 นิ้วสาบาน) ให้มีอันเป็นไป ให้ธุรกิจการงานล่มจม ไม่เจริญรุ่งเรือง ไปไหนไม่มีคนรักไม่มีคนเมตตา หาความเจริญในชีวิตนี้ไม่ได้เลย ถ้าหนูโกหกว่าเขามาทำร้ายร่างกายหนูในห้องน้ำในวันนั้นจริงๆ ถ้าเขาไม่ได้ยกพวกมารุมตบหนู 3 คนจริงๆ หนูขอให้ชีวิตหนูต้องมีอันเป็นไป ทำงานทำธุรกิจอะไรไม่ขึ้น ขอให้อับจนไปตลอดชีวิต แต่ถ้าหนูพูดความจริงแล้วอีกฝ่ายโกหกหนูขอให้กรรมนี้คืนสนองค่ะ”